คาเธ่ย์ แปซิฟิค สานต่อโครงการ “บิน 1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น” ร่วมปลูกป่าชายเลน 6,000 ต้นในไทย ผลักดันเป้าหมายด้านความยั่งยืน

สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค เดินหน้าปลูกต้นไม้ในป่าชายเลน 20,000 ต้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปีนี้ ตามเป้าหมายในการปลูกต้นไม้ 1 ต้นต่อบัตรโดยสาร 1 ใบที่มีการจำหน่ายระหว่างแคมเปญ “บิน 1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น” ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา โดยจะปลูกต้นไม้ในป่าชายเลนจำนวน 6,000 ต้นในประเทศไทย[1]

การผนึกกำลังพันธมิตรเพื่อนำทางสู่อนาคตที่ยั่งยืนภายใต้แนวคิด “Greener Together” ถือเป็นแนวทางหลักในการดำเนินโครงการด้านความยั่งยืนของคาเธ่ย์ แปซิฟิค เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว สายการบินได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อมและพันธมิตรในชุมชนในการร่วมปลูกต้นไม้เพื่อสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ฟื้นฟูถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติตลอดจนรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยหลังจากที่ได้นำร่องโครงการ “บิน 1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น” ในปี 2564 ที่ผ่านมา[2]ได้มีการขยายผลของกิจกรรมให้ครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2565 พร้อมตั้งเป้าหมายที่จะปลูกต้นไม้ 1 ต้น ต่อการจำหน่ายบัตรโดยสาร 1 ใบ ในประเทศฟิลิปปินส์ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา และสิงคโปร์

สนับสนุนการมีส่วนร่วมในโอกาสวันคุ้มครองโลก

เนื่องในโอกาสวันคุ้มครองโลก (Earth Day) ในวันที่ 22 เมษายน 2566 อาสาสมัครจำนวนกว่า 60 คน ประกอบด้วยพนักงานของคาเธ่ย์ แปซิฟิค ผู้แทนการค้า และพันธมิตรอื่น ๆ ได้ร่วมกิจกรรมปลูกต้นแสมขาว 6,000 ต้น ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบกบางปู จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสายตา 8 คนจากมูลนิธิคอลฟิลด์เพื่อคนตาบอด เข้าร่วมกิจกรรมนี้ด้วยเช่นกัน

นางสาวเคอรี ลุย ผู้จัดการประจำประเทศไทย สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค กล่าวว่า “เรารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้สานต่อโครงการปลูกต้นไม้ในประเทศไทย ที่ผ่านมา เราได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรในท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด และเล็งเห็นว่าผู้พิการมักไม่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมเหล่านี้ เนื่องจากอาจถูกมองว่ามีข้อจำกัดในด้านต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม อนาคตของโลกของเราเกี่ยวข้องกับทุกคน เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเปิดโอกาสให้ผู้ที่บกพร่องทางสายตาได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นก้าวเล็ก ๆ ในการสร้างสรรค์สังคมแห่งการมีส่วนร่วมที่ทุกคนสามารถมีบทบาทในการผลักดันด้านความยั่งยืน และจุดประกายให้คนในชุมชนได้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกต่อไป”

พันเอกดิตถ์ สูยะนันทน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบกบางปู กล่าวว่า “การอนุรักษ์ป่าชายเลนต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความตระหนักรู้และการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เราจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรองค์กรที่มีแนวความคิดเดียวกับเรา อย่างคาเธ่ย์ แปซิฟิคในการดำเนินกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในครั้งนี้”

นายเครื่อง ศรีบัวพันธุ์ ประธานมูลนิธิคอลฟิลด์เพื่อคนตาบอด กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นักเรียนของเราได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสังคมร่วมกันกับคาเธ่ย์ แปซิฟิค มูลนิธิของเราให้ความสำคัญกับการสร้างทักษะให้แก่นักเรียน เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตได้ด้วยตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ผมเชื่อว่าประสบการณ์ครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจความภาคภูมิใจ และช่วยให้แก่นักเรียนทุกคนได้ตระหนักว่าพวกเขาก็สามารถมีบทบาทในอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน”

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ“บิน 1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น” ได้ที่เว็บไซต์:

สิงคโปร์|มาเลเซีย | อินโดนีเซีย | ฟิลิปปินส์|กัมพูชา|ประเทศไทย|เวียดนาม

Greener Together: ความมุ่งมั่นของคาเธ่ย์ แปซิฟิค ในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน

คาเธ่ย์ แปซิฟิค มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำและผลักดันความร่วมมือเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ตามที่ได้ระบุไว้ในรายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนประจำปี 2565 ของคาเธ่ย์ แปซิฟิค ในชื่อ “Greener Together” โดยแนวคิดดังกล่าวจะยังเป็นแนวคิดหลักของแพลตฟอร์มการสื่อสารด้านความยั่งยืนของคาเธ่ย์ แปซิฟิค ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย

รายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนประจำปี 2565 ของคาเธ่ย์ แปซิฟิค ระบุว่า สายการบินมุ่งมั่นที่จะร่วมมือและสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกันกับพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง ซึ่งรวมถึงการดำเนินโครงการที่สำคัญ อาทิการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 การใช้เชื้อเพลิงอากาศยานที่ยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel)ในสัดส่วน10% ของเชื้อเพลิงทั้งหมดของสายการบินภายในปี 2573 การขยายขอบข่ายของโครงการชดเชยคาร์บอน “Fly Greener” ให้ครอบคลุมระบบขนส่งสินค้า และการลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวอย่างเป็นรูปธรรม อ่านรายงานฉบับล่าสุดได้ที่นี่

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนของคาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้ที่เว็บไซต์

[1]ต้นไม้อีก 14,000 ต้นจะมีการปลูกในประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม

[2]ภายใต้การนำร่องโครงการ “บิน 1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น” ในปี 2564 ได้มีการปลูกต้นโกงกางไปแล้ว 999 ต้น ณ ศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน