หลังจากที่ อินเดีย เคยออกมาตรการจำกัดการนำเข้าแล็ปท็อป แท็บเล็ต และพีซี ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และได้ยกเลิกมาตรการดังกล่าว แม้ว่าแบรนด์ผู้ผลิตจะคลายความกังวลไปได้ แต่ล่าสุด แบรนด์ผู้ผลิตสินค้าไอทีชั้นนำก็เตรียมเปิดสายการผลิตในอินเดีย
รัฐบาลอินเดีย ได้เปิดเผยว่า แบรนด์ผู้ผลิตสินค้าไอทีชั้นนำ 27 แห่ง อาทิ Acer, Asus, Dell, HP และ Lenovo ได้ลงนามเข้าร่วมโครงการ PLI Scheme 2.0 (Production Linked Incentive Scheme) ซึ่งเป็นโครงการที่ออกมาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลิต สำหรับการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ โดยบริษัทที่เข้าร่วมอินเดียจะจ่ายเงินสนับสนุนให้เพื่อเป็นการจูงใจ
ซึ่งงบประมาณนการสนับสนุนโครงการดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ ครอบคลุมระยะเวลา 6 ปี โดยเงื่อนไขของบริษัทที่จะเข้าร่วมก็คือ ต้องสร้างโรงงานผลิตในประเทศและส่งออกสินค้า ทำให้บรรดาแบรนด์ผู้ผลิตสินค้าไอทีชั้นนำที่ลงนามเข้าร่วมกับอินเดียต้องใช้อินเดียเป็นฐานการผลิตอุปกรณ์ไอที อาทิ แล็ปท็อป แท็บเล็ต ออลอินวันพีซี เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์ฟอร์มแฟคเตอร์ขนาดเล็กพิเศษ
“ฮาร์ดแวร์ไอทีของแบรนด์ดังเช่น Acer, Asus, Dell, HP, Lenovo และอื่น ๆ จะถูกผลิตในอินเดีย” กระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และไอที กล่าว
โดยรัฐบาลอินเดียประเมินว่า โครงการดังกล่าวจะสร้างฮาร์ดแวร์มูลค่า 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่ผลิตในประเทศ สามารถดึงดูดการลงทุนขาเข้า 360 ล้านดอลลาร์ และสร้างงาน 200,000 ตำแหน่ง โดยเป็นโอกาสการจ้างงานทางตรง 50,000 ตำแหน่ง และโอกาสการจ้างงานทางอ้อม 150,000 ตำแหน่ง ตลาดฮาร์ดแวร์ไอทีของอินเดียคาดว่าจะเติบโตเป็น 2.27 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2570 จากในปี 2565 มีมูลค่า 1.55 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ในช่วง Q3/2023 ตลาดพีซีของอินเดียมียอดขายแตะ 4.5 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น +14% โดยหมวดโน้ตบุ๊กเติบโต +13.1% ในขณะที่หมวดเดสก์ท็อปเพิ่มขึ้น +19.3% โดยกลุ่มผู้บริโภคมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งได้แรงหนุนจากโครงการการศึกษาของรัฐคุชราต ปัจจุบัน HP เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 29.4% ตามมาด้วย Lenovo, Dell Technologies, Asus และ Acer