“คิง ฟรีซ แอนด์ ดราย” เดินเกมรุกตลาดกาแฟ ส่งแบรนด์ “โซคิ้วบ์ – XO CUBE” กาแฟสดรูปแบบก้อนฟรีซดราย เจ้าแรกในประเทศไทย ปลดล็อคกาแฟแบบซอง 3in1 ฉีกทุกกฎด้วยกระบวนการพิเศษ Taste LOC รสเข้ม เต็มก้อน ล็อคความสด 93% ตอบโจทย์เติมความสะดวกคนรักกาแฟรวม 3 รสชาติ XO CUBE 3-in-1, Mocca และ Americano พร้อมลุยตลาดด้วยกลยุทธ์ D-R-I-N-K ชิงยอดขาย 1% หรือ 160 ล้านบาทจาก 33,000 ล้านบาทของตลาด 3-in-1 ในปีแรก มั่นใจเป็นตัวเลือกช่วยเพิ่มอัตราการดื่มกาแฟคนไทย ทะยานสู่เจ้าตลาดกาแฟตัวจริง
นายปิติพัฒน์ ตันติวีรสุต ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท คิง ฟรีซ แอนด์ ดราย จำกัด เผยถึงความเป็นมาของแบรนด์ว่า “บริษัท คิง ฟรีซ แอนด์ ดราย จำกัด เราคือหนึ่งในกลุ่มบริษัทคิง คอฟฟี่ จำกัด ที่คร่ำหวอดในวงการกาแฟมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปีที่ผ่านมา เราจึงมีความเชี่ยวชาญอย่างสูงในธุรกิจกาแฟ เริ่มตั้งแต่การคัดสายพันธุ์กาแฟจากหลายประเทศทั่วทุกมุมโลก ไปจนถึงขั้นตอนการผลิตกาแฟในรูปแบบต่างๆ ที่ทันสมัยและตรงตามมาตรฐานสากล
ครั้งนี้นับเป็นอีกปรากฏการณ์หนึ่ง ที่เราตั้งใจสร้างความต่างในธุรกิจตลาดกาแฟในประเทศไทย ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ “กาแฟรูปแบบก้อน แบรนด์ โซคิ้วบ์ – XO CUBE” ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย และเราเป็นโรงงานแห่งแรกในประเทศไทย ที่จะมาทะลายภาพการดื่มกาแฟสำเร็จรูปแบบเดิมไปโดยสิ้นเชิง ฉีกทุกเงื่อนไขของรสสัมผัสของกาแฟแบบซอง 3in1 ด้วยขั้นตอนการบ่มและคั่วเมล็ดกาแฟคงที่ ประกอบกับเรามีการลงทุนสร้างสายงานผลิตใหม่ทั้งหมดให้ได้กาแฟสดฟรีซดรายรูปแบบก้อน ที่เป็นนวัตกรรมกาแฟสำเร็จรูปรายแรก เพื่อให้นักดื่มกาแฟชาวไทยได้รสและกลิ่นเต็มเมล็ด ไม่เสียรสชาติแบบการผลิตเดิม ในราคาที่เอื้อมถึงได้เพียง 8.6-10 บาทต่อก้อน”
“XO CUBE” หรือชื่อภาษาไทยว่า “โซคิ้วบ์” เป็นนวัตกรรมใหม่ของกาแฟ ในรูปแบบของ “กาแฟสด ฟรีซดรายแบบก้อน” ซึ่งจัดเป็นแบรนด์แรกและโรงงานแห่งแรกในประเทศไทย ที่มีความสามารถในการผลิตสินค้าลักษณะพิเศษนี้ออกมา สร้างความแตกต่างและความสะดวกในการชงมากกว่ากาแฟสดฟรีซดรายทั่วไปในตลาดเมืองไทย ที่อยู่ในรูปแบบผงบรรจุขวด ทำให้ผู้บริโภคไม่เข้าใจในคุณสมบัติที่แตกต่าง และยังมีราคาสูงกว่ากาแฟทั่วไปถึง 2 เท่าจากการนำเข้ามาจากต่างประเทศ”
ทางด้าน นางสาวรัชนู ผลทิพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนานวัตกรรมสินค้า บริษัท คิง ฟรีซ แอนด์ ดราย จำกัด อธิบายว่า “จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Food Engineering ให้ข้อมูลว่ากาแฟเทคโนโลยีฟรีซดราย (Freeze-dried coffee technology) สามารถคงความสดของกาแฟไว้ได้ถึง 93% เมื่อเทียบกับกาแฟสด โดยกาแฟผงทั่วไปจะใช้วิธีการอบลมร้อนแบบสเปรย์ดราย ด้วยอุณหภูมิสูงกว่า 200 องศาเซลเซียส แตกต่างจาก XO CUBE จะใช้ขั้นตอนนำเมล็ดกาแฟสดมาคั่วบดและผสมกับส่วนผสมสำคัญทั้งหมด ก่อนนำมาแช่แข็งในอุณหภูมิต่ำ -40 องศาเซลเซียส จากนั้นขึ้นรูปเป็นกาแฟก้อน และระเหิดไล่ผลึกน้ำออกจากกาแฟทั้งหมด จึงทำให้สามารถเก็บล็อคความสด กลิ่นหอม และรสชาติที่ดีได้อย่างมาก”
ความที่แต่ก่อนกาแฟฟรีซดรายมีการทำตลาดค่อนข้างน้อย XO CUBE จึงมองที่การมุ่งให้ความรู้เพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้บริโภคอย่างลึกซึ้งที่สุด เรามีการปล่อย TVC ที่สื่อสารถึงนวัตกรรมกาแฟฟรีซดรายแบบง่ายต่อความเข้าใจ ให้เขาได้สนใจอยากลองดื่มดูสักครั้ง เพื่อรับรู้ถึงคำกล่าวจากกระบวนการของ XO CUBE ที่ว่าสามารถล็อครสชาติไว้ได้ดี หรือ Taste LOC ล็อค ความ สด เพียงหย่อนลงในน้ำร้อนก็พร้อมดื่มด่ำกาแฟรสเยี่ยมได้ทันทีนั่นเอง จึงเหมาะกับผู้บริโภคที่ดื่มกาแฟสำเร็จรูปและมองหากาแฟรสชาติดี ราคาไม่แพง หรือผู้ที่ซื้อกาแฟดื่มจากร้าน แต่ต้องการความสะดวกมากขึ้น”
นายปิติพัฒน์ กล่าวเสริมว่า “แบรนด์ XO CUBE จัดอยู่ในกลุ่มสินค้ากาแฟสำเร็จรูปเพื่อใช้บริโภคในบ้านและสำนักงาน หรือในหมวดหมู่ของ “ตลาดกาแฟในบ้าน” ซึ่งมีมูลค่ากว่า 33,000 ล้านบาท หรือราว 53% จากตลาดกาแฟในประเทศไทย มูลค่า 60,000 ล้านบาท และสถาบันอาหารแห่งประเทศไทย ประเมินว่าจะเติบโต 5.3% ต่อปี ประกอบกับข้อมูลอัตราการดื่มกาแฟต่อหัวต่อคน (Per Capital Consumption) ของไทย ในเว็บไซต์ Statistica.com อยู่ที่ 300 แก้ว/คน/ปี ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยในประเทศพัฒนาแล้วประมาณ 100 แก้ว/คน/ปี จึงมีช่องว่างให้ตลาดกาแฟในเมืองไทย และ XO CUBE เติบโตได้อีกมาก
ถ้ามองลึกลงไปตลาดกาแฟในบ้าน เราจะเห็นว่าสัดส่วนกว่า 50% มาจากกาแฟ 3-in-1 ซึ่งส่วนแบ่งนี้เป็นผลจากการตอบโจทย์ผู้บริโภคด้านราคา ขณะเดียวกันด้วยตัวผลิตภัณฑ์ที่มีข้อแตกต่างน้อยมากในตลาด ก็นับเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาเลือกสินค้าทดแทนแบรนด์อื่นได้ง่ายเช่นกัน XO CUBE จึงเลือกแข่งขันโดยใช้ความแข็งแกร่งด้านการหาซื้อวัตถุดิบที่ดีที่สุดในราคาที่ดี และความชำนาญในการผลิตเชิง Economy of Scale จากโรงงานมาตรฐานสูง ออกสินค้าให้เลือก 3 รสชาติ รวม 4 SKU ในราคาที่ไม่สูงมาก ได้แก่ XO CUBE 3-in-1 ขนาด 4 ชิ้นและ 10 ชิ้น, XO CUBE Mocca และ XO CUBE Americano”
