สตาร์บัคส์เปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ เฮเซลนัท โดลเช่ ลาเต้ (Hazelnut Dolce Latte) ที่ผสมผสานอย่างลงตัวของช็อตเอสเพรสโซ่เข้มข้นกับซอสเฮเซลนัท พร้อมตกแต่งด้วยผงมอคค่า พร้อมเสิร์ฟให้ลิ้มลองได้ทั้งสูตรร้อน เย็น และปั่น พร้อมเอาใจลูกค้าที่ชื่นชอบดื่มชาเปิดตัวเครื่องดื่มชา จัสมิน คลีเมนไทน์ เพียว มัทฉะ ลาเต้ (Jasmine Clementine Pure Matcha Latte) ชาเขียวมัทฉะที่เพิ่มความหวานด้วยกลิ่นมะลิ และความสดชื่นจากส้มคลีเมนไทน์ในนม พร้อมเสิร์ฟความนุ่มละมุนที่แฝงด้วยความสดชื่นและให้ความรู้สึกผ่อนคลายทั้งในสูตรร้อนและเย็น และการกลับมาของเครื่องดื่มยอดนิยมอย่าง เพียว มัทฉะ ลาเต้ (Pure Matcha Latte) ที่เกิดจากการคัดสรรใบชาแท้คุณภาพจากญี่ปุ่น บดแบบละเอียดจนได้รสชาติเข้มข้นที่ปราศจากส่วนผสมของน้ำตาลในผงมัทฉะ ผสมกับนมร้อนและน้ำเชื่อมให้รสชาติถูกใจผู้ชื่นชอบการดื่มชาเขียวแบบเข้มข้น โดยสามารถเลือกดื่มได้ทั้งในสูตรร้อน เย็น และปั่น หรือลูกค้าสามารถเลือกเครื่องดื่ม ไอซ์ จัสมิน คลีเมนไทน์ เพิร์ล อู่หลง (Iced Jasmine Clementine Pearls Oolong) ชาอู่หลงที่นำมาผสมผสานซอสจัสมิน เติมความสดชื่นด้วยคลีเมนไทน์ที่นำไปเชคกับน้ำแข็ง พร้อมเพิ่มสีสันด้วยบลัด ออเรนจ์ เพิร์ลพร้อมเสิร์ฟในรูปแบบเครื่องดื่มเย็นสุดสดชื่น โดยเครื่องดื่มทั้ง 4 เมนูเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม – 20 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขาทั่วประเทศ
สตาร์บัคส์ นำเสนอขนมหลากเมนูเติมความรักช่
สำหรับผู้ชื่นชอบกาแฟ สตาร์บัคส์ พร้อมส่งมอบกาแฟคุณภาพจากทั่วโลก อาทิ สตาร์บัคส์ ซิงเกิ้ล ออริจิน เอล ซัลวาดอร์ อาฮัวซาปัน (Starbucks Single-Origin El Salvador Ahuachapán) เมล็ดกาแฟคุณภาพจากการเพาะปลูกในดินแดนแหล่งภูเขาไฟรวมไปถึงน้ำพุร้อนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งแม้ว่า เอล ซัลวาดอร์จะเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในทวีปอเมริกากลางแต่ก็เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์กาแฟ ซึ่งสตาร์บัคส์มีเป้าหมายที่จะเข้าไปเป็นพันธมิตรกับซัพพลายเออร์ในการสนับสนุนผู้ผลิตกาแฟเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของกาแฟในภูมิภาค โดยสตาร์บัคส์ซื้อกาแฟจากเอลซัลวาดอร์ตั้งแต่ปี 1971 และเปิดร้านสตาร์บัคส์สาขาแรกขึ้นในประเทศเอลซัลวาดอร์ในปี 2010 สตาร์บัคส์ ซิงเกิ้ล ออริจิน กัวเตมาลา กาซิ ซิเอโล่ หรือเซียโล่ 2023 (Starbucks Singles Single-Origin Guatemala Casi Cielo 2023) กาแฟที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้ ความสดชื่นของเมเยอร์ เลมอนและโกโก้นิบส์ผสานกันทำให้กาแฟชนิดนี้มีรสชาติละมุนและให้ความสดชื่น โดยในปีนี้สตาร์บัคส์ได้ขยายการรับซื้อกาแฟจากแหล่งเพาะปลูกฟาร์มใหม่ ทำให้ได้กาแฟที่มีความสดชื่นมีชีวิตชีวาระดับกลางจนถึงมาก แฝงความซับซ้อนในรสชาติ เป็นต้น
สตาร์บัคส์ ต้อนรับปีด้วยคอลเลคชั่นดริ๊งค์แวร์ “Year of The Rabbit” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเฉลิมฉลองปีนักกษัตรปีเถาะ (ปีกระต่าย) โดยจะมาในสองรูปแบบ คือ กระต่ายที่ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มที่แสดงให้เห็นถึงช่วงฤดูหนาว (Winter) และกระต่ายถือดอกไม้ที่กำลังผลิบาน เปรียบเสมือนเป็นการก้าวเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (Spring) โดยสีที่ใช้คือสีฟ้า สีชมพูอ่อน และสีชมพูอมแดง พร้อมให้ลูกค้าได้เลือกสรรทั้งในรูปแบบแก้ว ทัมเบลอร์ รวมถึงกระปุกออมสินและตุ๊กตา เหมาะสำหรับการซื้อเป็นของสะสมหรือของขวัญในช่วงเทศกาล โดยจะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2566 เป็นต้นไปที่ร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขาทั่วประเทศ