ลอรีอัล ประเทศไทย ย้ำจุดยืนพันธกิจเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ รับรางวัลองค์กรดีเด่นจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เนื่องในวันสตรีสากล ปี 2566 โดยได้รับการยกย่องในฐานะองค์กรดีเด่นด้านการคุ้มครองสิทธิและการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ ซึ่งในแต่ละปี จะมีองค์กรเอกชนที่ได้รับรางวัลเพียงปีละหนึ่งองค์กรเท่านั้น
นางสาวอรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กรและสื่อสารสัมพันธ์ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ลอรีอัลให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพสตรีส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ โดยยืนหยัดเคียงข้างผู้หญิงมานับตั้งแต่จุดเริ่มของบริษัท และไม่เคยหยุดพัฒนาโครงการและกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมให้ผู้หญิงได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอนาคตให้กับโลก โครงการเพื่อผู้หญิงระดับโลกของลอรีอัล อาทิ โครงการทุนวิจัย ลอรีอัลเพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์ (For Women in Science) นั้น เริ่มและดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1998 และจวบจนถึงปัจจุบันได้ให้การสนับสนุนนักวิจัยสตรีกว่า 4,100 คน ครอบคลุมกว่า 110 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยที่ดำเนินการ ความมุ่งหมายของเราคือสร้างโลกที่มีความเท่าเทียม หลากหลาย และไม่กีดกันใคร โดยมอบพลังให้ผู้หญิงได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตของโลกนี้ตามพันธกิจเพื่อความยั่งยืน L’Oréal for the Future”
ในประเทศไทย นอกจากโครงการทุนวิจัยลอรีอัลเพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์ ที่ดำเนินงานมาเข้าปีที่ 21 และมอบทุนวิจัยให้กับนักวิจัยสตรีไปแล้ว 84 คน ยังมีโครงการต่างๆ โดยลอรีอัล ประเทศไทย และแบรนด์ความงามในเครือที่ให้การสนับสนุนและสร้างพลังให้กับสตรีอีก อาทิ “โครงการ Stand Up ลดภัยคุกคามบนท้องถนน” โดยแบรนด์ลอรีอัล ปารีส (L’Oréal Paris) ที่มีเป้าหมายในการฝึกอบรมให้ผู้เข้าร่วมรู้จักเทคนิคป้องกันการคุมคาม เพื่อกล้าที่จะยืนหยัดและสร้างวัฒนธรรมการต่อต้านการคุกคามบนท้องถนน (Street Harassement) ให้ถูกมองว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่สามารถยอมรับได้ในที่สุด ซึ่งมีผู้ผ่านการอบรมแล้วกว่า 36,500 คน “โครงการ Writer Her Future” โดยแบรนด์ลังโคม (LANCÔME) มุ่งสานต่อปณิธานของแบรนด์ที่ต้องการช่วยให้ผู้หญิงทุกคนมีโอกาสได้วาดอนาคตในแบบที่ตัวเองต้องการ ด้วยการอบรมทักษะด้านดิจิทัลเพื่อพัฒนาการตลาดผลิตภัณฑ์ที่สตรีเป็นเจ้าของ ซึ่งมีผู้เข้ารับการอบรมไปแล้วกว่า 150 คน รวมไปถึงอีกหนึ่งโครงการที่มุ่งสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสัญญาณเตือนของความรุนแรงในคู่รัก (Intimate Partner Violence) ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการป้องกันปัญหาความรุนแรงในคู่รักในประเทศไทยต่อไป จากแบรนด์ อีฟส์ แซงต์ โลรองต์ โบเต้ (YSL Beauty) อย่าง “Abuse is Not Love” ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ลอรีอัล ยังมีโครงการเพื่อสังคมที่สนับสนุนผู้ขาดโอกาสในกลุ่มต่างๆ อาทิ “โครงการฝึกทักษะอาชีพเสริมสวยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต” หรือ Beauty For A Better Life ที่ช่วยสนับสนุนผู้ที่ต้องการโอกาสในการฝึกทักษะอาชีพเสริมสวย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผ่านการฝึกอบรมทักษะต่างๆ เกี่ยวกับอาชีพช่างผม นำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดและสร้างอาชีพที่มั่นคงอย่างยั่งยืนต่อไป ซึ่งปัจจุบัน มีผู้ที่ได้รับการสนับสนุนผ่านโครงการทั้งสิ้น 361 คน “โครงการ Solidarity Sourcing” จัดจ้างผู้ขาดโอกาสทางสังคม ที่ทำงานกับซัพพลายเออร์ในการจ้างงานกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือ ทำการจัดซื้อสินค้าและบริการของบริษัทกับบริษัทกลุ่ม SME บริษัทที่มีสตรี หรือ ผู้มีความหลากหลายทางเพศเป็นเจ้าของ
“เรามุ่งมั่นให้การสนับสนุนผู้หญิงด้วยการป้องกันความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศ ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ให้โอกาสทางการศึกษา การฝึกอบรม โอกาสในการสร้างอาชีพและทำงานร่วมกับกลุ่มสตรีเพื่อสร้างโลกที่ไม่มีการกีดกันทางเพศ เป้าหมายของเราตามพันธกิจ L’Oréal for the Future คือการให้การสนับสนุนผู้หญิง 3 ล้านคนผ่านโครงการต่างๆ ของเราภายในปี 2030 และลอรีอัล ประเทศไทย ก็เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้โครงการต่างๆ เหล่านี้ ได้เริ่มต้นและดำเนินการต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายยิ่งใหญ่นี้เช่นกัน” นางสาวอรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ กล่าวทิ้งท้าย