- องค์กรยั่งยืนเป็น “The Ecosystem for All” ดูแลการใช้ชีวิต 360 องศา ยึดหลัก ESG ตลอดการดำเนินธุรกิจ พร้อมมุ่งเน้น Creating Shared Value ให้ทุกฝ่ายเติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืน
- เดินหน้าตามแผน NET Zero 2050 เผย Green Initiatives ใหม่ๆ ได้แก่ 1)อสังหาฯ ต้นแบบ Green Partnership เตรียมจับมือการไฟฟ้าหรือ MEA และ SCG ส่งเสริมการประหยัดพลังงาน ร่วมกับร้านค้าและพันธมิตรตั้งเป้าไว้กว่า 100 ราย 2) วางแผนออก Sustainability linked loan / bond ใหม่ 10,000 ล้านบาท และ 3) เปิดตัวLow Carbon Mall ศูนย์การค้าต้นแบบรักษ์โลกแห่งแรกที่ Central Westville
- สร้าง Green Citizens จับมือพันธมิตรชวนทุกคนมาเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตให้เป็นมิตรกับโลก ในงาน “Better Futures Project 2023” ระหว่างวันที่ 24-29 พ.ค. 66 ที่เซ็นทรัลเวิลด์
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน มุ่งมั่นสร้างโลกที่ดีขึ้นภายใต้วิสัยทัศน์ Imagining better futures for all เผยแผนงานและกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนตามเป้าหมาย NET Zero 2050 พร้อมโรดแมปการริเริ่มโปรเจ็คต่างๆ ที่จับมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง Sustainable Growth ไปพร้อมกันทั้งระบบ The Ecosystem for Allโดยจากแผนธุรกิจ 5 ปี (2566-2570) ลงทุนด้าน Sustainability กว่า 10,000 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งมิติ People และ Planet พร้อมเดินหน้าตามแผนและเตรียมเผย Green Initiatives ใหม่ๆ ได้แก่ ริเริ่ม Green Partnership เตรียมจับมือการไฟฟ้าหรือ MEA และ SCG ส่งเสริมการประหยัดพลังงาน ร่วมกับร้านค้าและพันธมิตรตั้งเป้าไว้กว่า 100 ราย, วางแผนออก Sustainability linked loan / bond ใหม่ 10,000 ล้านบาท และเตรียมเปิดตัว Low Carbon Mall ศูนย์การค้าต้นแบบรักษ์โลกแห่งแรกที่ Central Westville ในไตรมาส 4/2566 นี้
เริ่มแล้ววันนี้! งานกรีนเอ็กซ์โปแห่งปี Better Futures Project 2023 @centralwOrld โดยเซ็นทรัลพัฒนาร่วมกับพันธมิตรภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรได้จัดขึ้น เพื่อขับเคลื่อนแนวทางด้านความยั่งยืนผ่านการนำเสนอเรื่องราวการใช้ชีวิตประจำวันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ข้อมูลเพิ่มเติม:https://www.youtube.com/watch?v=qnprrKbp2wwและhttps://campaign.centralpattana.co.th/BetterFuturesProject/
คุณนภารัฒน์ ศรีวรรณวิทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “การดำเนินธุรกิจของเซ็นทรัลพัฒนา เรามุ่งเป็น ‘The Ecosystem for All’ หรือระบบที่แข็งแกร่งและยั่งยืนที่สร้างความเติบโตให้กับทุกฝ่ายโดยเป้าหมายสำคัญคือการสร้าง Better Futures ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ชูบทบาทของเราในการพัฒนาพื้นที่ หรือ Place Making ให้ความสำคัญทั้งมิติของ Social หรือชุมชนและสังคมและด้าน Green หรือมิติของสิ่งแวดล้อมด้วยโดยในแผนธุรกิจ 5 ปี (2566-2570) เรามีแผนการลงทุนด้านความยั่งยืนกว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้เราเชื่อว่า Sustainability เป็นเรื่องของทุกคน ทุกฝ่าย และสามารถสร้าง Impact ให้กับทุกแง่มุมของการใช้ชีวิต และเชื่อมโยงกับทุก stakeholders ได้แก่
- Consumers:หรือผู้คนที่เข้ามาใช้ชีวิตในโครงการของเรา ในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีผู้คนเข้ามาใช้ชีวิตในโครงการของเราถึง 8 ล้านคนต่อวัน เราดูแลคุณภาพชีวิตของทุกคน ตั้งแต่การออกแบบโครงการ eco-friendly mall ยกระดับสู่ low carbon mall และสร้าง public space และพื้นที่สีเขียว เป็นต้น
- Tenants:หรือผู้เช่า เราเป็นอสังหาฯ รายแรกที่ริเริ่ม Green Partnership เตรียมผนึกกำลังกับ การไฟฟ้าหรือ MEA และ SCG ส่งเสริมการประหยัดพลังงาน ร่วมกับร้านค้าและพันธมิตรทั้งต้นน้ำ และ ปลายน้ำ ตั้งเป้าไว้กว่า 100 ราย, ส่งเสริม Waste Management กับร้านค้า โดยเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท Food Passion ได้มีการเปิดร้านอาหาร Low Carbon แห่งแรกในไทยที่เซ็นทรัล วิลเลจ
- Non-Tenant Partners:พันธมิตรอื่นๆนอกจากผู้เช่า ต่อยอดความสำเร็จในการเป็นอสังหาฯ และค้าปลีกรายแรกที่ออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) และเตรียมวางแผนออก Sustainability linked loan / bond ใหม่ 10,000 ล้านบาท, ติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทุกสาขารวมมากกว่า 400 ช่องจอด, อีกทั้งจับมือ Start-Up ในด้าน Waste Management ขยายจากกรุงเทพฯ สู่ปริมณฑลและต่างจังหวัด เป็นต้น
- Community:ชุมชนและสังคม แบ่งเป็น 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1) ด้าน Local Wealthส่งเสริมการจ้างงานท้องถิ่นจากการขยายโครงการครอบคลุมกว่า 30 จังหวัดในอีก 5 ปี, มอบพื้นที่ตลาดจริงใจ ฟาร์เมอร์มาร์เก็ตในศูนย์การค้า 18 สาขา สร้างโอกาสให้กับเกษตรกรกว่า 38,000รายพร้อมสามารถสร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชน 139 ล้านบาท (ตัวเลขโดยประมาณปี 65), เปิดพื้นที่ค้าขายให้ SMEs ปีละกว่า 100,000 ตร.ม. เป็นต้น 2) ด้าน Well-Beingโครงการใหม่ๆ เน้นเพิ่มพื้นที่สาธารณะ และพื้นที่สีเขียวในปี 65 เพิ่มขึ้น 11% และเรายังคงเป็น Centre อำนวยความสะดวกสถานที่ เช่น การฉีดวัคซีนโควิด และการบริจาคโลหิต และ 3) ด้าน Inclusivity ขับเคลื่อน Human Right ในองค์กร สนับสนุนความเท่าเทียบ และโครงการเพิ่มโอกาสทางการศึกษา เป็นต้น”
สำหรับ Journey to NET Zero 2050 ของเซ็นทรัลพัฒนามีความก้าวหน้าต่อเนื่องตามแผนในด้านต่างๆ อาทิ Energy การใช้พลังงานสะอาด ติดตั้ง Solar Rooftop สำเร็จแล้ว 50% ของจำนวนศูนย์การค้าทั้งหมด โดยในปี 2024 จะติดตั้งให้ครบทุกสาขา 100%, Waterลดการใช้น้ำ ใช้น้ำซ้ำ และนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ พร้อมติดตั้งระบบผลิตน้ำรีไซเคิล จำนวนรวม 19 โครงการ, Wasteสามารถแปลงขยะเพื่อลดปริมาณขยะฝังกลบได้ปริมาณกว่า 18,000 ตัน สัมฤทธิ์ผลที่ร้อยละ 127 เทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้และ Airดูแลคุณภาพอากาศให้ได้มาตรฐาน และยกระดับมาตรการ PM2.5 เป็นต้น
