โลกแห่งการทำงานในยุคที่ทรานส์ฟอร์มอย่างรวดเร็ว ความคิดที่ว่า ‘เราคือคนที่ใช่’ สำหรับองค์กรหรือไม่ จึงเป็นคำถามที่วนเวียนอยู่ในใจของคนทำงาน เนื่องด้วยเทคโนโลยี AI ที่สามารถทำงานซ้ำซ้อนได้แบบอัตโนมัติ หรือแม้แต่ ChatGPT อีกตัวแปรสำคัญที่อาจเข้ามาทดแทนได้หลากหลายอาชีพในอนาคต ขณะที่โจทย์ความต้องการขององค์กรต่างก็ยังคงเฟ้นหาและรักษา ‘คนที่ใช่’ หรือ ‘Talent’ เพื่อร่วมขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้าต่อไป
ความท้าทายในมิติต่างๆ ถือเป็นอีกแรงเสริมให้ ‘Conicle’ มุ่งมั่นที่จะพัฒนา People Experience Solution อย่างต่อเนื่อง เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในการ ‘พัฒนาคน’ ให้เก่งขึ้น ปรับตัวทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน และเป็น ‘คนที่ใช่’ ในทุกบริบทขององค์กร ทั้งในด้านความสามารถ ศักยภาพ ทักษะ รวมถึงทัศนคติที่ดีต่อองค์กร ปัจจุบัน Conicle เป็นผู้นำด้าน People Tech ล่าสุดได้เปิดตัว People Experience Platform เวอร์ชัน 5.0 ภายใต้ชื่อแบรนด์ ‘Conicle Space’ ภายในงาน Conicle RE:D day 2023 ณ โรงหนัง House สามย่าน ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์
คุณปูน – นกรณ์ พฤกษ์พิพัฒน์เมธ CEO & Co-Founder บริษัท โคนิเคิล จำกัด (Conicle) เปิดเผยว่า ทุกวันนี้การเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง จากเดิมที่ Conicle มุ่งการเรียนรู้แบบ Learning Experience แต่ในปัจจุบัน Conicle Platform ได้รีแบรนด์สู่ ‘Conicle Space’ ซึ่งออกแบบและพัฒนาภายใต้แนวคิด Go Beyond Learning เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้เรียนและเทรนด์การเรียนรู้ที่เปลี่ยนไป โดยเน้น People Development เพื่อสร้าง People Experience ในสเกลที่ใหญ่ขึ้นทั้งในมิติที่กว้างและลึกซึ้งมากขึ้น มีการประเมินผล การตั้งเป้าหมาย มีการมองถึง Career Development และ Community Engagement รวมถึงการทำ Knowledge Sharing, Community Coaching, Gamification และ Reward System ซึ่งทั้งหมดรวมอยู่ใน Conicle Space แพลตฟอร์มเวอร์ชั่น 5.0 ด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ใช้งานง่าย สนุกสนานและเพิ่มประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่ๆ โดยที่ผู้เรียนสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ในแพลตฟอร์มได้ในทุกๆ วัน ภายใต้แนวคิด ‘Everyday Space for your People Experience’ ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาคนในองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
คุณลิล – สลิลทิพย์ ชัยกิจพัฒนา Product Lead และ คุณไต้ฝุ่น – นภสินธุ์ เสือดี Product Excellence Lead บริษัท โคนิเคิล จำกัด (Conicle) ผู้ดูแลด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้ข้อมูลว่า Conicle ได้มีการนำ Insights จากผู้ใช้งานจริง มาออกแบบพัฒนาต่อยอดสู่ Conicle Space แพลตฟอร์มที่เป็นมากกว่าการเรียนรู้แห่งปี 2023 โดยมีระบบการใช้งานถึง 8 ระบบหลัก ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้เรียนแบบ One-Stop-Solution ซึ่งมีระบบที่เป็นเรือธง อยู่ 4 ส่วนหลักๆ คือ
- Conicle Learn: แพลตฟอร์มสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ ที่ได้นำแนวคิด Data-Driven มาพัฒนาการเรียนรู้แบบวัดผลได้ด้วยเส้นทางการเรียนรู้ผสมผสานทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ (Blended Learning) แบบรายบุคคลตามเป้าหมายและความต้องการของผู้เรียนมากยิ่งขึ้น
- Conicle Connect: ระบบการจัดการชั้นเรียน ตัวช่วยในการจัดตารางและนัดหมายกิจกรรมต่างๆ ภายในองค์กร เหมาะสำหรับการจัดทำ Class, Coaching, 1-1, Live Session รวมถึงการจัด Workshop, Training และกิจกรรมอื่นๆ
- Conicle Manage: HR Automation ผู้ช่วย HR ในการจัดการพัฒนาบุคลากรในองค์กร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และแสดงผลข้อมูลผ่าน Dashboard ที่ชัดเจนและใช้งานง่าย เพื่อช่วย HR และผู้บริหารสามารถเห็นภาพ เข้าใจ และนำผลลัพธ์ไปตัดสินใจและบริหารจัดการต่อได้
