ย้อนไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา ‘จีน’ ได้ประกาศแบน ไมครอน เทคโนโลยี (Micron Technology) บริษัทผู้ผลิตชิปสัญชาติสหรัฐฯ โดยอ้างว่า “เป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเครือข่ายร้ายแรง” ซึ่งอาจซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลของจีน และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
ล่าสุด ไมครอน เทคโนโลยี ได้ประกาศว่าจะลงทุนกว่า 4.3 พันล้านหยวน หรือกว่า 605 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยบริษัทได้ตัดสินใจที่จะซื้ออุปกรณ์จากพาวเวอร์เทค เทคโนโลยี (Powertech Technology) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปสัญชาติจีนในเมืองซีอาน เพื่อนำมาใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ของไมครอน ทั้งที่รัฐบาลจีนเคยประกาศว่าจะแบนบริษัทไมครอน เทคโนโลยี โดยอ้างเรื่องปัญหาความมั่นคง
“โครงการลงทุนนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของบริษัทไมครอนที่มีต่อธุรกิจในจีนและพันธมิตรของเราในจีน” Sanjay Mehrotra ซีอีโอ กล่าว
ย้อนไปเมื่อเดือนที่แล้วหน่วยงานเฝ้าระวังความปลอดภัยทางไซเบอร์ของจีน ได้กล่าวหาว่า บริษัทไมครอนนั้นมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเครือข่าย เนื่องจากไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความมั่นคง ส่งผลให้หน่วยงานได้ออกประกาศให้บริษัทต่าง ๆ หยุดซื้อผลิตภัณฑ์ของไมครอน ดังนั้น เหตุการณ์ดังกล่าว นับเป็นการยกระดับสงครามชิประหว่างสหรัฐฯ และจีน
โดยรัฐบาลจีน เริ่มการสอบสวนบริษัทไมครอนเมื่อปลายเดือนมีนาคม 5 เดือนหลังจากที่สหรัฐฯ เปิดเผยมาตรการกีดกันที่มีเป้าหมายเพื่อตัดการเข้าถึงชิประดับสูง อุปกรณ์การผลิตชิป และซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ของจีน
ปีที่ผ่านมา บริษัทไมครอน เทคโนโลยีมีรายได้ประมาณ 30,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยรายได้จากจีนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% โดยผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของบริษัทนั้นถูกซื้อโดยคู่ค้าต่างชาติ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าการแบนของจีนนั้นมีผลกับลูกค้าเหล่านั้นหรือไม่
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ แสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการแบนบริษัทไมครอนของจีน ของจีนต่อไมครอน