ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีอย่าง Microsoft ได้ทุ่มเงินมากถึง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 69,699 ล้านบาท เข้าลงทุนใน London Stock Exchange Group (LSEG) ซึ่งถือเป็นเจ้าของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ด้วยสัดส่วน 4% นอกจากนี้ดีลดังกล่าวยังแสดงให้เห็นการรุกคืบของบริษัทเทคโนโลยีที่เข้ามายังอุตสาหกรรมการเงินเพิ่มมากขึ้น
หุ้นสัดส่วน 4% ที่ทาง Microsoft ได้ลงทุนนั้น บริษัทซื้อหุ้นต่อจากบริษัทลงทุนบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ (Private Equity) อย่าง Blackstone รวมถึง Thomson Reuters Consortium ซึ่งเป็นอดีตผู้ถือหุ้นรายเก่าของธุรกิจข้อมูลด้านการเงินและความเสี่ยงที่มีชื่อว่า Refinitiv ก่อนที่ทาง LSEG จะซื้อธุรกิจดังกล่าวไปในปี 2019 ด้วยมูลค่ามากถึง 27,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในช่วงที่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา มาเจ้าของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน พยายามปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจจากเดิมที่รายได้หลักนั้นมาจากค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหุ้น รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ เช่น ข้อมูลดัชนี ฯลฯ โดยบริษัทมองว่าข้อมูลด้านการเงินต่างๆ มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมมากขึ้นในอนาคต จึงทำให้ LSEG ซื้อกิจการของ Refinitiv
ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวดังกล่าวของ Microsoft นั้นแสดงให้เห็นว่าบริษัทเทคโนโลยีเริ่มที่รุกเข้ามาในภาคการเงินเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในบริษัทที่เป็นเจ้าของตลาดหุ้นหรือตลาดซื้อขายล่วงหน้า รวมถึงการจับมือเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะการใช้ Cloud ของบริษัท ฯลฯ
ดีลดังกล่าวยังทำให้ Microsoft กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ LSEG อันดับ 7 ทันที นอกจากนี้ในดีลดังกล่าวยังแสดงถึงความเป็นพันธมิตรกับยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีของสหรัฐฯ โดยที่ทาง LSEG จะเปลี่ยนมาใช้บริการของ Cloud รวมถึงบริการอื่นๆ จาก Microsoft เป็นระยะเวลา 10 ปี
นอกจากนี้นักวิเคราะห์ของ Jefferies วาณิชธนกิจในสหรัฐอเมริกายังชี้ว่า การลงทุนของ Microsoft ครั้งนี้ถือเป็นก้าวย่างสำคัญของ LSEG ในการนำข้อมูลด้านการเงินต่างๆ ไปใช้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเพิ่มรายได้หลังจากนี้
Microsoft คาดว่าการลงทุนในบริษัทแม่ของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนคาดว่าจะแล้วเสร็จได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2023 นี้ และคาดว่าลูกค้าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากความร่วมมือดังกล่าวภายในระยะเวลา 18 ถึง 24 เดือนหลังจากนี้