- Conicle Grow: เสริมการเรียนรู้แบบมีจุดมุ่งหมาย ด้วยการวัด Competency และประเมินศักยภาพของพนักงานที่สามารถตอบโจทย์องค์กร และ Career Path เพื่อการเติบโตของของพนักงานในองค์กรได้
สำหรับปลายทางของการเรียนรู้ Conicle ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงของ ‘คน’ หรือ ‘พนักงาน’ สามารถปรับตัวเองโดย Upskills และ Reskills เพื่อปิดช่องว่างหรือข้อบกพร่องของตนเอง มีความพร้อมที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วได้อย่างมีศักยภาพ ซึ่ง ‘คน’ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้องค์กรสามารถทรานส์ฟอร์มได้และเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของเรา
คุณดิน – อนพัทย์ วิมลประภาพร CTO & Co-Founder บริษัท โคนิเคิล จำกัด (Conicle)ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกจากการวิเคราะห์ข้อมูลบน Conicle Space ที่มีพันธมิตรองค์กรกว่า 100 แห่ง มีพนักงานหรือผู้เรียนมากกว่า 1 ล้านคน และมีชั่วโมงการเรียนรู้รวมกว่า 14 ล้านชั่วโมง ว่าทุกวันนี้เทรนด์การเรียนรู้ของผู้เรียน แบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ
- Talent Development เป็นหัวข้อที่โดดเด่นของ Conicle ประกอบด้วยเรื่องของ Soft Skills ที่จำเป็นในการทำงานในโลกยุคใหม่ ความรู้ด้านดิจิทัลเทคโนโลยี เรื่อง Self-management รวมถึงปัจจุบันนี้ องค์กรมีการเน้นการทำงานเป็นทีม มีการทำงานข้ามสายงานมากขึ้น ฉะนั้นเรื่องของการสื่อสารด้าน Communication และ Collaboration ก็จะเป็นหัวข้อที่ผู้เรียนให้ความนิยมมากขึ้น
- Compliance เป็นหลักสูตรบังคับที่จำเป็นต้องมีในการทำงาน เช่น ธุรกิจธนาคารและประกัน จะต้องมีการอบรมเกี่ยวกับใบอนุญาตตัวแทน/นายหน้าประกัน ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม หรือ อุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing) ซึ่งจะเป็นหลักสูตรภาคบังคับเฉพาะธุรกิจนั้นๆ ตามกฎหมาย กฎระเบียบ หรือประกาศจากหน่วยงานที่กำกับดูแล ให้ผ่านหลักสูตรที่กำหนดไว้ ก่อนปฏิบัติงานจริง
ทั้งนี้ Conicle ได้มองเห็นแนวโน้มการแข่งขันด้าน People Tech ที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยฐานลูกค้าของ Conicle จะเป็นผู้เรียนในกลุ่ม Professional Lifelong Learning ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลสถิติของ Krungthai COMPASS คาดการณ์ว่าตลาด Corporate Training มีศักยภาพในการเติบโตได้ถึง 60,800 ล้านบาทในปี 2570 (CAGR = 26.4%)
ด้านพันธมิตรของ Conicle ได้มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ และแชร์มุมมองการพัฒนาบุคลากรในยุคดิจิทัล โดยธนาคารเกียรตินาคินภัทร แชร์ให้ฟังว่า เกียรตินาคินเป็นพันธมิตร Conicle มายาวนาน และเป็นธนาคารแห่งแรกๆ ที่นำ Learning Management System (LMS) บนระบบ Cloud เข้ามาใช้พัฒนาบุคลากรในองค์กร ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นระบบการเรียนรู้เท่านั้น แต่ยังสามารถ Integrate ฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อรองรับพฤติกรรมการใช้งานของเจนเนอเรชั่นที่แตกต่างกันในองค์กรได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจุดเด่นของ Conicle คือ การเป็น Local Platform ที่เข้าใจบริบทสังคมไทย จึงสามารถ Customize รูปแบบการใช้งานตามบริบทสังคมไทยที่มีความเฉพาะตัว
ด้านบริษัท บี.กริม พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า Conicle ได้มีการออกแบบ ‘B.Grimm Academy’ เพื่อกระตุ้นให้คนในองค์กรเรียนรู้ด้วยความสนุก และสร้างโอกาสการเรียนรู้ตลอดปี ครอบคลุมทั้งหลักสูตรภาคบังคับสำหรับพนักงานทุกคนผ่านช่องทางที่หลากหลายสะดวกต่อการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา และหลักสูตรการเรียนรู้เฉพาะบุคคลในลักษณะ Bite Size Learning สำหรับกลุ่มที่มีเวลาน้อย ขณะเดียวกันสำหรับพนักงานที่ต้องการพัฒนาตัวเองตลอดเวลายังมี Learning Catalogue ให้เลือกตาม Individual Development Plan และ Gamification หรือการเรียนรู้ผ่านเกม ให้พนักงานได้สะสมแต้มเพื่อแลกของรางวัล ซึ่งกระตุ้นให้พนักงานเข้ามามีส่วนร่วมได้มากขึ้น
