บิสกิต โซลูชั่น เปิด 4 ข้อดี ChatGPT โต้คลื่นเทคโนโลยีลูกใหม่ แนะพลิกเกมใช้ประโยชน์จาก Generative AI ลดเวลาทำงาน ยกศักยภาพธุรกิจ

บิสกิต โซลูชั่น ผู้นำในการให้บริการโซลูชันเทคโนโลยี AI ด้วยการเป็น AI Enabler สร้างการทรานฟอร์มประสบการณ์ของผู้บริโภค และเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนิน เผย ChatGPT สุดยอดแชตบอทแบบ  Generative AI ที่สามารถสร้าง Content จากคลังความรู้มหาศาล คลื่นเทคโนโลยีลูกใหม่ที่กำลังท้าทายโลกธุรกิจ ชี้เป็นม้ามืดพลิกโฉมเสิร์ชเอนจินเดิม ให้กลายเป็นแอดวานซ์เสิร์ชเอนจินที่พร้อมมาดริสรัปหลายวงการ แนะเร่งเตรียมตัวรับมือ พร้อมเปิด 4 ข้อดี ChatGPT แนะพลิกเกมใช้ประโยชน์ สร้างโอกาส ลดเวลา ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ หนุนธุรกิจเติบโต

นายสุทธิพันธุ์ สุทัศน์ ณ อยุธยา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บิสกิต โซลูชั่น (BIZCUIT Solution) จำกัด เปิดเผยว่า ChatGPT สุดยอด Generative AI ด้าน Text หรือ เชิงภาษาในรูปแบบแชตบอต ที่กำลังปลุกกระแสฮือฮาบนโลกโซเชียล และได้กลายเป็นคลื่นเทคโนโลยีลูกใหม่ที่ถูกจับตาและสร้างความตื่นตัวในโลกธุรกิจไปทั่วโลก โดย ChatGPT กำลังจะกลายเป็นม้ามืดที่จะเข้ามาดริสรัปเสิร์ชเอนจิน ให้พลิกโฉมไปจากเดิมที่ใช้การเสิร์ชด้วย AI ผู้ใช้งานต้องเข้าไปค้นหาข้อมูลด้วยตัวเอง และเลือกดูข้อมูลต่าง ๆ ที่เอไอนำมาให้ ก้าวล้ำกว่าด้วยการเป็นซุปเปอร์เสิร์ชเอนจิน ในรูปแบบการสนทนา โต้ตอบ ที่ชาญฉลาดมากขึ้น ซึ่งในโลกธุรกิจกำลังมองว่าอนาคตอันใกล้อาจได้เห็น SEO และ SEM ถูกดริสรัปด้วย ChatGP ในที่สุด

“การนำ Generative AI ที่ทรงประสิทธิภาพ และเป็น AI ที่สามารถหาคำตอบได้ทุกอย่าง (know it all) อย่าง ChatGPT มาใช้งานได้จริงในวงกว้างนั้น จำเป็นที่จะต้องใช้พลังงาน และทรัพยากรมหาศาลในการบำรุงรักษา OpenAI เองมีบริการให้นักพัฒนาหรือบริษัทนำโมเดลอย่าง GPT-3 ไปปรับแต่งเพื่อให้ใช้กับธุรกิจของตนเองได้ แต่ยังไม่ใช่ในขนาดของ ChatGPTแต่หากเปิดให้ใช้งานได้อย่างเต็มตัว อาจกลายเป็นคลื่นเทคโนโลยีลูกใหม่ที่จะเข้ามาดิสรัปชันโลกอีกครั้ง เนื่องจากเป็นตัวกระตุ้นให้ยักษ์ใหญ่สาย AI เช่น google หรือล่าสุดอย่าง META (Facebook) ต้องเร่งเข็นเทคโนโลยีที่แอบซุ่มทำไว้ออกสู่ตลาดเร็วขึ้น เกิดการแข่งขันของ Generative AI หรือ การที่ AI สามารถสร้างเนื้อหามาตอบโต้กับมนุษย์ได้ด้วยตัวเองมากขึ้น จนนำไปสู่อัตราเร่งการพัฒนาและการนำโมเดล Deep Learning Language เพื่อใช้งานจริงในวงกว้างและรวดเร็วมากขึ้น ก่อนหน้านี้จะได้เห็นเทรนด์ของ Generative AI แนวการสร้างรูปภาพ และแต่งภาพ แต่ปัจจุบัน ChatGPT นับเป็นตัวจุดกระแสให้เกิดความสนใจ Generative AI ด้านภาษาธรรมชาติ หรือ Natural Language ได้มากที่สุด ในขณะเดียวกัน Generative AI ด้าน Natural Language มีความสามารถ แต่งเพลง เขียนบทความ ครีเอทสโลแกน  แต่งจดหมาย เขียนรายงาน เขียนการวิเคราะห์ ไปจนถึงขั้นเขียน Code โปรแกรมมิ่งสำหรับนักพัฒนาซอฟแวร์ได้ ซึ่งหากมองมุมกลับ นับเป็นข้อดีที่ช่วยให้งานหรือธุรกิจครีเอเตอร์ทำคอนเทนต์ได้รวดเร็วมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดเวลาในการทำงานพื้นฐาน โดยนำเวลาที่มีค่าของมนุษย์ไปทำเรื่องที่ไม่ใช่ Ground work หรือ งานที่ต้องใช้เวลานำการทำซ้ำ ๆ เช่น การคิด Product description ของสินค้าบนร้านอีคอมเมิร์ซ ซึ่งมีประมาณ 700 รายการ จากที่ต้องนั่งเขียนทีละอัน หรือ ใช้แบบ Copy paste ธุรกิจสามารถใช้ ChatGPT ช่วยเขียนให้ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที” นายสุทธิพันธุ์ กล่าว

นายสุทธิพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เทคโนโลยี Deep Learning มีความลึกซึ้งกว่าเทคโนโลยี Machine Learning การเกิด ChatGPT กระตุ้นการแข่งขันด้านการพัฒนา AI นำมาซึ่งเทรนด์ Deep Learning ที่มีราคาถูกลงและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดเทคโนโลยี Analytics ที่ทรงศักยภาพและสามารถพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งมีประโยชน์มหาศาลกับธุรกิจ เช่น บิสกิต โซลูชั่น ที่ต้นทุนหรือระยะเวลาในการสร้าง Language Model นั้นจะลดลงเป็นอย่างมาก การสอน AI  ในเรื่องที่อยากให้เอไอเข้าใจ ด้วยเทคโนโลยีของ Deep Learning ที่ถูกลงจะทำให้ใช้งบประมาณน้อยลง เพิ่มโดเมนได้เร็วขึ้น และสามารถที่จะพัฒนาโซลูชันออกมาสู่ตลาดได้เร็วขึ้น ทำให้ AI ของ บิสกิต โซลูชั่น ฉลาดได้เร็วขึ้น ในค่าใช้จ่ายที่ลดลง ด้วยเวลาที่น้อยลงไปด้วย

ทั้งนี้ ในมุม บิสกิต โซลูชั่น สามารถนำ ChatGPT มาใช้ประโยชน์และสร้างโอกาสให้กับโลกธุรกิจได้ 4 ด้านหลัก ๆ ดังนี้ 1. ธุรกิจ Software Development สามารถใช้ ChatGPT สร้าง Code ขึ้นพื้นฐาน ลดเวลาทำงานของ Software Engineer ลง 2. งานสาย Admin ที่ต้องคอยหาข้อมูลและทำรายงานส่งให้กับหัวหน้างาน สามารถใช้ ChatGPT ทำตารางสรุปพร้อมเขียนเป็นรายงานออกมาได้ ทำให้ช่วยลดเวลาทำงานลงไปมาก 3. ธุรกิจโฆษณา หรือ สายการตลาดที่ต้องคอยคิด Content หรือ Copy ขายสินค้า ใหม่ ๆ ตลอดเวลา ChatGPT สามารถช่วยตั้งต้นได้เร็วขึ้น มีตัวเลือกให้ต่อยอดได้มากขึ้น 4. สายงานวิจัย หรือ สายวิเคราะห์ที่ต้องเสียเวลาในการ เสิร์ชหาข้อมูลแล้วเข้าไปดูตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ทีละเว็บฯ สามารถใช้งาน ChatGPT ช่วยหาคำตอบมาให้ได้เลย ผู้ใช้งานสามารถนำเวลาไปใช้ตรวจสอบข้อมูลที่ AI ส่งมาว่าถูกหรือไม่ นอกจากนี้  ChatGPT ยังมีความสามารถในการปรับปรุงสิ่งที่ผู้ใช้งานทำ เช่น การย่อบทความหรือรายงานที่ยาวเกินไป ให้ได้ใจความและความยาวตามที่ต้องการได้ ลดเวลาในการแก้ไข ซึ่งเดิมทีต้องใช้เวลานาน ตลอดจนให้ ChatGPT ช่วยคิดหาคำตอบให้กับลูกค้าบน Social media ก็ได้เช่นกัน

“ChatGPT มี Use case ในเชิงธุรกิจมากมาย ทั้งนี้ ไม่ใช่ทุกสิ่งที่ ChatGPT ตอบหรือให้ข้อมูลจะถูกต้อง 100%  ท้ายที่สุดแล้ว การใช้ ChatGPT ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ยังควรต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญด้านนั้น ๆ ในการนำไปต่อยอด แต่สิ่งที่มั่นใจได้คือ ChatGPT สามารถช่วยมนุษย์ประหยัดเวลาในการทำเรื่องพื้นฐานได้อย่างแน่นอน จะเห็นว่าการมาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ อาจไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ธุรกิจตั้งรับอย่างรวดเร็วด้วยการพลิกใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อสร้างโอกาสจากการต่อยอด ใช้ประโยชน์ทั้งในมุมเศรษฐกิจและสังคมต่อไป” นายสุทธิพันธุ์กล่าวทิ้งท้าย