พลังแห่งความกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวาปะทุตัวขึ้นอย่างหนักแน่นและทรงพลังเกินฉุดรั้ง เป็นพลังที่กำลังสูบฉีดเข้าสู่ช่วงปีนับจากนี้ ทำให้ผู้คนมีความหวังความเบิกบาน และความสุข ท่ามกลางห้วงเวลาที่ความไม่แน่นอนยังคงดำรงอยู่อย่างต่อเนื่อง รายงาน ‘The Future 100:2023’ จากวันเดอร์แมน ธอมสัน ระบุ
ทัศนะดังกล่าวจากรายงานฉบับที่ 9 ของการศึกษาแนวโน้มสำคัญประจำปีที่ฉายให้เห็นภาพเค้าโครงของเทรนด์ที่กำลังมาแรงที่สุดจนต้องเฝ้าจับตาในช่วงเวลาหนึ่งปีข้างหน้า ได้ชี้ว่าแม้วิกฤติทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมจะยังคงดำเนินต่อไป แต่ผู้คนก็จะเลือกอยู่กับสิ่งที่สร้างความเบิกบานใจ
การก่อตัวของเทรนด์ต่างๆ อย่างเช่น ‘Elevated Expressionism’, ‘Feel-Good Feeds’ และ ‘Ageless Play’ ซึ่ง วันเดอร์แมน ธอมสัน อินเทลลิเจนซ์ (Wunderman Thompson Intelligence) ให้ชื่อเรียกว่า “จอย-โคโนมี่” (Joy-Conomy) หรือ เศรษฐกิจความสุข เผยให้เห็นโอกาสสำหรับแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการที่ผู้บริโภคโหยหาแรงบันดาลใจและการมองโลกในแง่ดี เนื่องจากผู้คนต่างมุ่งมั่นที่จะแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการปรับตัว นวัตกรรม และความเบิกบาน แม้ในขณะที่ยังมีความยากลำบากคอยอยู่ตรงหน้าอย่างต่อเนื่อง
เอมม่า ชิว ผู้อำนวยการใหญ่ (Emma Chiu, Global Director) ของ วันเดอร์แมน ธอมสัน อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า “ในปีที่ทุกสัญญาณล้วนชี้ไปยังภาพอนาคตที่มืดมนและสับสนวุ่นวายเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ยากลำบาก ตลอดจนความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและความเสื่อมถอยของสิ่งแวดล้อมยังคงดำรงอยู่ เรากลับพบว่าแบรนด์ยังคงมีโอกาสอย่างไม่รู้จบในการเชื่อมตัวเข้ากับความคิดและจิตใจของผู้บริโภค เนื่องจากการมองโลกในแง่ดีที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้วกำลังเปลี่ยนผันเป็นความต้องการที่งอกงามขึ้นเรื่อยๆ ในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขสนุกสนาน”
“ชุมชน ความคิดสร้างสรรค์ และสีสันอันสดใส จะแต่งแต้มความมีชีวิตชีวาให้กับช่วงปี 2023 ความเครียดในปีที่ผ่านๆ มาได้ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการหาจุดลงตัวที่สุดทั้งใจกายเพื่อให้ตนเองมีความสุขได้มากขึ้น พัฒนาการอันรวดเร็วของเทคโนโลยีทำให้เราได้เห็นวิวัฒนาจากอาคารบ้านเรือนไปสู่การใช้ชีวิตอยู่ในเมตาเวิร์ส (โดยที่ทุกมิติในชีวิตของเรากำลังถูกสำรวจอยู่ในพรมแดนใหม่ในโลกของประสบการณ์ลูกค้าดังกล่าว) และผู้คนกำลังเรียกร้องให้แบรนด์ใช้พลังของตนเองเพื่อสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้น โดยการให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ กับเรื่องของการเข้าถึงและการผสานความแตกต่าง” เธอกล่าวเสริม
นอกเหนือจากการก่อตัวขึ้นของ Joy-Conomyแล้ว เทรนด์เด่นอื่นๆ ยังประกอบด้วย:
- วัฒนธรรม – นวัตกรรมพื้นเมือง(Indigenous Innovation): เทคนิคของชนพื้นเมืองกำลังสร้างแนวทางใหม่ที่เป็นการปฏิรูปการจัดการสิ่งแวดล้อม
- เทคโนโลยีและเมตาเวิร์ส – การเข้าถึงเทคโนโลยี (Techcessibility):บริษัทต่างๆ กำลังออกแบบสภาพแวดล้อมทางดิจิทัลของตนเองใหม่เพื่อให้เอื้อต่อการเข้าถึงได้มากขึ้น
- การเดินทางและบริการต้อนรับ – การเดินทางท่องเที่ยวในเขตอบอุ่น (Temperate Travel): อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นจะทำให้นักเดินทางหันมาเสาะหาที่หมายที่มีสภาพภูมิอากาศเย็นกว่า