ขณะที่ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เผยว่าประกันชีวิตเป็นธุรกิจเฉพาะ โดยตัวแทนนายหน้าจำเป็นต้องผ่านหลักสูตรตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งยังมีกฎระเบียบ กฎหมาย รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่ตัวแทนต้องอัพเดทข้อมูลความรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำข้อมูลไปอธิบายหรือนำเสนอต่อลูกค้าที่ซื้อกรมธรรม์ได้อย่างถูกต้อง บริษัทฯ จึงทำงานกับ Conicle อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะช่วงวิกฤตโควิด-19 มีการปรับเปลี่ยนช่องทางการเรียนเป็นรูปแบบ Virtual ทำให้ธุรกิจของบริษัทฯ ยังเดินหน้าต่อไปโดยไม่หยุดชะงัก ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยี Face Recognition เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนเวลาเรียนรู้ นอกจากนี้ยังร่วมพัฒนาแอปพลิเคชั่น LEARNRU กับ Conicle เพิ่มความสะดวกสบายในการเรียนรู้ให้กับตัวแทนนายหน้า หรือพนักงานในองค์กร รวมถึงแอปพลิเคชั่นการเรียนรู้ Raklearn เพื่อตอบโจทย์กลุ่มพันธมิตรอื่นๆ ที่ร่วมขายผลิตภัณฑ์ของเมืองไทยประกันชีวิต
คุณปูน – นกรณ์ พฤกษ์พิพัฒน์เมธ กล่าวสรุปว่า Conicle เปรียบเสมือนเครื่องมือ (Tool Set) ที่ช่วย Enable ให้องค์กรขับเคลื่อนให้พนักงานเกิด Mindset และ Skills Set เพื่อพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยจุดแข็งของ Conicle Space เข้ามาตอบโจทย์ผู้เรียนในด้านการสร้างพื้นที่ในการพัฒนาตนเอง และพื้นที่ในการเรียนรู้ ขณะเดียวกันในด้านองค์กร ด้าน HR หรือผู้บริหารนั้น แพลตฟอร์ม Conicle Space ได้เข้ามาช่วยในการทำ People Intelligence และ People Analytics เพื่อให้ทราบว่าพนักงานมีความชอบด้านใด และระดับความสามารถทักษะอยู่ในจุดใด
ข้อโดดเด่นของ Conicle Space ที่แตกต่างจากเวอร์ชันเดิม คือ Conicle ได้ออกแบบในเรื่อง People Experience ได้อย่างครบวงจร เป็นผู้ช่วย HR ในการบริหารจัดการประสบการณ์และการพัฒนาบุคลากรในองค์กร ช่วยลดภาระงานของ HR ในขณะที่สามารถสร้าง Engagement และประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงานได้อย่างรวดเร็ว วิเคราะห์ข้อมูลได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะรวบรวมข้อมูลของผู้เรียนเป็นรายบุคคลแบบ Personalization ไว้ในที่เดียวบนแพลตฟอร์ม เสมือนเป็น People 360 ทำให้ HR ทราบข้อมูลในเชิงลึก เข้าใจ Insights ของพนักงาน รวมถึงพฤติกรรมการเรียนรู้ของพนักงานได้อย่างครบวงจรภายใน Conicle Space เพียงที่เดียว
สำหรับกลยุทธ์ของ Conicle ในปี 2023 ยังคงมุ่งเน้นฐานลูกค้าเดิมในส่วนขององค์กร โดยจะขยายการเรียนรู้ในมิติที่กว้างและลึกขึ้น ทั้งในธุรกิจด้านพลังงาน ธุรกิจด้านประกันภัย และธนาคาร และขยายไปยังธุรกิจด้านบริการมากขึ้น เช่น ธุรกิจค้าปลีก ภัตตาคาร ร้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงหลักสูตรเชิงลึกเฉพาะเจาะจงในแต่ละอุตสาหกรรม และออกแบบเส้นทางการเรียนในสายงานต่างๆ นอกจากนี้ Conicle ยังมีแผนดำเนินการที่จะขยายฐานลูกค้า SME ที่เห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนาทักษะและศักยภาพของพนักงาน เพราะผลลัพธ์ปลายทางคือผลประกอบการของธุรกิจที่เติบโตขึ้น โดยในปีที่ผ่านมา มีธุรกิจ SME ทั้งขนาดเล็กและขนาดกลางให้ความสำคัญในการพัฒนาคนในบริษัทฯ มากขึ้น
ผู้สนใจสามารถทดลองใช้ระบบ Conicle People Experience Solution ได้ที่ https://bit.ly/3MWMqLi หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.conicle.com หรือโทร. 02-430-6699 หรือ 02-430-6696