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เซ็นทรัลพัฒนาเป็นองค์กร Purpose-Driven และการขยายโครงการทั่วประเทศ ทำให้เราสร้าง impact ทั้งการ Drive Partnership และเข้าถึงภาคประชาชน โดยจากวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนขององค์กร เราได้ริเริ่มโครงการและแคมเปญต่างๆ ให้เรื่อง Sustainability เป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้คน อย่างเช่นการจัดงานกรีนเอ็กซ์โป Better Futures Project เป็นปีที่ 2 เราได้ออกแบบการเรียนรู้เป็นExperiential Spaceทำให้คนเรียนรู้ ทดลอง และนำไปปรับใช้ได้จริง พร้อมทั้งขยายความร่วมมือกับร้านค้าผู้เช่า และพันธมิตรจากหลากหลายวงการ”
ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวต่อไปว่า “ศูนย์การค้าเซ็นทรัลมีบทบาทที่ชัดเจนทั้ง Educate-Enable-Engage ในการร่วมสร้าง Green Citizens หรือคนที่มี Eco-Conscious Lifestyle ให้กับโลกใบนี้ ผ่านการริเริ่ม Green Initiatives ต่างๆได้แก่ เตรียมนำกรีนเอ็กซ์โป ‘Better Futures Project’ ไปโรดโชว์ที่สาขาอื่นๆ เช่น เซ็นทรัล พระราม 9และพิษณุโลก, งานกรีนมาร์เก็ต ‘Better Market’ รวบรวมทั้งอาหาร สินค้าของตกแต่งบ้าน เตรียมจัดที่เซ็นทรัลเวิลด์, อีสต์วิลล์, พระราม 3 และเวสต์วิลล์, Wednesday ช้อปทุกพุธ หยุดโลกร้อน เริ่มแคมเปญเซลล์กลางปี ทั้งกระตุ้นจับจ่าย ไปพร้อมการรักษ์โลก เพียงช้อปปิ้งแบบรักษ์โลกครบตามเงื่อนไขที่ร้านที่ร่วมรายการ รับของที่ระลึก และสะสม E-Stamp ต่อเนื่องตลอดปี และในไตรมาส 4 เตรียมเปิดตัว Central Westville ศูนย์การค้าต้นแบบรักษ์โลก Low Carbon Mall แห่งแรกของเซ็นทรัลพัฒนา”
ปักหมุดวันที่ 24-29 พ.ค.66 ชั้น1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ภายในงานคุณจะได้เรียนรู้ว่าไลฟ์สไตล์ในแต่ละวันทั้ง ทั้ง Eat-Shop-Work-Play-Stay-Live สามารถเปลี่ยนแปลงให้โลกดีขึ้นได้อย่างไร พบกับโซนไฮไลท์
- Better Stories: เล่าเรื่องผ่าน Art Book of Betterment ผ่านงานอาร์ตสุดคิวท์ผลงานจากอิลลัสเตรเตอร์ชื่อดัง คุณป่าน นิตตา ประภัสภักดี หรือ Paan Nitta ที่นำเสนอเรื่องความยั่งยืนให้เป็นเรื่องใกล้ตัวและน่ารักพร้อมชวนคุณมาทานอาหาร ช้อปปิ้ง อยู่อาศัย ทำงาน ท่องเที่ยว และเล่น เปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อโลกที่ดีขึ้น และครั้งแรกกับการออกบูธจากโครงการที่อยู่อาศัยจากเซ็นทรัลพัฒนา ที่นำเสนอไอเดียบ้านรักษ์โลก ให้โลกรัก
- Better Workplace: พื้นที่สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศรุ่นใหม่ที่ centralwOrld Offices สำนักงานสุดทันสมัยที่ใจใส่เรื่องความยั่งยืน พับกับกิจกรรมเสวนาและเวิร์กช็อปจากพันธมิตรชื่อดังด้านการจัดการพลังงานและขยะอย่างครบวงจร
- Better Environment:บูธสุดยิ่งใหญ่จากการไฟฟ้านครหลวงที่จะมาแชร์ทริคประหยัดไฟ และ ไอเดียลดค่าไฟในบ้านที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน พร้อมด้วยบริการต่างๆ ที่ครบครัน แบบ One stop service
- Better EV:เปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ถึง 2 รุ่น จาก Lexus และ Volvo พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษที่มามอบให้คุณที่งานนี้งานเดียว
- Better Choice & Better Style:สินค้าและบริการมากมายสำหรับสายรักษ์โลก พร้อมเผยความสำคัญของอุตสาหกรรม BCG (Bio-Circular-Green Economy) อาทิ Unilqlo, Anello, Body Shop, YveRovchers, Axxaและอื่นๆอีกมากมาย
#CentralPattana #BetterFuturesProject #ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเป็นมิตรกับโลก