เทคนิคอลไบโอเมด รีแบรนด์ใหม่เป็น “AESLA” ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความงามระดับโลก เตรียมฉลอง 10 ปี ประกาศความพร้อมผนึกกำลังพันธมิตรชั้นนำขยายฐานธุรกิจ ชิงตลาดการแพทย์ด้านความงามในประเทศไทยมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท จัดโครงสร้างธุรกิจใหม่รับยุคดิจิทัล วางเป้าหมายรายได้ทะยานสู่ 600 ล้านบาทภายใน 3 ปี
นายวรุตม์ สุทธินันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคนิคอลไบโอเมด จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ชั้นนำด้านความงามระดับโลก เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ พร้อมทะยานสู่ New S-Curve และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “AESLA” เพื่อสร้างการรับรู้และตอกย้ำคุณค่าแบรนด์ในใจผู้บริโภคในการเป็นผู้นำนวัตกรรมความงามที่ได้มาตรฐานระดับโลก อีกทั้งยังมีการปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อเตรียมความพร้อมในการขยายธุรกิจด้วยสินค้าและบริการนวัตกรรมใหม่ ตอบโจทย์การทำธุรกิจทั้งแบบ B2B และ B2C มากยิ่งขึ้น โดยแบ่งประเภทสินค้าและบริการเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
1. นำเข้า-จัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มเครื่องมือแพทย์ด้านความงาม ให้แก่แพทย์และสถานประกอบการ
2. นำเข้า-จัดจำหน่ายสินค้ากลุ่ม Consumable Products สำหรับกลุ่มแพทย์ด้านความงาม ให้แก่แพทย์และสถานประกอบการ
3. นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าเครื่องมือแพทย์ด้านความงามในกลุ่ม Home Use เพื่อการใช้ในครัวเรือน
4. จำหน่ายสินค้าและให้บริการด้าน Digital Platform ต่าง ๆ สำหรับผู้บริโภคทั่วไป (End user) โดยครอบคลุมทั้งในส่วนของใบหน้า รูปร่าง ผิวพรรณ กล้ามเนื้อ รวมถึงปัญหาสุขภาพของผู้หญิง และการปลูกผม
“AESLA ยังคงมุ่งเน้นการทำธุรกิจเกี่ยวกับ Medical Aesthetics ให้ความสำคัญถึงคุณภาพสินค้าและประโยชน์สูงสุดที่ผู้บริโภคจะได้รับ มีกลุ่มสินค้าและบริการจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกมากกว่า 10 แบรนด์ จากสหรัฐอเมริกา และยุโรป ทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพ มาตรฐานของสินค้า และบริการที่เทียบเท่าในระดับสากล ครอบคลุมทุกความต้องการในตลาด Aesthetics ทั้งในด้านผู้ประกอบการ และผู้ใช้สินค้า ทำให้เรามั่นใจว่าเราจะได้รับความเชื่อมั่น และผลการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าของเรามากยิ่งขึ้น” นายวรุตม์ กล่าว
ทั้งนี้ AESLA วางเป้าหมายเพื่อก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำของบริษัทเครื่องมือแพทย์ด้านความงามที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศไทยภายในระยะเวลา 3 ปีหลังจากนี้ ซึ่งชื่อแบรนด์ AESLA เกิดจากการรวมกันของคำว่า “Aesthetics” และ “Laser” สะท้อนถึงคุณค่าของแบรนด์ที่มุ่งเน้นเรื่องเทคโนโลยี ความทันสมัย และให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพ ความรู้ มาตรฐานในระดับ U.S. FDA (Gold Standard) ที่ทั่วโลกให้การยอมรับถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย และยังช่วยสร้างการจดจำแบรนด์ในใจของกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
นายวรุตม์ กล่าวว่า สำหรับเทรนด์ของอุตสาหกรรมความงามโลกหลังยุค COVID-19 นั้น มีการฟื้นฟูและเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มของเครื่องมือแพทย์ด้านความงาม ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ การเห็นคุณค่า และต้องการดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้นของผู้คน ทำให้ความต้องการและการขยายตัวของการลงทุนในตลาดกลุ่มนี้สูงมากขึ้นเป็นพิเศษ แต่ขณะเดียวกันด้วยความสามารถในการผลิตที่ยังคงจำกัดในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณการผลิตสินค้าจากทั่วโลกยังไม่สามารถทำได้อย่างพอเพียงต่อความต้องการโดยรวม ส่งผลให้ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ด้านความงามทั่วโลกนั้นมีแนวโน้มเติบโตแต่อาจยังไม่เต็มที่นักในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีทิศทางในการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกอย่างน้อย 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งในประเทศไทยเองมีแนวโน้มการขยายตัวไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดโลก ทั้งนี้ คาดว่าเฉพาะตลาดนวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ด้านความงามในประเทศไทย ปี 2022 ที่ผ่านมา มีมูลค่าโดยรวมมากกว่า 2,000 ล้านบาท ขยายตัวกว่า 15%
สำหรับเทรนด์นวัตกรรมความงามในปัจจุบันยังคงเน้นการแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ บนใบหน้าเป็นสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาเม็ดสีบนใบหน้า และการยกกระชับผิวหน้า โดยจะมุ่งแข่งขันกันด้วยเทคโนโลยีที่เห็นผลการรักษาที่ชัดเจน ปลอดภัย และรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม อีกทั้งยังให้ความสำคัญในเรื่องของการลดความเจ็บปวดและใช้เวลาในการพักฟื้นหลังทำการรักษาที่น้อยลง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันของผู้บริโภคที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการสร้างความรู้ให้แก่อุตสาหกรรมความงาม โดยมีแผนเข้าร่วมกับโรงพยาบาลและโรงเรียนแพทย์ต่าง ๆ เพื่อทำการศึกษาผลการใช้นวัตกรรมความงามกับรอยโรคที่ซับซ้อนและยากในการรักษา และร่วมเผยแพร่เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนไทยมากที่สุด
บริษัทฯ ยังมีแผนเพิ่มทีมงานและขยายจุดบริการในหัวเมืองของส่วนภูมิภาคในเขตภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคอีสาน เพื่อตอบรับการให้บริการที่สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น มีการวางแผนการปรับปรุงจัดการภายในองค์กร โดยมีการนำมาตรฐาน ISO 9001 และ 14001 Version 2015 พร้อมระบบต่าง ๆ มาใช้เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจแบบยั่งยืนและร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
สำหรับปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายรวมกว่า 300 ล้านบาท โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ประมาณ 16% จากมูลค่าโดยรวมของตลาดสินค้าเครื่องมือแพทย์ด้านความงามในประเทศ และเติบโตจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 50% ทั้งนี้ หลังการ Rebranding บริษัทฯ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 35% ในปี 2023 หรือมีรายได้อยู่ที่ 500 – 700 ล้านบาท ภายในช่วงระยะ 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ บริษัท AESLA เตรียมจัดงาน “The New Era of World Class Medical Aesthetic Laser” เพื่อฉลองครั้งใหญ่อย่างเป็นทางการ ณ Four Seasons Bangkok Hotel ในวันพฤหัสที่ 23 กุมภาพันธ์ 2023 ที่จะถึงนี้
Related