“บ้าน” คือ สถานที่พำนักอาศัยที่ต้องอยู่กับเราไปชั่วลูกชั่วหลาน ดังนั้นจะดีกว่าไหมหาก “บ้าน” จะเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัยที่จะรองรับกิจกรรมการใช้ชีวิตที่หลากหลายมากขึ้น มีความทันสมัยไม่ตกเทรนด์ และที่สำคัญสามารถตอบโจทย์ในเรื่องของมิติของความคุ้มค่าต่อรายจ่าย สามารถลดภาระค่าครองชีพได้ ดูแลมิติด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็น Pain Point ที่สำคัญที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ต่างคิดค้นนวัตกรรมเพื่อการออกแบบที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมและตรงใจกับผู้ที่อยู่อาศัยมากที่สุด
ปัจจุบันมิติด้านสิ่งแวดล้อมกำลังกลายเป็นเทรนด์ใหญ่ที่ทุกฝ่ายกำลังมุ่งเป้าหมายในการขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืน ดังนั้นหากการอยู่บ้านของคุณเหมือนกับคุณได้ปลูกต้นไม้ในทุกๆ วัน ภาวะโลกร้อนหรือโลกเดือดคงจะลดลงและไม่เกิดขึ้นในระยะยาว ด้วยหลักการนี้จึงทำให้ บ้านพลังงานเป็นศูนย์ได้ถูกพัฒนาขึ้น และต่อยอดไปสู่ คอนโด โลว์คาร์บอน ที่เป็นซีรีส์บ้านใหม่ ด้วยนำแนวคิด “THE ESSENTIAL LIFELONG TRUSTED PARTNER” มาสู่การพัฒนาโครงการและให้บริการกับลูกบ้านอย่างครบวงจรจากบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA (เสนา) ที่จะมาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้อยู่อาศัย
ทำไม? การอยู่บ้านพลังงานเป็นศูนย์ หรือ Zero Energy House (ZEH) จึงเปรียบเสมือนการได้ปลูกต้นไม้ทุกวัน ดร.ยุ้ย หรือ ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ จะเล่าให้ฟัง โดยเริ่มจากเสนาได้ไอเดียนี้กลับมาจากบริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร๊อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป ที่ดำเนินโครงการบ้านพลังงานเป็นศูนย์ที่ญี่ปุ่น มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของไทย โดยได้ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยทำการศึกษา วิจัย และพัฒนาแบบจำลองบ้านแนวคิดพลังงานเป็นศูนย์ เพื่อนำผลมาสู่การออกแบบ 3 ขั้นตอน ดังนี้
1. Active Design คือ การออกแบบอาคารให้มีความยั่งยืนด้านการใช้พลังงาน โดยการนำเทคโนโลยี หรืออุปกรณ์ทันสมัยเข้ามาช่วยในการออกแบบ เช่น เซนเซอร์ควบคุมระบบไฟฟ้าและแสงสว่าง, การใช้แอร์ประหยัดพลังงานฯ 2. Passive design การออกแบบอาคารให้มีความสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อม เช่น ทิศทางลม และแสงแดด เป็นต้น 3. การมีระบบผลิตพลังงานใช้เองจากพลังงานหมุนเวียน เช่นการนำพลังงานจากแสงอาทิตย์ (Solar Cell) มาสร้างเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ภายในบ้านให้สอดคล้องกับสภาพอากาศของเมืองไทย และการอยู่อาศัยภายในบ้าน ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิภายในบ้านให้เหมาะสมแต่ละฤดูกาล ผสมผสานการใช้พลังงาน ที่ใช้ได้เองอย่างมีประสิทธิผล
ดังนั้นการพัฒนาบ้าน ZEH ของเสนาด้วยองค์ประกอบดังกล่าวรวมกับการออกแบบอื่นๆ จึงทำให้บ้านขนาด XL โครงการของเสนาสามารถลดใช้ไฟฟ้าสูงสุดได้ถึง 14% บวกกับการนำพลังงานสะอาดจาก Solar Cell มาใช้ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 360 หน่วยต่อเดือน แค่ใช้ครึ่งเดียวที่ผลิตได้สามารถลดการใช้ไฟฟ้าสูงสุดถึง 38% หรือลดค่าใช้จ่ายต่อเดือนราว 1,627 บาท และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ถึง 163 ต้น และนี่คือคำตอบที่ทำไมการอยู่บ้านเสนาเหมือนได้ปลูกต้นไม้ทุกวัน…
“ทุกคนที่อยู่บ้านเสนาฯ สามารถมีไลฟ์สไตล์ได้ปกติ แต่เหมือนได้ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นทุกวัน ซึ่งถือเป็นแนวทางการมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม สู่เส้นทางการใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย และยั่งยืน วันนี้เราอาจจะไม่สามารถทำให้บ้านพลังงานเป็นศูนย์ได้ทุกหลัง แต่นี่คือจุดมุ่งหมายที่เราจะทำ”
ดร.ยุ้ยกล่าวด้วยความมุ่งมั่น และตอกย้ำที่การเปิดโครงการ สำหรับบ้านพลังงานเป็นศูนย์ ปี 2566 ทั้งโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม อาทิ เสนา วิลเลจ รามอินทรา กม. 9, เสนา วิลล์ วงแหวน-บางบัวทอง
นอกจากนี้ เสนายังขยายผลสู่การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อ “คอนโด Low Carbon” โดยนำหลักของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือ SMART CITY มาปรับใช้พัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ภายในโครงการ ได้แก่ Smart Energy, Smart Mobility, Smart Living, Smart Environment และ Smart People เพื่อให้เป็นชุมชนเมืองน่าอยู่ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ประหยัดรายจ่าย มีสิ่งแวดล้อมที่ดี ที่สำคัญยังมีระบบการให้บริการที่มีความสะดวกสบายใกล้แหล่งงาน โดยใช้แอปพลิเคชั่นบนมือถือเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางอย่างชาญฉลาดด้วยการใช้เทคโนโลยี วางแผนการเดินทาง ที่สามารถช่วยในการลดมลภาวะ ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
โดยเสนาเตรียมเปิดโครงการคอนโดใหม่ ในเร็วๆ นี้ ภายใต้แบรนด์ “เสนาคิทท์” ใกล้สาทร ที่จะพบกับ “คอนโด Low Carbon” ภายใต้แนวคิด Smart Cool Smart Life ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ใกล้แหล่งงาน ราคาต่ำล้าน ที่สามารถตอบสนองวิถีชีวิตเพื่อลดคาร์บอน (Decarbonized Lifestyle) ที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบ “คิดละเอียดกว่า ก็อยู่สบายกว่า” พร้อมมีแผนขยายให้บริการต่างๆ อีกมากมาย ที่ครอบคลุมการบริหารจัดการที่อยู่อาศัย การให้คำปรึกษาทางการเงิน การดูแลด้านสุขภาพ
การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเสนา เป็นไปตามกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจของ เสนาฯที่ต้องการดูแลคุณภาพชีวิตของลูกค้าในทุกช่วงอายุและมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน … บ้านเสนาจึงนับเป็นอีกทางเลือกของผู้บริโภคที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง