แอลจี ชวนมารีญา และ Fashion Revolution ร่วมปลุกเทรนด์ Slow Fashion แนะทริคปรับวิธีคิด เปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อโลกที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

ความยั่งยืนเป็นเรื่องสำคัญและยังคงอยู่ในความสนใจของผู้บริโภคเสมอ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือชาว Gen Z ที่ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการดูแลสิ่งแวดล้อมและสร้างความยั่งยืนมากเป็นพิเศษ หนึ่งในนั้นคือเทรนด์ Slow Fashion ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เพื่อให้ผู้คนหันมาสนใจปัญหาขยะจากเสื้อผ้าที่เกิดจากการบริโภคแฟชั่นอย่างรวดเร็ว แอลจี ซึ่งมีจุดยืนในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี จึงชวนแบรนด์แอมบาสเดอร์คนเก่ง มารีญา พูลเลิศลาภ และ กมลนาถ องค์วรรณดี จากเครือข่าย Fashion Revolution Thailand มาร่วมพูดคุยในงาน LG Eco Day ในธีม  ‘Slow Fashion เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ พร้อมแชร์แนวคิดในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมง่ายๆ ที่ทำในชีวิตประจำวัน แต่สร้างความยั่งยืนตามเทรนด์ Slow Fashion ได้

แค่ปรับวิธีคิดก็ใช้ชีวิตแบบ Slow Fashion ได้ไม่ยาก

อุ้ง-กมลนาถ องค์วรรณดี ผู้ประสานงานเครือข่าย Fashion Revolution Thailand เล่าว่า “ต้องเข้าใจว่าอุตสาหกรรมเสื้อผ้าจำเป็นต้องทำให้คนอยากซื้อสินค้าใหม่อยู่ตลอด ธุรกิจจึงจะเติบโต แต่แน่นอนว่าก็สร้างปัญหาขยะเสื้อผ้าจำนวนมหาศาลตามมาอย่างที่เราเห็น และยังย่อยสลายยากเพราะปัจจุบันจะเน้นใช้เส้นใยโพลีเอสเตอร์เพื่อลดต้นทุนในการผลิต ถ้าเราซื้อเสื้อผ้าโดยไม่ยั้งคิด ก็จะกลายเป็นหนึ่งในคนที่ร่วมสร้างขยะทับถมให้กับโลก แต่ถ้าเรารู้เท่าทัน และถามตัวเองว่าจำเป็นไหมที่ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่อยู่ตลอด อาจพบว่าจริงๆ แล้วเสื้อผ้าที่มีอยู่ยังใส่ได้ หรือนำไปแลกเปลี่ยนหรือส่งต่อให้คนอื่นที่ยังต้องการได้”

อุ้งยังมองด้วยว่าการซื้อเสื้อผ้าควรคำนึงถึงเรื่องอายุการใช้งาน เพราะสำหรับ Slow Fashion แล้ว การซื้อใหม่จะอยู่ในอันดับท้ายๆ “วิธีที่อุ้งคิดคือ Cost Per Use ยกตัวอย่างเสื้อตัวละ 300 บาท กับตัวละ 3,000 บาท เสื้อที่มีราคา 3,000 บาทและคุณภาพดีกว่าอาจจะใส่ซ้ำได้หลายปี หรือกระทั่งเป็นสิบปี ซึ่งหารออกมาอาจจะตกเหลือราคา 300 บาทต่อปีก็ได้ แต่สิ่งที่ได้มากกว่าเรื่องต้นทุน คือเสื้อผ้าที่ใส่ได้นานกว่าจะไม่กลายเป็นขยะที่ถูกทิ้งและเป็นภาระให้ต้องกำจัด อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยยืดอายุเสื้อผ้าคือการอ่านฉลากเสื้อผ้าก่อนซัก ถ้าเราซักได้อย่างถูกต้องตามประเภทของผ้า ก็จะช่วยถนอมเสื้อผ้าและยืดอายุการใช้งานได้”

