จากกระแสตอบรับที่เกินคาดทำให้ความสำเร็จของวงดนตรีร็อคอย่าง “เปเปอร์ เพลนส์” สร้างปรากฏการณ์ส่งต่อความสุขให้กลุ่มเด็กจนเกิดเป็นกระแส“ทรงอย่างแบด”ฟีเวอร์ไปทั่วประเทศ งานนี้ ยักษ์ใหญ่อย่าง F&N (แมกโนเลีย ไอศกรีม) ไม่พลาด ที่จะดึง“เปเปอร์ เพลนส์” มาเป็นพรีเซนเตอร์คนแรก
นายอนิรุทธิ์ มหธร General Manager บริษัท เอฟแอนด์เอ็น ยูไนเต็ด จำกัด กล่าวว่า “เหตุผลที่แมกโนเลียเลือก “เปเปอร์ เพลนส์” ไม่ใช่เพียงเพราะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเด็กและครอบครัวเพียงอย่างเดียวเพราะถ้าหากเราทำความรู้จักกับศิลปินคู่นี้ เราจะทราบดีว่า ทัศนคติ แนวคิด รวมถึงการเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ ล้วนเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ จนทำให้เกิดรอยยิ้มและความสุขทั้งนั้น ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงที่ตรงกับจุดยืนของแมกโนเลียไอศกรีมไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ของศิลปินที่มีความคล้ายกันตรงที่ไม่เพียงแค่ส่งความสุข และความอร่อยแต่เรายังให้ความพิถีพิถันในการคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และมีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยเฉพาะสูตรไอศกรีม ของแมกโนเลียที่เราคำนึงถึง แคลอรี และน้ำตาล ในปริมาณที่เหมาะสม จนผ่านเกณฑ์เครื่องหมายทางเลือกเพื่อสุขภาพอีกด้วย
นอกจากนี้ เราเน้นเรื่องคุณภาพของสินค้า ด้วยการใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย (High-Technology Production) เช่น การใช้หุ่นยนต์ ในการควบคุมการทำงาน, การแบ่งโซนในการทำงานเพื่อความปลอดภัยได้รับมาตรฐานที่เป็นได้รับการยอมรับระดับ World Class เช่น GHP, HACCP, FSSC22000รวมถึงการใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยแนวคิดแบบยั่งยืน (Sustainability) เช่นการใช้พลังงานแสงอาทิตย์(Solar Rooftop) ทดแทนการใช้ไฟฟ้าในโรงงาน, การใช้พลังงานสะอาด, กระบวนการบำบัดน้ำเสีย(Zero Discharge) ที่ไม่มีการปล่อยของเสียออกจากโรงงาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราจะส่งต่อสิ่งที่ดีที่สุดจนถึงมือผู้บริโภค เพื่อส่งมอบความสุข และได้รับความอิ่มเอมใจกลับมา
สำหรับแผนการตลาดในครั้งนี้ เราจะเน้นช่องทางการจัดจำหน่ายช่องทางหลักที่เข้าถึงคนในวงกว้าง นั่นก็คือ รถไอศกรีมที่เหล่าแฟนคลับกลุ่มเด็กๆ คุ้นเคย รวมถึงช่องทางโรงเรียน และร้านค้าที่มีความใกล้ชิดกับเด็กๆ โดยสร้างการรับรู้ และส่งต่อความสุขมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สื่อสารผ่านการใช้พรีเซนเตอร์อย่าง “เปเปอร์ เพลนส์” เพื่อสร้างการรับรู้ที่ส่งผลต่อกลุ่มเป้าหมาย
และด้วยอัตราการเติบโตที่เกิดขึ้นของตลาดไอศกรีมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มตลาดอาเซียน ทางบริษัทจึงมีการสร้างโรงงานใหม่ที่ลงทุนมากกว่า 1.2 พันล้านโดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตทำให้เพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง 36 ล้านลิตรต่อปี เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศได้ทั่วทั้งอาเซียน ภายใต้กลุ่มธุรกิจไอศกรีมภายใต้แบรนด์ “แมกโนเลีย ไอศกรีม”จะทำให้เราเติบโตขึ้นและส่งต่อความสุข ความอิ่มเอมใจได้ต่อไป