Asava Group (อาซาว่า กรุ๊ป) ตอกย้ำความสำเร็จบนเส้นทางแฟชั่นตลอด 15 ปี ปั้นแบรนด์ไทยลุยเวทีโลก มุ่งสู่ความเป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ รุกขยายพอร์ตส่ง 5 แบรนด์ในเครือเจาะธุรกิจแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และอาหารผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ พร้อมสยายปีกสู่ต่างประเทศ วางเป้าโต 50% ภายในสิ้นปี 2567
พลพัฒน์ อัศวะประภา ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้ง บริษัท อาซาว่า จำกัด กล่าวว่า “อาซาว่า กรุ๊ปก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2551 ซึ่งความสำเร็จตลอด 15 ปีที่ผ่านมา เรามองว่าเกิดจากการมีแบรนด์ดีเอ็นเอที่แข็งแกร่ง นั่นคือ “Urban, Sophisticated, Realistic, Authentic, Intelligent” เป็นแนวคิดหลักในการทำงานของอาซาว่า ซึ่งเน้นเรื่องความเป็นตัวตนของผู้หญิงทำงานในเมืองใหญ่, ความโก้หรู ที่ไม่หวือหวา, สามารถสวมใส่ได้จริง, ฉลาดและรู้จักใช้ชีวิต และซื่อตรงต่อสไตล์อันเด่นชัดของตัวเองแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของแบรนด์อยู่ที่เสื้อผ้าที่มีเส้นสายและเอกลักษณ์ในเชิงของงานดีไซน์ที่เฉพาะตัว ทำให้แบรนด์มีจุดยืนที่ชัดเจน ไม่เหมือนแบรนด์อื่นในตลาด นอกจากนี้บริษัทยังไม่หยุดพัฒนาคุณภาพและบริการพร้อมเรียนรู้ที่จะปรับตัวเพื่อให้เกิดสินค้าและบริการใหม่ๆ สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคซึ่งปัจจุบันบริษัท เติบโตและมีแพลนที่จะจัดกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์และกิจกรรมทางการตลาดไม่ว่าจะเป็นการจัดแฟชั่นโชว์ รวมไปถึงในอนาคตที่กำลังมองหาพาร์ทเนอร์ เพื่อขยายตลาดสู่ภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย”
อาซาว่า กรุ๊ป พร้อมเดินหน้าสู่ปีที่ 16 อย่างแข็งแกร่ง โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์สินค้าของคนไทย
ให้ทัดเทียมแบรนด์ระดับโลก โดยปัจจุบันมีแบรนด์ในเครืออันประกอบไปด้วยแบรนด์แฟชั่น 5 แบรนด์ คือ Asava (อาซาว่า), Asv (เอเอสวี), Uniform by Asava (ยูนิฟอร์ม บาย อาซาว่า), White Asava (ไวท์ อาซาว่า), MOO (หมู) และ ร้าน SAVA Modern THAI Flavour (ซาว่า โมเดิร์น ไทย เฟลเวอร์) ที่เป็นร้านอาหาร โดยภาพรวมการเติบโตของแบรนด์ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา อาทิ Asavaมียอดขายเติบโตคิดเป็น 35%, Asvมียอดขายเติบโตคิดเป็น 23% และ Uniform by Asavaมียอดขายเติบโตคิดเป็น 102% ทำให้ภาพรวมการเจริญเติบโตช่วงครึ่งปีแรกของแบรนด์ภายใต้เครือ Asava Group ทั้งหมดคิดเป็น 63% โดยคาดหวังว่ายอดขายโดยภาพรวมจะเติบโตขึ้นมากกว่า 50% ภายในสิ้นปี 2567
นอกจากนี้ Asava Group ยังวางแผนที่จะปรับโฉมสาขาต่างๆ อย่างสาขาชิดลม และพารากอน รวมถึงร้าน Flagship Store ซ.สุขุมวิท 45 ให้มีดีไซน์ที่แตกต่างกันไปตามความต้องการและไลฟ์ไตล์การใช้ชีวิตของคนในแต่ละพื้นที่ พร้อมพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างพาร์ทเนอร์ตลอดจนกิจการร่วมค้า (Joint venture) และช่องทางการขายออนไลน์ในต่างประเทศ บริษัทยังมองหาการร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์เพื่อขยายตลาดสู่ภูมิภาคอาเซียน หรือ AEC ไปยังลาว กัมพูชา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เพราะประเทศเหล่านี้มีฐานลูกค้าที่ใหญ่มากอยู่แล้วเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้พอร์ตโฟลิโอและมุ่งมั่นที่จะนำพาแบรนด์ไลฟ์สไตล์ของคนไทยไปสร้างปรากฏการณ์บนเวทีโลกซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังชุดประกวดนางงามไทยบนเวทีโลก ไปจนถึงผลงานออกแบบชุดผ้าไหมไทยให้กับนักร้องสาวชื่อดัง “ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล” แห่งวง BLACKPINK
ปัจจุบันอาซาว่าไม่ได้ทำแค่เพียงแบรนด์เสื้อผ้าสำหรับสุภาพสตรีที่โก้หรูเท่านั้น แต่ยังมีธุรกิจในเครืออีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Asvแบรนด์เสื้อผ้าสำหรับสุภาพสตรีที่มีสไตล์เรียบง่าย, White Asavaแบรนด์สำหรับชุดเจ้าสาว, Uniform by Asavaแบรนด์เสื้อผ้าชุดยูนิฟอร์ม และ MOO เสื้อผ้าสำหรับสุภาพบุรุษ และยังมีร้านอาหาร SAVA Modern THAI Flavourโดยทั้งหมดอยู่ภายใต้ Asava Group ซึ่งนอกจากจะจัดจำหน่ายผ่านหน้าร้านและช่องทางของแบรนด์ เช่น เว็บไซต์ และโซเชียลมีเดียต่างๆ แล้ว ยังได้ขับเคลื่อนให้เกิดความร่วมมือขึ้นระหว่างสมาคมแฟชั่นดีไซเนอร์กรุงเทพฯ (Bangkok Fashion Society) และแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ที่รวบรวมแฟชั่นจากไทยดีไซเนอร์ชั้นนำ ผลักดันสินค้าแฟชั่นในกลุ่มพรีเมียมสู่ตลาดออนไลน์ ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการอีคอมเมิร์ซและแฟชั่นพรีเมียมในเมืองไทย และมีส่วนช่วยผลักดันยอดขายของแบรนด์อีกด้วย
ด้วยการวางแผนการขยายตลาดโดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นด้านยอดขาย หรือการขยับขยายของแบรนด์ ตั้งเป้าภายในสิ้นปี 2567 ยอดขายเติบโตขึ้นมากกว่า 50 %หรือคิดเป็นมูลค่ากว่าร้อยล้านบาทจากก้าวแรก สู่ปัจจุบันรายได้เติบโตถึง 52 เท่า
สามารถติดตาม อัปเดตแฟชั่นคอลเลกชันผลงานการออกแบบใหม่ ๆ พร้อมสินค้า และบริการ จากแบรนด์ในเครือ Asava Group ได้ที่ Website : https://asavagroup.com/, Instagram : @asavagroup, Facebook: https://www.facebook.com/asavathailandและ Line : @asavagroup
#Asavagroup #Asava15thAnniversary