SCB Wealth ตั้งเป้าหมายในช่วง 3 ปีข้างหน้าใน 3 แกนหลักไม่ว่าจะเป็น ที่ที่หนึ่งในใจลูกค้า ผู้นำด้านสินทรัพย์ภายใต้บริหารจัดการ รวมถึงผู้นำการบริหารภาพรวมพอร์ตโฟลิโอสร้างผลตอบแทนให้ยั่งยืนแก่ลูกค้าทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แม้ว่าจะมีสภาวะความท้าทายจากตลาดก็ตาม
ยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ WEALTH ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้กล่าวว่า ในปีนี้เป็นอีกหนึ่งปีที่มีความท้าทายท่ามกลางภาวะการลงทุนในตลาดโลกที่มีความผันผวนตลอดปี ทั้งในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย และเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง รวมทั้งสงครามที่ยังมีความไม่แน่นอนว่าจะลุกลามหรือยืดเยื้อนานเท่าใด
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ WEALTH ธนาคารไทยพาณิชย์ ยังได้กล่าวว่า แต่ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง SCB WEATH ยังคงมุ่งมั่นปรับกลยุทธ์การลงทุนเพื่อตอบโจทย์การลงทุนให้แก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันธนาคารมีฐานลูกค้า Wealth และลูกค้าที่มีศักยภาพที่จะเป็น Wealth อยู่มากกว่า 1 ล้านคน
ขณะที่ในแผนในช่วงปี 2024 ทาง SCB Wealth มีวิสัยทัศน์ผ่าน 3 ธีม ได้แก่ ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง การนำเทคโนโลยีมาตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า รวมถึงคุณภาพของการบริการ ขณะที่แผนธุรกิจ 3 ปีข้างหน้านั้นมองเป้าหมายไม่ว่าจะเป็น การเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า การผู้นำด้านสินทรัพย์ภายใต้บริหารจัดการ รวมถึงการเป็นผู้นำการบริหารภาพรวมพอร์ตโฟลิโอสร้างผลตอบแทนให้ยั่งยืนแก่ลูกค้าทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
เขายังชี้ว่าตลาด Wealth เองยังโตได้อีกมาก และมองว่าเป็นเครื่องจักรสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับธนาคารไทยพาณิชย์ได้ด้วย
ยรรยง ยังได้กล่าวถึงว่าทาง SCB Wealth ได้มีการคัดสรรและนำเสนอผลิตภั
สำหรับผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์
ขณะเดียวกันผู้บริหารสูงสุดของ SCB Wealth ยังได้กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ประกัน และสินเชื่อเพื่อต่อยอดความมั่
ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิ
ขณะเดียวกันในส่วนของเทคโนโลยีทาง SCB Wealth ได้เตรียมนำ ChatGPT มาเขียนบทวิเคราะห์หุ้น โดยจะเริ่มในหุ้นต่างประเทศก่อน แต่ยังมีการใช้คนตรวจสอบอยู่ว่าบทวิเคราะห์นั้นถูกต้องหรือไม่ และยังรวมถึงการนำ AI มาใช้ในบทวิเคราะห์หุ้นไทยด้วย ซึ่งสามารถทำบทวิเคราะห์ได้มีคุณภาพมากขึ้น
ทางด้านการนำเทคโนโลยีมาใช้กับพนักงานที่เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้านั้น ประกอบไปด้วย การนำเสนอโซลูชันดูแลความมั่งคั่
ยรรยงยังคาดการณ์ว่ารายได้จาก SCB Wealth ในปี 2023 จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอีกด้วย และปัจจุบันสินทรัพย์การลงทุนภายใต้