บริษัทอะแมส มี จำกัด ผู้นำเข้าสินค้าแฟชั่น มัลติ ลักซ์ชัวรี แบรนด์ ยก 11 แบรนด์ดัง จัดมินิแฟชั่นโชว์ ชูนิยาม Never go out of style and Never go out off inspried ฉลองเปิดตัวช้อปสินค้าสาขาใหม่ พร้อมเชิญเซเลบคนดังตบเท้าเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม
นางสาวยุฤดี ธนะกิตติภูมิ กรรรมการผู้จัดการ บริษัท อะแมส มี จำกัด เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้เติบโตในวงการแฟชั่น และการ์เม้นท์มาอย่างยาวนาน ประกอบกับจากเดิมที่ธุรกิจครอบครัวเป็นธุรกิจที่รับผลิตเสื้อผ้าให้กับแบรนด์ชั้นนาหลากหลายแบรนด์ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ ทำให้เห็นช่องว่างและโอกาสในส่วนนี้ จึงเป็นที่มาของแบรนด์ อะแมส มี โดยบริษัทอะแมส มี ในฐานะน้องใหม่ผู้นำเข้าสินค้าแฟชั่น มัลติ ลักซ์ชัวรี มีความตั้งใจที่จะรวบรวมแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใครจากทั่วทุกมุมโลกมาให้ลูกค้าได้เลือกสรร บนคอนเซ็ปท์นิยามของแฟชั่นที่สวย และดูดีแบบมีสไตล์ ภายใต้อัตลักษณ์ Never go out of style and Never go out of inspired ซึ่งทุก แบรนด์ที่นำเสนอภายใต้ อะแมส มี นั้นเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก ได้แก่ Amass me (House Brand), AEL Studio ( Amy Enjoy life), XUNRUO, Jungle Me, CAMOOONI, GOUDIRNQC, LA’FESTIN, TOMATO&POTATO, TSMLXLT, Empty Reference, Valleyouth, และ KAPALIKKO นอกจากนี้ อะแมส มี ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตเจ้าเดียวในประเทศไทย ที่ถือลิขสิทธิ์แบรนด์ทั้งหมดที่อยู่ใน AMASS ME Shop เพราะฉะนั้น ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่า ทุกคอลเลกชัน ที่นำเสนอและจัดจำหน่ายนั้นมีสไตล์ไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน
“นิยามของคำว่า ‘แฟชั่น’ คือความหลากหลายทางอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของใช้ รวมทั้งเครื่องประดับ ที่ปัจจุบันเป็นมากกว่าเครื่องนุ่งห่มหรือการสวมใส่ธรรมดา แต่กลายมาเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่า นั่นคือเป็นการแสดงอัตตาลักษณ์และตัวตนของแต่ละบุคคล หรือความกล้าที่จะแตกต่าง ซึ่งสิ่งที่อะแมส มี มุ่งให้ความสำคัญคือการสร้างแรงบันดาลใจในทุกๆ คอลเลกชัน ให้กับลูกค้า และหัวใจของการปั้นแบรนด์ที่ อะแมส มี ต้องการคือการส่งเสริมให้ผู้หญิง รวมทั้ง LGBTQ+ กล้าที่จะแสดงออกและเป็นตัวของตัวเองได้อย่างมั่นใจ และชัดเจน โดยนำเสนอผ่าน Valleyouth (วาเล่ยูส) ที่เป็นคอลเลกชันลักษณะดีไซน์เนอร์แบรนด์ ที่คัดสรรมาใหม่ มีความหลากหลายใน Gender
สำหรับในวงการแฟชั่นปัจจุบันยังไม่มีร้านลักษณะมัลติ ลักซ์ชัวรี แบรนด์ ที่รวบรวมแบรนด์นำเข้าที่มีเอกลักษณ์และสไตล์ที่แตกต่างกันออกไปมานำเสนอลูกค้าในเมืองไทย อะแมส มี จึงเป็นแบรนด์แรกที่เห็นความสำคัญมากกว่าการขายสินค้าแฟชั่นทั่วไป แต่ต้องการเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ให้สำหรับทุกคน ที่มีเสื้อผ้าหลากหลายแบบ หลากหลายสไตล์รวมกันอยู่ ให้ทุกคนมาเลือกชม และในแต่ละแบบ แต่ละสไตล์ก็ยังคงแสดงถึงความเป็นตัวตนของลูกค้า ที่สามารถค้นหาตัวเอง และพรีเซ็ตน์ออกมาได้อย่างมั่นใจ” ยุฤดี กล่าว
ปัจจุบันอะแมส มี มีช้อปหน้าร้านเพื่อจำหน่ายสินค้าแล้ว 9 สาขา ได้แก่ เดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ ชั้น 1, เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา ชั้น 1, เซ็นทรัล เวิลด์ ชั้น 1, เซ็นทรัล ชิดลม ชั้น 2 และชั้น 3, เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 1, เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ชั้น 1, เดอะ พรอมานาด ชั้น 1, เทอร์มินอล 21 พระราม 3 รวมทั้งสาขาใหม่ที่เปิดตัวล่าสุด สาขา ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ชั้น 1 โดยที่ผ่านมาสินค้ามัลติ ลักซ์ชัวรี แบรนด์ ภายใต้การจำหน่ายของอะแมส มี นั้นได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในกลุ่มไฮเอนด์ ตลอดจนคนรุ่นใหม่วัยทำงาน ทำให้ในช่วงปลายปี 2565 นี้ อะแมส มี จึงขยายสาขาเพิ่ม อีก 1 สาขา พร้อมกับนำเข้าสินค้าแบรนด์น้องใหม่ Valleyouth (วาเล่ยูส) มาวางจำหน่าย เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มใหม่ และเร่งสร้างยอดขายที่มากขึ้น
นอกจากนี้ กิจกรรมเปิดตัวแบรนด์ Valleyouth (วาเล่ยูส) แบรนด์แฟชั่นนำเข้าน้องใหม่ล่าสุด พร้อมเปิดตัวสาขาใหม่ ณ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ของอะแมส มี นั้นยังได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้คนดัง อาทิ แอน – สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์, พรฟ้า – ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์, กวิน วานิชดี, ดร. ศติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา, พล.ต.อ. วัฒนา ยี่จีน, พล.ต.ต. ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์, ญาดา พัฒฆายน, ณิชชา บุณยากร, นุ่น – ณัชชานันท์ เลียงอรุณวงศ์, ตัวเล็ก – ปริญญานาฏ ด่านซ้าย และอีกคับคั่งที่ตบเท้าเข้าร่วมงาน
“บนความตั้งใจของ อะแมส มี คือการเป็นมากกว่าช้อปสินค้าแฟชั่น แต่เรา มุ่งมั่นผลักดันให้ทุกคนมีความกล้าในการถ่ายทอดอัตลักษณ์ ของตนเอง และอะแมส มีจะไม่หยุดคัดสรรแบรนด์ที่มีคุณภาพ มีสไตล์ และมีเอกลักษณ์ เพื่อทำให้ตู้เสื้อผ้าใบนี้ เป็นตู้เสื้อผ้าใบโปรดและสามารถตอบโจทย์ลูกค้าทุกคน” ยุฤดี กล่าวทิ้งท้าย