ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประสบความสำเร็จอีกครั้งหลังจากใช้เวลากว่า 2 ปีเพื่อมุ่งมั่นสร้างสรรค์Signature แบรนด์ “บ้านลลิล The Prestige” บ้านระดับพรีเมียมป้อนสู่ตลาดแนวราบของเมืองไทย โดยถูกออกแบบให้พื้นที่ทุกตารางเมตรคุ้มค่าทั้งด้านฟังก์ชัน และอ่อนช้อยไปด้วยความงดงามในสไตล์ฝรั่งเศส ที่แฝงไปพร้อมความหรูหราด้านดีไซน์ “French Colonial Style” ซึ่งถือเป็นบริษัทอสังหาฯ รายแรกที่นำเสนอประสบการณ์ใหม่ในการอยู่อาศัยนี้สู่ผู้บริโภคส่งผลให้ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากโครงการนำร่องโซนประชาอุทิศ – สุขสวัสดิ์พร้อมชูโมเดล BCG มาใช้ในการพัฒนาโครงการเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี’ เปิดเผยว่าแบรนด์ ‘บ้านลลิล The Prestige’ ถือเป็นกลุ่มบ้านระดับพรีเมียมของบริษัทฯ โดยมีระดับราคาอยู่ที่ 4-7ล้านบาท ซึ่ง ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ตั้งใจที่จะพัฒนาขึ้นเพื่อเติมเต็มความต้องการตลาดในระดับบน โดยได้เริ่มเผยโฉมโครงการแรกคือโครงการ‘บ้านลลิล The Prestige’ ประชาอุทิศ – สุขสวัสดิ์ บนพื้นที่ 39 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท จำนวน 181 ยูนิตไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จอีกขั้นของบริษัทฯ ในการขยายส่วนแบ่งทางการตลาดมาสู่กลุ่มตลาดใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่องค์กร พร้อมปูทางสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบสอดคล้องกับนโยบายในการก้าวสู่ National Property Company ของไทยในอนาคต
ทั้งนี้ บ้านลลิล The Prestige ได้รับการออกแบบในสไตล์ French Colonial ผ่านแรงบันดาลใจจากพระราชวังแวร์ซายและสวนโพรวองซ์ (Provence) ที่ให้ความรู้สึกโดดเด่นในเรื่องดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ โดยมีความหรูหราพรีเมียม พร้อมรายล้อมไปด้วย Green Space ที่มีขนาดใหญ่ และมาพร้อมนวัตกรรมประหยัดพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ โดยมีห้องอเนกประสงค์ที่สามารถ Flexible function ได้อย่างอิสระ บนทำเลคุณภาพที่มีให้เลือกถึง 4 แบบบ้าน โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยสูงสุด 174 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังครบครันไปด้วยคลับเฮ้าส์หรูขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมฟิตเนสและสระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อมทั้งยังติดตั้งระบบไฟแสงสว่างในพื้นที่ส่วนกลางแบบ LED ด้วยระบบโซล่าเซลล์ และประหยัดพลังงานด้วยระบบหมุนเวียนน้ำเพื่อใช้ดูแลสวนส่วนกลาง มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณโครงการพร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถเข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Keycard Access ทำให้สามารถอุ่นใจในการใช้ชีวิตได้ตลอดวัน เรียกว่าตอบโจทย์และตรงใจกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในยุคใหม่เลยทีเดียว
“จากความสำเร็จของโครงการแรกในย่านประชาอุทิศ – สุขสวัสดิ์ ทำให้ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มั่นใจว่า Signature แบรนด์ ‘บ้านลลิล The Prestige’ ที่บริษัทตั้งใจพัฒนาขึ้นนี้ จะสามารถเข้ามาเติมเต็มความต้องการได้อย่างลงตัวด้วยแนวคิด “Beyond Luxury Of Living” ที่สุดแห่งความหรูหรา สง่างามเหนือระดับบนอาณาจักรส่วนตัวซึ่งพร้อมจะยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้าทุกคนได้มีชีวิตที่ลงตัวทั้งนี้บริษัทฯ ได้นำโมเดลเศรษฐกิจอย่าง BCG หรือ ‘Bio-Circular-Green’ Economy ที่เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมไปควบคู่กัน ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ (BioEconomy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) มาเป็นแกนหลักในการพัฒนาโครงการ ซึ่งนอกจากความปรารถนาที่ต้องการให้คนไทยทุกคนมีบ้านแล้ว บริษัทฯ ยังต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าควบคู่ไปกับการบริหารการใช้ทรัพยากรในปัจจุบัน และต้องการรักษาสิ่งแวดล้อมในอนาคต เพื่อสร้างให้เกิดสังคมการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ โดยในปี 2566 บริษัทฯ จะเดินหน้าพัฒนาโครงการบ้านระดับพรีเมียมแบรนด์ ‘บ้านลลิล The Prestige’ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่าต้องคุ้มค่าทั้งในด้านราคา โดดเด่นในด้านทำเล และไม่ลืมที่จะใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน” นายชูรัชฏ์ กล่าวสรุป
สอบถามและชมข้อมูล ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เพิ่มเติมได้ที่
Call Center 1778 หรือ https://www.lalinproperty.com/news/baanlalin-the-prestige/