เทศกาล BKKDW 2023 เนรมิตร“พร้อมพงษ์” ให้พร้อมเดิน ออกแบบแสงสว่างเพื่อความปลอดภัยปักหมุดเที่ยวตลอดปี

เทศกาล “BANGKOK DESIGN WEEK 2023” #BKKDW 2023 ที่ผ่านมา โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร(กทม.)และหน่วยงานต่างๆ มาเนรมิตจัดเต็มให้ 9 ย่านทั่วกรุงเทพ ได้แก่ ย่านเจริญกรุง-ตลาดน้อย ,เยาวราช ,สามย่าน-สยาม, อารีย์-ประดิพัทธ์ ,พระนคร / ปากคลองตลาด / นางเลิ้ง ,วงเวียนใหญ่-ตลาดพลู / คลองสาน ,บางโพ,พร้อมพงษ์ ,เกษตรฯ และพื้นที่อื่นๆ รวมถึงจุดแสดงย่อยๆ อีกกว่า 20 จุดกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีสีสัน สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนอย่างคึกคักภายใต้ธีม “urban‘NICE’zation เมือง – มิตร – ดี

แม้งานดังกล่าวจบลงด้วยความสำเร็จแต่นักท่องเที่ยวในย่านต่างๆ ยังคงเข้าไปเยี่ยมชมกันต่อ รวมทั้งยังมีองค์กรภาครัฐ และเอกชน สามารถนำพื้นที่เทศกาลไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินกิจกรรมต่อเนื่อง ทำให้ไม่เกิดการทอดทิ้งชุมชน ที่สำคัญบางย่านเตรียมขยายผล ของการจัดเทศกาล เป็นการรวมตัวของชุมชน ภายใต้แนวคิดสร้างสรรค์ พื้นที่ของ CEA นับได้ว่าเทศกาล 9 ย่านในพื้นที่ 12 เขต เป็นการกระตุ้นให้เกิดการส่งต่อ ต่อยอดและพัฒนาพื้นที่ย่าน เพื่อให้เกิดการลงทุน สร้างนักออกแบบรุ่นใหม่ที่จะมีแรงบันดาลใจ ร่วมกับชุมชน ในการหาบริบทที่โดดเด่น มาสู่การพัฒนาสร้างจุดขายใหม่ๆ เกิดขึ้นในย่านต่าง ๆ เชื่อมั่นว่าในการจัดเทศกาล BKKDW 2024 จะมีย่านใหม่เข้าร่วมกันอีกอย่างแน่นอน

“ย่านพร้อมพงษ์” เป็น 1 ใน 9 ย่าน ที่ได้เข้าร่วมงานเทศกาลออกแบบกรุงเทพมหานคร BANGKOK DESIGN WEEK 2023 (BKK DW 2023) และไม่ได้จบลงตามงานไปแต่ยังคงสานต่อให้ผู้ที่สนใจแวะเข้ามาเยี่ยมชมได้ตลอดปี ซึ่งย่านนี้นับเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่พัฒนาให้เป็นต้นแบบโดย CEA ในการนำโมเดลส่งต่อไปพัฒนาพื้นที่อื่นๆเพื่อยกระดับเศรษฐกิจย่านต่างๆให้สอดรับกับบริบทของแต่ละย่านเพื่อสร้างเศรษฐกิจในท้องถิ่นให้เกิดขึ้นแบบยั่งยืน

สำหรับ”ย่านพร้อมพงษ์” ได้มีการออกแบบความปลอดภัยให้กับประชาชน ปรับภูมิสถาปัตยกรรมโดดเด่น สวยงามด้วยเรื่องราวของแสงสว่างยามค่ำคืนทำให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งเป็นการพัฒนาแบบถาวร ทำให้ทุกคนยังคงมาสัมผัสสีสัน และเอกลักษณ์ของย่านนี้ที่อยู่ใจกลางเมืองตลอดซอยสุขุมวิท 26 ด้วยรูปโฉมใหม่ที่นักออกแบบตั้งใจพัฒนาอย่างสร้างสรรค์โดยกลุ่ม 49 & FRIENDS ใช้แนวคิดที่จะ ยกระดับให้ ย่านดังกล่าวที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เป็นมิตรต่อการอยู่อาศัย ตามโจทย์การออกแบบที่ต้องสร้างเมืองที่เป็นมิตรต่อคน และสร้างคนที่เป็นมิตรต่อเมือง และทำกรุงเทพฯ ให้กลายเป็น “urban‘NICE’zation เมือง – มิตร – ดี” ยิ่งขึ้น

“ ทางกลุ่มเราได้ร่วมกับ CEA ในการเนรมิตย่านพร้อมพงษ์สุขุมวิท 26 ถนนที่มีต้นไม้ร่มรื่น สามารถเดินได้ในช่วงกลางวันอย่างมีความสุข แต่ในทางตรงข้ามกันต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่นในช่วงกลางวัน กลับบดบังระบบไฟส่องสว่างในตอนกลางคืน ทาง กลุ่ม49 & FRIENDS จึงได้ช่วยกันพัฒนาเมืองสร้างระบบไฟฟ้าแสงสว่างใหม่ที่มอบความสว่าง เพื่อความปลอดภัยของคนเดินถนน และรถยนต์ในตอนกลางคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ” พี่เล็ก ประภากร วทานยกุล ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทในเครือ 49 กล่าวถึงที่มา