การดูแลเสื้อผ้าให้ใส่ได้นาน คือกุญแจสำคัญของ Slow Fashion

เมื่อพูดถึงเรื่องการดูแลเสื้อผ้าให้คงสภาพดีได้นาน เครื่องซักผ้าถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญ ซึ่งทำให้แอลจีจัดงาน LG Eco Day ขึ้นในธีม Slow Fashion เพื่อชวนให้คนไทยให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เครื่องซักผ้าที่เหมาะสม โดยอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด แอลจี ประเทศไทย อธิบายว่า “สิ่งที่ทำให้เสื้อผ้าสวมใส่ได้นาน คือการซักอย่างถูกวิธีและการเลือกใช้เครื่องซักผ้า เช่น เครื่องซักผ้าฝาหน้าจะดีที่สุดในการช่วยถนอมผ้า และประหยัดไฟ ประหยัดน้ำ เราเข้าใจดีว่าบางครั้งผู้บริโภคอาจจะเร่งรีบหรือมีเสื้อผ้าจำนวนมาก ทำให้ไม่ได้ดูฉลากเสื้อผ้าก่อนซัก แอลจีจึงมีระบบที่เรียกว่า AIDDTM ที่ช่วยเลือกโปรแกรมซักให้เหมาะกับเนื้อผ้าได้ ระบบนี้จะช่วยตรวจจับว่าผ้าที่ใส่เข้าไปในเครื่องเป็นผ้าอะไร แล้วเลือกโหมดการซักที่เหมาะสมให้อัตโนมัต แอลจียังมีตู้ถนอมผ้า Styler ที่ขจัดเชื้อโรคด้วยเทคโนโลยี TrueSteam สามารถช่วยดูแลชุดสูทและเสื้อแจ็กเก็ตได้โดยไม่จำเป็นต้องซักบ่อยๆ ถือเป็นเทคโนโลยีบางส่วนของแอลจีที่ตอบโจทย์เรื่อง Slow Fashion ได้ดีมากๆ ครับ”

Slow Fashion จะยั่งยืนต้องทำได้ง่ายในทุกๆ วัน

ปิดท้ายด้วยแนวคิดในการใช้ชีวิตแบบยั่งยืนและรักโลกแบบที่สบายใจของ มารีญา พูลเลิศลาภ แบรนด์แอมบาสเดอร์ของแอลจี ประเทศไทย “ถ้าพูดถึงความยั่งยืน มารีญาอยากให้เรามีความสุขกับเรื่องนี้กันมากขึ้น เพราะการที่เราจะใช้ชีวิตแบบยั่งยืน ต้องทำได้ง่ายในทุกวันและในทุกแง่มุมของชีวิต ลองเริ่มจากสิ่งที่เราชอบเป็นอย่างแรกก็ได้ อย่างงานในวันนี้ที่เรามาคุยกันเกี่ยวกับแฟชั่น หลายคนก็น่าจะสนใจเรื่องแฟชั่นอยู่แล้ว บางคนอาจใช้แฟชั่นเพื่อแสดงตัวตน บางคนอาจใช้แฟชั่นเพื่อให้เราอยู่ในสังคมได้ หรือบางคนก็อาจจะไม่ได้ชื่นชอบแฟชั่นด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างไรเราทุกคนยังคงต้องใส่เสื้อผ้าทุกวัน การที่เราจะทำให้แฟชั่นของเรายั่งยืนนั้นไม่ยากเลย เริ่มต้นด้วยการลดการซื้อใหม่ หาทางยืดอายุเสื้อผ้าที่บ้านของเรา เสื้อผ้าที่เราใส่ไม่ได้แล้ว ลองนำมาดูว่าปรับแก้ได้อย่างไรบ้าง เสื้อผ้าที่ขาด เราสามารถซ่อมแซมมันได้หรือไม่ หรือนำมันไปทำให้กลายเป็นชิ้นใหม่ หรือนำไปแลกเปลี่ยนกับเพื่อนหรือที่งาน Sawp อีเวนต์ที่จัดขี้นบ่อยๆ อีกอย่างที่ทำให้เสื้อผ้าของเราสามารถใช้งานได้นานขึ้นคือการดูแลถนอมเสื้อผ้าชุดโปรดให้ดี ทั้งในมุมของการเก็บรักษาหรือการซักผ้า เพื่อให้ชุดโปรดอยู่กับเราได้ยาวนาน”

ภายในงานยังมีการเปิดรับบริจาคเสื้อผ้า ซึ่งแอลจีจะนำไปซักและอบก่อนส่งต่อให้กับร้านปันกัน มูลนิธิยุวพัฒน์ต่อไป ผู้เข้าร่วมงาน LG Eco Day ต่างได้รับแนวคิดที่สำคัญคือการสร้างความยั่งยืนอย่างแท้จริงมาจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันแบบไม่ฝืนตัวเอง โดยเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ หากทุกคนตระหนักและร่วมมือกันก็จะกลายเป็นความยั่งยืนในระยะยาว เพื่อสร้างชีวิตที่ดีแบบ Life’s Good ให้กับทุกคนและโลกใบนี้ได้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอลจี ประเทศไทย เข้าชมได้ที่ www.lg.com/th และติดตามกิจกรรมต่างๆ ได้ทาง