- แบรนด์และการตลาด – ครีเอเตอร์ที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น (Amplifying Diverse Creators): เสียงเรียกร้องที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ที่ต้องการให้โฆษณาสะท้อนความเป็นผู้บริโภคที่แท้จริง กำลังขับเคลื่อนให้เกิดความร่วมมือระหว่างแบรนด์กับครีเอทีฟที่เป็นบุคคลทั่วๆ ไป
- อาหารและเครื่องดื่ม – เมนูจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (Cell-cultured Dishes): เมื่ออาหารจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อสามารถออกจากโลกของห้องแล็บจนเข้าสู่ซูเปอร์มาร์เก็ตได้แล้ว ร้านอาหารระดับหรูหราก็อาจจะเป็นธุรกิจประเภทแรกที่ได้รับประโยชน์
- ความงาม – ส่วนผสมที่ฟื้นคืนชีพ (Resurrected Ingredients): แบรนด์กำลังนำเอาส่วนประกอบที่กระตุ้นสัมผัสการรับรู้ต่างๆ ซึ่งห่างหายไปและถูกหลงลืมไปแล้วกลับมาสู่วงการอีกครั้ง
- ค้าปลีกและการพาณิชย์ – ค้าปลีกในยามวิกฤติ (Crisis Retail): เมื่อวิกฤติทางการเงินแผลงฤทธิ์ แบรนด์ต่างๆ จึงยกระดับความช่วยเหลือที่มีให้แก่ผู้บริโภคกลุ่มที่เปราะบางที่สุดของตน
- ลักชัวรี่ – ทะเลคือที่พำนัก (Residence at Sea): ชาวดิจิทัลรุ่นถัดไปที่อยู่ไปไม่ติดที่ กำลังมุ่งหน้าออกสู่ทะเลอย่างมีสไตล์
- สุขภาพ – โปรแกรมสำหรับคนวัยทอง (Menopause Retreats): โปรแกรมที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่กำลังเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนกำลังเป็นกระแสที่มาแรง โดยที่เนื้อหามีตั้งแต่การให้ความรู้เรื่องการให้ฮอร์โมนทดแทน (Hormone Replacement Therapy – HRT)ไปจนถึงการให้คำแนะนำด้านโภชนาการ
- การทำงาน – ความยืดหยุ่นตามยุคสมัย (Generation Flex): ความคาดหวังของพนักงานกำลังเพิ่มสูงขึ้น แต่ในภาวะที่เศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ การสร้างสมดุลในการบริหารงานจะออกมาในรูปที่เกิดประโยชน์ต่อพวกเขาหรือไม่?
มัวรีน ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ วันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “หลังจาก 3 ปีแห่งความเศร้าซึมจากสถานการณ์โรคระบาด เราเห็นได้ว่าจิตวิญญาณแห่งความเป็นมนุษย์กำลังเลือกที่จะอยู่กับพลังบวกและความหวัง แม้ความยากลำบากครั้งนี้จะยังคงนำมาซึ่งความขัดสนทางเศรษฐกิจ แต่คนไทยกำลังได้ลิ้มรสความหวังครั้งใหม่แล้ว โดยการท่องเที่ยวที่กระเตื้องขึ้นในหลายๆ ด้านกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้โลดแล่นอีกครั้ง ในปีที่ผ่านๆ มา รายงาน Future 100 ได้นำเสนอการคาดการณ์ต่างๆ มากมายหลายเรื่องที่ได้กลายเป็นจริงในทุกด้าน เราหวังว่ารายงานฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อแบรนด์และนักการตลาดในการวางแผนเพื่อวันข้างหน้าและปรับตัวให้ตรงใจผู้บริโภคได้มากขึ้น เพื่อเป็นพลังกระตุ้นความหวัง แรงบันดาลใจ และความสุขความเบิกบานให้กับผู้บริโภคชาวไทย”
The Future 100:2023 เป็นผลงานของ วันเดอร์แมน ธอมสัน อินเทลลิเจนซ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยและนวัตกรรมของ วันเดอร์แมน ธอมสัน ที่มุ่งเน้นเรื่องอนาคตเป็นสำคัญ รายงานฉบับนี้ได้รับการเรียบเรียงขึ้นโดยทีมนักวิเคราะห์เทรนด์ชั้นนำ ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในแบบเอ็กซ์คลูซีฟและงานวิจัยกรรมสิทธิ์ของบริษัทฯ
ดาวน์โหลดรายงานฉบับนี้ได้ที่: https://www.wundermanthompson.com/insight/the-future-100-2023