เนื่องในวันคุ้มครองโลก (Earth Day) วัตสัน แบรนด์สุขภาพและความงามชั้นนำในเครือ เอ.เอส.วัตสัน กรุ๊ป ได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม โดยการเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์กลุ่ม Sustainable Choices กว่า 8,000 รายการ พร้อมตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ลงอีกกว่า 2,000 ตัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจในการมอบตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้นให้กับทุกคนทั่วโลก
มาลีนา ไหง ประธานกรรมการบริหาร เอ.เอส.วัตสัน (เอเชียและยุโรป) กล่าวว่า “ปัจจุบัน การต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศนับเป็นเรื่องสำคัญที่พวกเราทุกคนต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ด้วยความร่วมมือของเราในฐานะผู้ค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามชั้นนำ และลูกค้าของเรา จะสามารถเป็นแรงขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ ในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับโลกของเราได้ โดยทางวัตสันได้เร่งส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยจัดการกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ใส่ใจในวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ รวมถึงส่งเสริมโครงการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอน”
มอบตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เข้าถึงได้ง่าย
ผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Sustainable Choices นับเป็นการสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ส่งเสริมความยั่งยืนที่มากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ที่จะเข้ามาอยู่ในกลุ่ม Sustainable Choices นั้น ต้องมีคุณสมบัติที่เป็นไปตามเกณฑ์ เช่น การใช้ส่วนผสมและวัตถุดิบ รวมถึงใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หรือผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมถุงเติม มีชิ้นส่วนบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หรือผลิตด้วยวัสดุทดแทนเพื่อช่วยลดการเกิดขยะ และเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันทางวัตสันมีตัวเลือกผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Sustainable Choices กว่า 8,000 รายการทั่วโลก โดยในประเทศไทยเอง ก็มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Sustainable Choices ถึง 1,800 รายการ ครอบคลุมทั้งสกินแคร์ไปจนถึงแชมพู ทั้งที่หน้าร้าน และช่องทางออนไลน์
ด้วยความร่วมมือกับ ClimatePartner วัตสันยังได้เตรียมเปิดตัวโครงการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยจะชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ Sustainable Choices 7 รายการ ซึ่งการปล่อยก๊าซคาร์บอนของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ได้รับการประเมินโดยการคำนวณจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนตั้งแต่การเริ่มผลิต ไปจนถึงมือผู้บริโภค และจนสิ้นสุดอายุการใช้งาน ซึ่งการปล่อยก๊าซที่เหลือจะถูกชดเชยผ่านโครงการด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติที่ได้รับการตรวจสอบด้านผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม โดย TÜV Austria ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
โดยผลิตภัณฑ์ Sustainable Choices ทั้งเจ็ดรายการมีดังนี้:
- สบู่ขัดผิว เนเชอรัล บายวัตสัน สูตรกาแฟ
- แชมพู เนเชอรัล บายวัตสัน สูตรอโล เวร่า
- ทิชชูเปียกตราวัตสัน แอนติแบคทีเรีย
- แปรงสีฟันด้าไม้ไผ่ตราวัตสัน
- วัตสัน ฟรุ๊ตตี้ มาส์ก
- กระดาษเช็ดหน้าจากเยื่อไผ่ตราวัตสัน
- ไอมิว 04 เซนเทลล่า เอเชียติก้า บูสเตอร์
ลูกค้าสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้จากฉลากที่ได้รับการรับรองโดย ClimatePartner พร้อมรหัสคิวอาร์โค้ด เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนนี้ได้อีกด้วย
เหนือกว่าการบรรลุพันธสัญญาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอน เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ วัตสัน ได้สนับสนุนโครงการริเริ่มเพื่อปกป้องป่าไม้ที่จัดขึ้นโดย ClimatePartner ในเมืองริมบา รายา ประเทศอินโดนีเซีย จากการปลูกป่าในพื้นที่เสื่อมโทรม ส่งผลให้ป่าได้รับการฟื้นฟู สามารถกักเก็บคาร์บอนเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ระบบนิเวศน์โดยรวมนั้นดียิ่งขึ้น นอกจากนั้น ยังมีส่วนช่วยเขตอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพริมบารายาซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์และพืชหลากหลายสายพันธ์ รวมไปถึงที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของลิงอุรังอุตังบอร์เนียวซึ่งใกล้สูญพันธ์อีกด้วย
โครงการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอน เป็นการส่งเสริมความยั่งยืนของเอ.เอส.วัตสัน ที่เพิ่มขึ้น จากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ซึ่งได้รับการตรวจสอบและรับรองโดย Science Based Targets Initiative (SBTi)
เป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเอ.เอส.วัตสัน ได้แก่:
- การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สโคป 1 และ 2 ลง 50.4% ภายในปี 2573 โดยเปรียบเทียบจากปี 2561
- การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สโคป 3 จากการซื้อขายสินค้าและบริการ การขนส่งและจัดจำหน่าย รวมไปถึงการใช้งานของลูกค้าภายหลังจากการซื้อ ลง 58% ต่อมูลค่าดอลลาร์ฮ่องกงที่เพิ่มขึ้น ภายในปี 2573 โดยเปรียบเทียบจากปี 2561
- การให้คำมั่นสัญญาว่า 33% ของซัพพลายเออร์ที่เกี่ยวโยงกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งครอบคลุมการซื้อขายสินค้าและบริการ ไปจนถึงการขนส่งและจัดจำหน่ายสินค้า จะต้องตั้งเป้าหมายที่อิงตามหลักวิทยาศาสตร์ (SBTs) ภายในปี 2570
มาลีนา กล่าวเสริมว่า “วัตสันเข้าใจดีว่าความรับผิดชอบของบริษัท ไม่ใช่เพียงแต่การนำเสนอสินค้าด้านสุขภาพและความงามเท่านั้น แต่เรามุ่งมั่นที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอีกด้วย”
“ทุกคนมีบทบาทสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีคุณค่า เราทุกคนสามารถที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ร่วมกันได้ และจากเป้าหมายเพื่อสังคมอย่าง “Look Good. Do Good. Feel Great” ดูดีได้ ทำดีด้วย รู้สึกดีไปด้วยกัน วัตสันยังคงมุ่งมั่นในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเชิญชวนทุกคนเข้าร่วมเส้นทางสู่อนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนมากยิ่งขึ้นไปพร้อมๆ กัน”