Kipling หนึ่งในตำนานกระเป๋าแห่งยุค Y2K เตรียมปัดฝุ่นไอคอนของแบรนด์อย่างพวงกุญแจ “ลิงขนดูดมือ” กลับมาอีกครั้ง หลังจากได้รีแบรนด์เปลี่ยนไปใช้ลิงซิลิโคนพลาสติกอยู่หลายปี ในปีหน้าจะได้เห็นในกระเป่าหลายรุ่นมากขึ้น
เชื่อได้ว่าใครที่เป็นเด็กยุค 90 จะต้องรู้จักกระเป๋า Kipling อย่างแน่นอน เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ขวัญใจคนยุคนั้นทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ เพราะด้วยดีไซน์ สีสันสดใส อีกทั้งยังมีความฟังก์ชันนอล จุสัมภาระได้เยอะ อีกทั้งยังมีพวงกุญแจลิงขนปุกปุยอีกด้วย
Kipling เป็นแบรนด์กระเป๋าสัญชาติเบลเยียม มีอายุได้ 36 ปีแล้ว ในประเทศไทยได้ทำตลาด 25 ปี จัดจำหน่ายโดย บริษัท มณียา คอนเซพทส์ จำกัด ธุรกิจในกลุ่มมณียา ผู้บริหารโรงแรมเรเนซองต์ ราชประสงค์ และอาคารสำนักงานมณียา
มณียา คอนเซพทส์ บริหารงานโดย “ปอ – ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์” เป็น CEO ของบริษัท ทายาทเจน 2 ของกลุ่มมณียา สาวแซ่บวัย 42 ปี กับการบริหารธุรกิจกลุ่มไลฟ์สไตล์ ปัจจุบันมีแบรนด์ Kipling แบรนด์เดียวเท่านั้น
ย้อนกลับไป 25 ปีก่อน “ศิริกาญจน์ ศักดิเดช ภาณุพันธ์” หรือแม่ของศีกัญญา เป็นผู้บุกเบิกนำแบรนด์ Kipling เข้ามาในประเทศไทย ในตอนนั้นเป็นแบรนด์ยอดนิยมอย่างมาก คุณแม่ศิริกาญจน์ต้องการหาธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กับลูกได้ เนื่องจากศีกัญญาเกิดปีลิง (ปีวอก) จึงเลือก Kipling เพราะมีสัญลักษณ์รูปลิง อีกทั้งยังเป็นแบรนด์กระเป๋าที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างมาก เข้าถึงได้ทุกกลุ่ม ทุกวัย
ศิริกาญจน์ได้ปูทาง Kipling ในประเทศไทยจนเป็นที่รู้จักอย่างดี จากนั้นศีกัญญาได้เข้ามารับช่วงต่อในปี 2553
Kipling จัดอยู่ในเซ็กเมนต์กระเป๋าแบบฟังก์ชันนอล แบรนด์ที่อยู่ในเซ็กเมนต์เดียวกัน ได้แก่ Anello และ Cath Kidston มูลค่ารวมของตลาดนี้อยู่ที่ราวๆ พันกว่าล้านบาท นิยามของกระเป๋ากลุ่มนี้จะเป็นกระเป๋าผ้าอเนกประสงค์ มีน้ำหนักเบา จุของได้เยอะ
ซึ่ง Kipling ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในไอเทมของยุค Y2K วัยรุ่น หนุ่มสาว แม่บ้านต่างสะพาาย Kipling กันทั่วเมือง ตามมาด้วยสินค้าก๊อบปี้เกลื่อนเมืองเช่นกัน แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ก็เริ่มมองหากระเป๋ารูปแบบอื่นที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ทำให้ Kipling อาจจะถูกลืมไปบ้าง
แต่ Kipling เองก็ฐานลูกค้าประจำที่เหนียวแน่น แต่ค่อนข้างมีอายุ กลุ่มใหญ่จะมีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป เป็นแฟนคลับสมัยที่เข้ามาทำตลาดใหม่ๆ โจทย์ใหญ่ของ Kipling ในตอนนี้จึงต้องพยายามรีเฟรชแบรนด์ และมีสินค้าที่เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 20-30 ปีให้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มสินค้าในกลุ่มผู้ชายด้วย
ในช่วงครึ่งปีหลังเราจึงได้เห็นการกลับมาทำการตลาดครั้งใหญ่ของ Kipling ในรอบ 10 ปี ไฮไลต์สำคัญของ Kipling ในปีนี้ก็คือ การคัมแบ็กของพวงกุญแจ “ลิงขนปุกปุย” หรือหลายคนอาจจะเรียกว่าลิงขนดูดนิ้วก็ได้ เพราะจะมีมือที่สามารถดึงเข้าออกได้ เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ หลายคนใช้ Kipling ก็เพราะเจ้าตุ๊กตาลิงก็มี แต่เมื่อหลายปีก่อนทางแบรนด์แม่ได้รีแบรนด์ใหม่ มีการใช้ “ลิงซิลิโคน” เข้ามาแทนที่ เพื่อต้องการให้ดูโมเดิร์นขึ้น
จริงๆ แล้วพวงกุญแจลิงขนไม่ได้หายไปเลยเสียทีเดียว ยังมีบางรุ่นที่ยังมีพวงกุญแจลิงขนอยู่ เพียงแต่ว่าสัดส่วนของลิงซิลิโคนพลาสติกจะเยอะกว่า แต่ปีหน้าจะนำลิงขนเข้ามาเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
นอร์ท เลิศธนอารีย์ กรรมการผู้จัดการ (MD) บริษัท มณียา คอนเซพทส์ จำกัด ได้เล่าว่า
“ช่วง 7-8 ปีก่อนทางบริษัทแม่ได้ทำการรีแบรนด์ พบว่ามีช่วงหนึ่งที่ลูกค้าเริ่มชอบตุ๊กตาลิงขนน้อยลง จึงทำการเปลี่ยนจากตุ๊กตาลิงขนเป็นลิงพลาสติกเพื่อความโมเดิร์นมากขึ้นด้วย แต่ปีหน้าจะเอาลิงขนกลับมามากขึ้น เพราะแบรนด์ต้องการขายความออริจินอลที่เคยโด่งดัง”
นอกจากนี้ Kipling ยังมีแผนที่จะคอลแล็บกับแบรนด์ดังมากขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้า และเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น ก่อนหน้านี้ได้ร่วมกับแบรนด์ดังมากมาย ได้แก่ Anna Sui, Doraemon และ Hello Kitty ในปีนี้เพิ่งเปิดตัวคอลเลกชั่น Barbie และ Miffy ไปสดๆ ร้อนๆ
ยุทธ์ศาสตร์ของ Kipling นั้น ต้องการขายความเป็นไอคอน ความออริจินอลของแบรนด์ที่ยังมีคนชื่นชอบอยู่ แต่เอามาทำให้สดใหม่มากขึ้น คนรุ่นใหม่ไม่ได้มองเป็นแค่กระเป๋าแม่บ้านอีกต่อไป แต่มีความแฟชั่นเพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบัน Kipling มีจุดขายรวม 70 แห่ง แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, เดอะมอลล์ และโรบินสัน 53 แห่ง และช็อป 17 แห่ง ตอนนี้มีสัดส่วนรายได้จากช่องทางออนไลน์ 10% ในปีนี้ตั้งเป้ามีการเติบโต 30%