เขาระบุว่า ย่านพร้อมพงษ์ มีนักดีไซต์อยู่รวมกันกว่า 1,000 คน ซึ่งถือเป็นหมู่บ้านชุมชนนักออกแบบ และมีการรวมกลุ่ม 49 นักออกแบบที่มุ่งเน้นการพัฒนาพื้นที่สาธารณะ และภูมิสถาปัตยกรรมให้เป็นพื้นที่เป็นประโยชน์แก่ชุมชน ดังนั้นระบบไฟหรือแสงสว่างที่ทางกลุ่มออกแบบจึงไม่ใช่เพียงให้แสงสว่าง หรือเป็นการติดเสาไฟเท่านั้น แต่เป็นการนำไฟมาออกแบบผ่านการใช้เทคโนโลยีผสมผสานกับปัญญาประดิษฐ(AI) ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับเคลื่อนไหวของผู้คน ทำให้เวลาเดินจะสัมผัสว่ามีคนเดินไปกับเราด้วยและกลายเป็นกิจกรรมให้แก่ชุมชน และเป็นชุมชนต้นแบบที่ทางหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวต้องได้นำแนวคิดไปพัฒนาพื้นที่สาธารณะ ริมฟุตบาท หรือถนนอื่นๆ ในประเทศไทยให้มีทั้งแสงสว่างที่เพียงพอ ออกแบบแสงสว่างทั้งเพิ่มสีสันให้แก่ถนน และเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้มาใช้บริการ

ขณะเดียวกัน ด้วยความหลากหลายของผู้คนที่อยู่ในย่านพร้อมพงษ์ และความแออัดในแต่ละพื้นที่ ส่งผลให้ประชากรไทย 1 คนจะมีพื้นที่สีเขียว หรือพื้นที่สาธารณะเพียง 6 ตารางเมตรต่อคน ขณะที่ประเทศอื่นๆ อาทิ สิงคโปร์ จะมีพื้นที่สีเขียว พื้นที่สาธารณะ 22 ตารางเมตรต่อประชากร 1 คน ทั้งที่ การใช้ชีวิตบนพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ไม่ได้มีเฉพาะประชากรที่เป็นมนุษย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสัตว์ สิ่งมีชีวิตมากมาย การพัฒนาออกแบบพื้นที่สาธารณะ ให้มีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น ฟุตบาทมีการสร้างสรรค์ให้น่าเดิน จะช่วยให้สิ่งมีชีวิตมากมายได้ดำรงอยู่ต่อ ดังนั้นเป้าหมายของนักออกแบบ นักดีไซต์ในกลุ่ม 49 ไม่ใช่เพียงพัฒนาเมืองให้มีความสะดวกสบายเท่านั้น แต่มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และการใช้งานอย่างถูกต้องเหมาะสม

“ ย่านสุขุมวิท 26 มีข้อดีที่ทุกคนจดจำได้คือมีต้นไม้ที่ร่มรื่น และขณะนี้มีแสงสว่างเคลื่อนไหวได้ยามค่ำคืนที่จะอยู่เป็นเพื่อนกับทุกๆ คน โดยหลังจากนี้อีก 1 เดือน หากใครอยากรู้ว่ามีแสงสว่างเป็นเพื่อนยามค่ำคืน เพื่อนเดินกลับบ้าน เดินเที่ยวเป็นอย่างไร ยังคงไปสัมผัสความแปลกใหม่ สวยงามดังกล่าวได้ “พี่เล็กกล่าวเชิญชวน พร้อมระบุว่า “ทางกลุ่ม 49 ยังคงมีความร่วมมือกับทาง CEA ในการพัฒนาเมืองอนาคตสำหรับพื้นที่อื่นๆ ต่อไป

งาน BANGKOK DESIGN WEEK ซึ่งมีการจัดขึ้นต่อเนื่องทุกปีและปีนี้มีถึง 9 ย่านทั่วกรุงเทพที่เข้าร่วมนับเป็นการเปิดโอกาสให้แก่นักออกแบบได้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ร่วมกับชุมชน ให้น่าสนใจ คึกคัก มีสีสัน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำให้ผู้คนที่มาเยือนประทับใจและพร้อมที่จะกลับมาสัมผัสต่อเนื่อง เมื่อความทันสมัยผสมกับเสน่ห์ของความดั้งเดิมผสมผสานกันในแต่ละพื้นที่จึงกลายเป็นอัตลักษณ์ใหม่ที่ไม่เพียงสร้างคุณค่าทางจิตใจให้ผู้มาเยือนแต่ยังสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจก่อให้เกิดรายได้เพิ่มให้กับคนในพื้นที่ …. รักในท้องถิ่นของตนเองมากขึ้น