“และนอกจากความต่างในเชิงคุณภาพ บริษัทฯ ยังนำ “กลยุทธ์ D-R-I-N-K” เข้ามาเป็นแกนในการพลิกโฉมตลาด 3-in-1 มูลค่า 16,000 ล้านครั้งนี้ โดยเริ่มจาก
- D- Distribution หรือการกระจายสินค้าอย่างทั่วถึงทั้งในห้างโมเดิร์นเทรดและช่องทางออนไลน์
- R- Ranges มีสินค้าให้เลือกหลากหลายในราคาสมเหตุสมผล
- I – Innovation เป็นนวัตกรรมฟรีซดราย กาแฟสำเร็จรูปแบบก้อนครั้งแรกของเมืองไทย
- N- Neo ความโมเดิร์นทันสมัยทั้งภาพลักษณ์ แบรนด์และแพคเกจจิ้ง
- K – Knowledge หรือความเชี่ยวชาญของบริษัทที่มุ่งเน้นทำ R&D ด้านกาแฟและผู้บริโภคอย่างรอบคอบ
“สำหรับช่องทางการจัดจำหน่าย เรารุกตลาดอย่างเต็มรูปแบบทั้งในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ คลอบคลุมไปถึงช่องทางออนไลน์ชั้นนำทั้ง Shopee และ LAZADA ที่อัดเต็มด้วยโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ มากมายที่มีมาให้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เรายังมีคอมมูนิตี้สำหรับคนรักกาแฟทั้งทาง Facebook : xocube , เว็บไซต์ www.xocubefreezedry.com พร้อมช่องทาง LINE ที่ @xocube หรือคลิก https://lin.ee/iOw0TRj ที่พร้อมเสิร์ฟทั้งข้อมูลอันเป็นประโยชน์, โปรโมชั่นดีดีและกิจกรรมน่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
และในการลงสนามปีแรกนี้ เราตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 160 ล้านบาทหรือ 1% ในตลาด 3-in-1 มูลค่า 16,000 ล้าน รวมถึงเป้าหมายเป็นแบรนด์เจ้าแรกที่เข้ามาพลิกวงการตลาดกาแฟไทย และมีส่วนสำคัญในการเพิ่มอัตราการดื่มกาแฟของคนไทย ก่อนจะขยับขยายรุกตลาดไปยังประเทศที่มีอัตราการดื่มกาแฟสูงต่อไป”
“คิง ฟรีซ แอนด์ ดราย เชื่อว่าคุณภาพของ XO CUBE ดีพอที่จะกลายเป็นบริบทใหม่มาทะลายทุกกฎของการดื่มกาแฟเดิม ๆ เรานำประสบการณ์ 20 ปี มาปรับใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของกาแฟฟรีซดราย และมีการลงทุนด้านเครื่องจักร โรงงาน ที่ดิน รวมกว่า 100 ล้านบาท รวมถึงงบทำการตลาดอีกร่วม 30 ล้านบาท ในการดำเนินกลยุทธ์ D-R-I-N-K และกระจายสินค้าให้ผู้บริโภคได้ทดลองดื่มอย่างกว้างขวางที่สุดเป็นจำนวน 100,000 ก้อนทั่วประเทศ” นายปิติพัฒน์ ทิ้งท้าย