‘ฝรั่งเศส’ สั่ง “ยกเลิกเที่ยวบินระยะสั้น” ให้เปลี่ยนไปนั่งรถไฟเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน

จากเป้าหมายที่ทุกประเทศจะช่วยกันลดก๊าซเรือนกระจกลง เพื่อทำให้อุณหภูมิของโลกไม่เพิ่มขึ้นเกิน 1.5-2.0 องศาเซลเซียส ภายในศตวรรษนี้ และในปี 2050 ต้องปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ทำให้ คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) จึงมีแผนการทำงานเพื่อสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว และเกิดเป็น “European Green Deal” หรือมาตรการลดคาร์บอนไดออกไซด์ลง 55% ในปี 2030

ล่าสุด ฝรั่งเศส ที่ถือเป็นหนึ่งในประเทศในยุโรป ได้สั่ง ยกเลิกเที่ยวบินระยะสั้นภายในประเทศ สำหรับการเดินทางที่ใช้เวลาเทียบเท่ากับการโดยสารรถไฟที่ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงครึ่ง โดยสมาชิกสภานิติบัญญัติคนหนึ่งยกย่องว่านี่เป็น “ขั้นตอนสำคัญ” ในความพยายามของประเทศในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

กฎดังกล่าวจะส่งผลกับเที่ยวบินระหว่างเมือง อาทิ ปารีส-ออร์ลี, บอร์กโดซ์ น็องต์ และลียง ส่วนเส้นทางอื่น ๆ จะไม่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ฝรั่งเศสถือเป็นประเทศที่มีเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงที่ครอบคลุม

ปัจจุบัน การเดินทางทางอากาศถือเป็นกิจกรรมที่ปล่อยคาร์บอนเข้มข้นที่สุดที่แต่ละคนสามารถทำได้ ขณะที่จากการวิเคราะห์โดยกรีนพีซแสดงให้เห็นว่า ในปีที่ผ่านมา จำนวนเที่ยวบินเครื่องบินส่วนตัวในยุโรปเพิ่มขึ้น 64% ขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 572,806 เที่ยว

และเนื่องจากการบินเป็นหนึ่งในส่วนที่มีการปล่อยคาร์บอนสูง ทำให้ การใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของบุคคลที่มีชื่อเสียงและร่ำรวย จึงเป็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก อาทิ บิลล์ เกตส์ ที่เป็นผู้รณรงค์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่กลับใช้เครื่องบินส่วนตัว