ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เปิดตัว “Citi Payments Express” ระบบการชำระเงินผ่านพร้อมเพย์รูปแบบใหม่ ที่พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตของภาคธุรกิจด้วยความสามารถในการรองรับธุรกรรมสูงสุดถึง 5,000 รายการต่อวินาที ขยายขีดความสามารถในการชำระเงินและโอนเงินภายในประเทศ ด้วยความเร็วระดับเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ระบบการชำระเงินดังกล่าวยังมาพร้อมความปลอดภัยทางธุรกรรม เทคโนโลยีประมวลผลอัตโนมัติ ตลอดจนบริการหลังการชำระเงินหลากหลายรายการ เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มสถาบันและธุรกิจขนาดใหญ่สามารถสร้างการเติบโตในระดับโลกอย่างลื่นไหลยิ่งกว่าเคย โดยธนาคารซิตี้แบงก์เปิดตัวระบบการชำระเงินดังกล่าว ณ ประเทศไทยเป็นแห่งแรกในโลก หลังรายงานล่าสุดชี้ว่าผู้ใช้งานบริการชำระเงินและโอนเงินแบบเรียลไทม์หรือพร้อมเพย์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มากเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน ประกอบกับความพร้อมของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งรัฐและเอกชน ที่พร้อมสนับสนุนการการเงินดิจิทัลและสร้างความก้าวหน้าในระบบนิเวศน์ทางการเงินของประเทศไทยต่อไปในอนาคต
นายปริวรรต กนิษฐะเสน รองผู้อำนวยการ ฝ่ายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านการชำระเงินดิจิทัลอันดับต้นของโลก โดยเฉพาะจากเปิดตัวของระบบ “พร้อมเพย์” ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนผู้ใช้พร้อมเพย์ราว 78.9 ล้านบัญชี มียอดการทำธุรกรรมผ่านพร้อมเพย์เกือบ 54 ล้านรายการต่อวัน สูงเป็นอันดับที่ 1 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีแนวโน้มการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความนิยมของการชำระเงินผ่านพร้อมเพย์นี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เดินหน้าผลักดันการสร้างระบบนิเวศน์ทางการเงินแห่งอนาคต ที่การเงินระบบดิจิทัลจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทั้งในผู้ใช้งานกลุ่มประชาชนทั่วไป กลุ่มธุรกิจ และภาคการเงินระหว่างประเทศให้มีความลื่นไหลมากขึ้น คู่ขนานไปกับการใช้เช็คและเงินสด เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถดำเนินการทางธุรกรรมได้อย่างครอบคลุม”
ด้าน นายประกาศิต เพิ่มนาค รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ (ชั่วคราว) ธนาคารซิตี้แบงก์ประเทศไทย กล่าวว่า “จากดีมานด์ด้านการชำระเงินผ่านพร้อมเพย์ในภาคธุรกิจปัจจุบัน ส่งผลให้ยอดธุรกรรมต่อวินาทีเพิ่มสูงกว่าขีดจำกัดเดิม และอาจทำให้เกิดความหน่วงในระบบปฏิบัติการ ด้วยเหตุนี้ ธนาคารซิตี้แบงก์จึงพัฒนาระบบ “Citi Payments Express” เพื่อรองรับการชำระเงินได้พร้อมกันสูงสุดถึง 5,000 รายการต่อวินาที ให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมผ่านพร้อมเพย์ ในความเร็วระดับเรียลไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมง ระบบดังกล่าวเปรียบเสมือนทางด่วนในการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและความปลอดภัย รวมถึงมีความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ธุรกิจที่มุ่งขยายกิจการในระดับนานาชาติ โดยจากจำนวนผู้ใช้งานที่มากเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนความพร้อมด้านเทคโนโลยีทางการเงิน ตลอดจนการสนับสนุนจากภาครัฐและผู้ประกอบการไทย ธนาคารซิตี้แบงก์จึงเปิดให้บริการธุรกรรมผ่านระบบใหม่นี้ ในประเทศไทยเป็นที่แรกในโลก ซึ่งซิตี้แบงก์เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าระบบธุรกรรมดังกล่าวจะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้พาร์ทเนอร์ของเราสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วยิ่งกว่าที่เคย”
ขณะที่ มร. จาลเปช วาคาเรีย หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์การชำระเงินประจำภูมิภาคอาเซียน ธนาคารซิตี้แบงก์ กล่าวว่า “นอกจากขยายขีดความสามารถให้รองรับจำนวนธุรกรรมต่อวินาทีที่เพิ่มขึ้น ระบบการชำระเงินใหม่จากธนาคารซิตี้แบงก์ยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าภาคธุรกิจในการยกระดับการดำเนินการ ผ่านฟีเจอร์ บริการ และเทคโนโลยีฟินเทคทันสมัยที่ถูกนำมาใช้ในระบบ Citi Payments Express ประกอบไปด้วย
- ระบบจัดการฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพด้วยSingle APIsและบริการตรวจสอบความถูกต้องของบัญชี
- บริการเสริมสำหรับการชำระเงิน เช่น บัญชีเสมือน(Virtual Bank Accounts)ที่รองรับหลายสกุลเงิน การชำระเงินด้วยระบบคิวอาร์ และการโพสต์แบบรวมยอด (Consolidated Posting)
- ระบบบริหารและจัดการความเสี่ยงแบบอัตโนมัติ และกระบวนการที่ตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรม(Sanctions and AML)
- บริการหลังทำธุรกรรมหลายรายการ เช่น ระบบคืนเงินแบบเรียลไทม์ การแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านAPIs, การจัดการบัญชีเสมือน (Virtual Bank Account Management)
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Citi Payments Express กรุณาติดต่อธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย หรือ www.citibank.co.th
ด้าน นายโกวิทย์ จารุวิทยโกวิท หัวหน้าฝ่ายการเงิน บริษัท ไซม์ ดาร์บี้ มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวถึงการเปิดตัว Citi Payments Express ว่า “ในฐานะลูกค้าของธนาคารซิตี้แบงก์ บริษัทฯ เล็งเห็นว่าการเปิดตัวระบบชำระเงินรูปแบบใหม่นี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการดำเนินงานขององค์กรต่าง ๆ พร้อมผนึกความร่วมมือระหว่างธนาคารซิตี้แบงก์และเครือข่ายลูกค้า ให้สามารถขับเคลื่อนธุรกิจสู่ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้สำเร็จ”