เดอะมอลล์ กรุ๊ป ร่วมกับ วันสยาม รวมพลังเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ร่วมกันจัดงาน มหกรรมช้อปปิ้งครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี “BANGKOK SHOPPING FESTIVAL 2023 ช้อป ร่าง พัง KUNGFU SHOPPING”

เดอะมอลล์ กรุ๊ป ร่วมกับวันสยาม ผนึกกำลังพันธมิตรธุรกิจยกทัพ 7 ศูนย์การค้า และ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำระดับประเทศ เดอะมอลล์ และ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และ สยามดิสคัฟเวอรี่  เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยตามนโยบายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทุ่มงบ 180 ล้านบาท จัดเมกะเซลล์ มหกรรมช้อปปิ้งลดยิ่งใหญ่กลางปีกับแคมเปญ “BANGKOK SHOPPING FESTIVAL 2023ช้อป ร่าง พัง KUNGFU SHOPPING”ภายใต้คอนเซ็ปต์ ยุทธจักรนักช้อป ลดยิ่งใหญ่ ไร้เทียมทานลดสะท้านทุกชั้นทุกแผนก ลดสูงสุด 80% พิเศษรับส่วนลดเพิ่ม เครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 40% ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน-30 กรกฎาคม 2566 หรือช้อปผ่าน MONLINE.COM, M CHAT & SHOP และ บริการ CALL TO ORDER คาดแคมเปญนี้จะช่วยเพิ่มทราฟฟิกช่วงไตรมาส 3 ภายในศูนย์ฯกว่า 15% และพิชิตยอดขายจากแคมเปญกว่า 4,800 ล้านบาท

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด (Miss Voralak Tulaphorn ; Chief Marketing Officer, The Mall Group Co., Ltd.) เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา เดอะมอลล์ กรุ๊ป ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง มีโมเมนตัมการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้น กำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมาคึกคักตามปกติ โดยเริ่มมีปัจจัยบวกมาตั้งแต่ไตรมาส 2  ทำให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจกลับเข้าสู่โหมดการเติบโตอย่างเต็มศักยภาพและอีกปัจจัยบวกที่สำคัญคือจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวโดยในครึ่งปีหลังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดโครงการ Amazing Thailand Grand Sale2023 เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติอันจะส่งผลให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ยอดขายของธุรกิจค้าปลีกในปี 2566 จะขยายตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยคาดว่าตลาดอาจขยายตัวราว 2.8 – 3.6% จากปี 2565”

เดอะมอลล์ กรุ๊ป ประเดิมครึ่งปีหลังด้วยการจัดเมกะเซลล์ มหกรรมช้อปปิ้งครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี โดยร่วมกับวันสยามพร้อมผนึกกำลังพันธมิตรทางธุรกิจระดับแนวหน้าของเมืองไทย อาทิบัตรเครดิเอสซีบี เอ็ม วีซ่า, บัตรเครดิคาร์ดเอกซ์, บัตรเครดิตเอสซีบี, บัตรเครดิตซิตี้, บัตรเครดิตยูโอบี, บัตรเครดิตกสิกรไทย, บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ, บัตรเครดิตกรุงศรี, บัตรเครดิตเคทีซี, บัตรเครดิตทีทีบี, บัตรเครดิตธนาคารออมสิน, บัตรเครดิตและเดบิตยูเนียนเพย์, เอไอเอส, เมืองไทยประกันชีวิต, สิงห์ และ ฟอร์ท เวนดิ้ง (เต่าบิน)จัดเมกะเซลล์ มหกรรมช้อปปิ้งครั้งยิ่งใหญ่กลางปี “BANGKOK SHOPPING FESTIVAL 2023ช้อป ร่าง พัง KUNGFU SHOPPING” ลดยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานลดสะท้านทุกชั้นทุกแผนก ทั้งศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และ M Online ลดสูงสุด 80% พร้อมมอบโปรโมชั่นให้กับลูกค้าในทุกสัปดาห์ตลอดแคมเปญ พบกับโปรแรงจาก “ช้อป ร่าง พัง KUNGFU SHOPPING” สินค้าเคาน์เตอร์ปกติลดสูงสุด 50%รับส่วนลดเพิ่ม / เครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 40% จากบัตรM Card และ บัตรเครดิตที่ร่วมรายการ เมื่อใช้คะแนนสะสมแลกเท่ากับหรือน้อยกว่ายอดซื้อนอกจากนี้ยังร่วมมือกับพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวกว่า 100 องค์กร มอบสิทธิพิเศษให้นักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวสามารถรับ Cash Voucher รวมสูงสุดถึง 2,500 บาท เมื่อช้อปสินค้าตามยอดซื้อที่กำหนด สำหรับลูกค้าที่ชอบช้อป ONLINE  สามารถช้อปจุใจกับส่วนลดสูงสุด 80%ผ่าน MONLINE.COM คาดว่าแคมเปญนี้จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ พร้อมทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยให้กลับมาเป็น Shopping Destination อีกครั้ง

นอกจากนี้  แคมเปญนี้ยังได้หนุ่มนักเขียนการ์ตูนอิสระ ที่รู้จักกันในนาม PUCK หรือ ไตรภัค สุภวัฒนา เจ้าของคาแรคเตอร์ “SAWREAL RABBIT” กระต่ายหนามสุดโหด และ “WORLD BOY” น้องโลกขี้เบื่อ มาร่วมเติมสีสันการตกแต่งสื่อต่างๆภายในศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้าเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวผ่านคาแร็คเตอร์ของเหล่าตัวการ์ตูนโดนชวนเหล่าจอมยุทธ์ มาร่วมฝึกร่างกายให้แข็งแกร่ง เตรียมตัวออกไปท่องยุทธจักรนักช้อป กับคอนเซ็ปท์ “งัดกระบวนท่าเสือตะครุบ SALE มังกรผงาดฟ้าเหมาเสื้อผ้าหมดแผงบาทาสายฟ้าตามหาของไวและสมดุลทางใจช้อปได้แบบสบายกระเป๋า” มาร่วมโชว์กระบวนท่าช้อปกันให้ร่างพังกันไปเลยได้ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน เป็นต้นไป ที่ศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์, เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ทุกสาขา, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ททท.มุ่งเน้นส่งเสริมผู้ประกอบการด้านช้อปปิง ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน จัดโครงการ Amazing Thailand Grand Sale เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เป็น1 ใน 6 จุดหมายปลายทางของการชอปปิง (Shopping Destination) ที่ทั่วโลกอยากมาเยือน มีความหลากหลาย ความคุ้มค่า และความสนุกสนานจากการชอปปิง จะเป็นจุดดึงดูดสำคัญให้นักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ การนำเสนอกิจกรรมการชอปปิงควบคู่กับ Soft Power ของไทยจะทำให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่าและมีความหมายจากการเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น

นางสรัลธร อัศเวศน์ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด (Mrs.Saruntorn Asaves: Head of Shopping Center Business Division, Siam Piwat Co., Ltd.) กล่าวถึงการจับมือร่วมกันในครั้งนี้ว่า “วันสยามซึ่งรวม GlobalDestinations จุดหมายปลายทางระดับโลก ได้แก่ สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่  ซึ่งเป็น Top of Mind ครองอันดับหนึ่งในใจของทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งนี้จากข้อมูลล่าสุดของ Agoda ผู้ให้บริการการจองที่พักออนไลน์ชื่อดัง กรุงเทพ ครองอันดับเมืองที่มีนักท่องเที่ยวจองมาเที่ยวมากที่สุดในโลกในปี 2566 โดยตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้จนถึงเดือนมิถุยายน 2566 นี้ ไทยรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศแล้วรวมทั้งสิน 11.4 ล้านคน การผนึกกำลังร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชนในแคมเปญมหกรรมช้อปปิ้งครั้งยิ่งใหญ่แห่งปีนี้  นอกจากจะเป็นการร่วมกระตุ้นการจับจ่ายครึ่งปีหลังของนักช้อปไทยและต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ยังเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทย ในฐานะ Shopping Destination  สำคัญของโลกอีกด้วย และยังช่วยสร้างแม็กเน็ตดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มนักช้อปเดินทางเข้ามาจับจ่ายให้ประเทศไทย ด้วยมหกรรมแคมเปญช้อปปิ้งสุดพิเศษ ที่คุ้มค่าและโดนใจ นอกจากนี้ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ยังมีร้านค้าใหม่ ๆ และกิจกรรมอีเว้นท์ที่น่าสนใจตลอดช่วงเวลาแคมเปญ วันนี้  – 30 กรกฎาคม 2566 นี้”

นางสาววรลักษณ์ กล่าวปิดท้ายว่า “การจัดแคมเปญ “BANGKOK SHOPPING FESTIVAL 2023 ช้อป ร่างพัง KUNGFU SHOPPING” ถือเป็นการทำการตลาดเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของลูกค้าในช่วงเริ่มครึ่งปีหลัง  และคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ดีหลังการเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว และส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยคาดว่าจะทำให้ทราฟฟิกนักช้อปเพิ่มขึ้น15% และตั้งเป้ายอดขายจากแคมเปญนี้ 4,800 ล้านบาท”