ล้อพูนผลไรซ์มิลล์ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวถุงภายใต้แบรนด์ “บัวชมพู” ทุ่มงบลงทุนกว่า 350 ล้านบาท ยกระดับมาตรฐานการผลิตข้าวไทย ด้วยเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติที่ทันสมัย พร้อมกระจายสินค้าครอบคลุมทั่วประเทศ เตรียมตั้งนิคมอุตสาหกรรมเกษตรแบบสมาร์ทแห่งแรกในประเทศไทย ต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมมุ่งสู่ผู้นำธุรกิจแปรรูปสินค้าเกษตรอย่างครบวงจร
นายถวิล ล้อพูนผลผู้ก่อตั้งและประธาน บริษัท ล้อพูนผลไรซ์มิลล์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจโรงสีข้าว ผลิตแปรรูป และจัดจำหน่ายข้าวสารอย่างครบวงจร ภายใต้แบรนด์ “บัวชมพู” ก่อตั้งเมื่อปี 2547ที่อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการผลิตข้าวให้ได้มาตรฐานและมีคุณภาพระดับสากล รวมถึงการวิจัยและพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์จากข้าว สร้างมูลค่าเพิ่มและประโยชน์เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภคโดยบริษัทใช้งบลงทุนกว่า 350 ล้านบาท ในเทคโนโลยีการผลิตข้าวที่ทันสมัย รวมถึงการใช้ระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยในกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก
“วันนี้บริษัทพร้อมแล้วที่จะกระจายสินค้าข้าวถุงภายใต้แบรนด์ “บัวชมพู” ไปทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกช่องทางจำหน่าย เป็นผลจากการลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและเปลี่ยนมาใช้ระบบอัตโนมัติในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ตามมาตรฐาน Food Grade มีโกดังเก็บข่าวที่ทันสมัย ถังไซไลที่ควบคุมอุณหภูมิเพื่อรักษาคุณภาพของข้าว และยังนำระบบ ERP มาใช้ในการบริหารจัดการ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคและบริหารสินค้าคงคลัง สามารถต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ข้าวไทยได้มากมาย”
สำหรับปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ข้าวสารจากล้อพูนผลไรซ์มิลล์ ภายใต้แบรนด์ “บัวชมพู” มียอดจำหน่ายรวมกว่า 1,700 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20%นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ข้าวสารหอมมะลิบัวชมพู ยังได้รับรางวัลระดับโลก Superior Taste Award 2021 จาก International Taste Institute ที่ได้รับการโหวตจากเชฟร้านอาหารติดดาวมิชลินกว่า 20 ประเทศในยุโรป รางวัลชนะเลิศ ประเภทข้าวพื้นแข็ง ปี 2564 จากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์และเคยได้รับรางวัลชนะเลิศ World’s Best Rice 2016ปัจจุบัน ข้าวสารตราบัวชมพู มีวางจำหน่ายที่แม็คโคร บิ๊กซี กูร์เม่ต์ มาร์เก็ต และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
นายถวิล กล่าวว่า บริษัทต้องการสร้างคุณค่าของเมล็ดข้าวไทยด้วยการต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มและประโยชน์ต่อผู้บริโภคที่มากขึ้น โดยปีที่ผ่านมาได้ลงทุนโรงงานผลิตน้ำมันรำข้าว ภายใต้บริษัท แอลพีพี ไรซ์ บราน ออย์ จำกัด มีกำลังการผลิต 300 ตัน/วัน และเริ่มส่งออกไปญี่ปุ่นในปีนี้เป็นปีแรก รวมทั้งเตรียมจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเกษตรแบบสมาร์ทแห่งแรกของประเทศไทย บนพื้นที่ 650 ไร่ ที่จังหวัดนครสวรรค์มุ่งพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรแปรรูปอย่างครบวงจรด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรของไทย
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องด้านการเกษตรอย่างต่อเนื่อง ทั้งโรงผลิตและวิจัยน้ำมันกัญชา โรงสกัดน้ำมันรำข้าวดิบ ที่มีกำลังการผลิต 600 ตัน/วัน ด้วยงบลงทุนประมาณ 800 ล้านบาท การตั้งโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 20 เมกะวัตต์ และโรงกลั่นน้ำมันบริสุทธ์ ที่จะใช้งบลงทุนอีก 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นแผนลงทุนต่อเนื่องในช่วง 8 ปีข้างหน้า หรือ ภายในปี พ.ศ.2573 (ค.ศ.2030)
“บริษัทฯมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรในประเทศไทย โดยเฉพาะการผลิตข้าว ซึ่งเป็นสินค้าทางการเกษตรที่สำคัญของไทย ให้มีคุณภาพและได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมถึงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปต่อยอดผลิตภัณฑ์จากข้าว เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างรายได้ให้เกษตรกรไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยพัฒนาข้าวให้มีคุณภาพและสามารถแข่งขันได้ในตลาดต่างประเทศ ตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการเป็นครัวของโลก ที่มีความมั่นคงด้านอาหารและความปลอดภัยสูง” นายถวิลกล่าว