โรงพยาบาลกรุงเทพ ผู้ให้บริการทางการแพทย์และการรักษาพยาบาลชั้นนำของประเทศไทยมากว่า 51 ปี มีการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนด้วยการเป็น Your Healthcare Intelligence เพื่อนอัจฉริยะที่รู้ใจทุกเรื่องสุขภาพเต็มรูปแบบ โรงพยาบาลดิจิทัลที่มีการบูรณาการเทคโนโลยี ระบบสารสนเทศเข้ากับบริการทางการแพทย์และกระบวนการทำงานภายในโรงพยาบาลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วยโดยมีผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง พร้อมทั้งอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย และสร้างประสบการณที่ดีให้กับผู้รับบริการ
พญ.เมธินี ไหมแพง ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่ม 1 และผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นองค์กรที่มุ่งมั่นพัฒนาและขยายการดำเนินงานด้านความยั่งยืนสู่ระดับสากล เป็น Healthcare Ecosystem มุ่งมั่นเป็นมากกว่า Smart Hospital ทั่วไป โดยคำนึงถึงผู้รับบริการทุกกลุ่ม และเน้นการบริการทางการแพทย์เฉพาะบุคคล (PersonalizedMedicine) ปัจจุบันสัดส่วนผู้รับบริการไทยที่ใช้ประกันในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมามีอัตรา 36% เพิ่มขึ้นจาก 31% จากปี 2019 โรงพยาบาลยังคงมุ่งเน้นความเป็น smart Hospital ผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อผู้รับบริการที่มีประกันสุขภาพนำร่องความร่วมมือกับ 6 บริษัทประกันชั้นนำของไทย พร้อมเติมเต็มบริการด้านสุขภาพครบครันให้ผู้รับบริการกลุ่มประกันได้รับความอุ่นใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามเจ็บป่วย ผ่านโครงการพิจารณาความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลล่วงหน้า (Pre Authorization) โดยใช้ระบบ Digital HealthTechnology ผสานกับการบริการของบุคลากรและผู้รับบริการให้ได้รับความสะดวกเมื่อมารับการรักษาภายในโรงพยาบาลมากยิ่งขึ้น”
นพ.อัศวิน ภูวธนสาร รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า “โรงพยาบาลกรุงเทพให้ความสำคัญกับผู้รับบริการโดยคำนึงถึง Costumer Journey พร้อมใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้นในทุกขั้นตอนตั้งแต่ก่อนเข้ารับการรักษาสามารถนัดหมายแพทย์แบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชันมายบีพลัส (My B+) ขณะรับการรักษา มี B with You มั่นใจทุกความเคลื่อนไหวในการผ่าตัด และ B in Touch ดูแลคุณและหลังจากออกจากโรงพยาบาล สามารถตรวจประวัติการรักษา ใบรับรองแพทย์ ปรึกษาแพทย์ออนไลน์และจัดส่งยาถึงบ้านโดยใช้แอปพลิเคชัน My B+ เข้ามาช่วยให้การตรวจสอบสิทธิความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลล่วงหน้า (Pre Authorization) ช่วยให้สามารถวาง แผนทั้งในด้านการทำหัตถการและค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นโดยเปรียบเทียบค่ารักษาพยาบาลในการผ่าตัดกับความคุ้มครองในกรมธรรม์ ให้ผู้เอาประกันสามารถคลายความกังวลและเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับการรักษา ในกระบวน การตรวจสอบค่ารักษาพยาบาลที่บริษัทประกันให้ความคุ้มครองก่อนเข้ารับการรักษาพยาบาล ในกรณีที่ผู้รับบริการมีกรมธรรม์กับบริษัทประกัน หากต้องวางแผนการผ่าตัด หรือการรักษาพยาบาลที่มียอดค่าใช้จ่ายสูง ผู้รับบริการสามารถให้โรงพยาบาลดำเนินการเทียบสิทธิเพื่อทราบวงเงินค่ารักษาพยาบาลที่บริษัทประกันให้ความคุ้มครอง และทราบส่วนเกินที่ผู้รับบริการต้องชำระค่ารักษาพยาบาลเอง”
ปัจจุบันบริษัทประกันที่สามารถให้บริการในการพิจารณาความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลล่วงหน้าภายใน 48 ชม.(ตามเงื่อนไข) มีทั้งสิ้น 6 บริษัทประกัน ได้แก่เอไอเอ, เมืองไทยประกันชีวิต, กรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต, ไทยประกันชีวิต, กรุงเทพประกันชีวิต และ เอฟดับบลิวดี
สำหรับโครงการพิจารณาความคุ้มครองล่วงหน้า (Pre Authorization) ในเฟสต่อไปจะทำให้ผู้เอาประกันทราบสิทธิความคุ้มครอง เทียบสิทธิความคุ้มครองและแจ้งผลภายใน 2 วันทำการ ยืนยันนัดหมายการทำหัตถการได้อย่างรวดเร็ว ลดอาการหรือความรุนแรงของโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตผู้เอาประกันภัยสามารถแชร์ข้อมูลการรักษาให้สมาชิกในครอบครัว และกดอนุมัติการส่งประวัติการรักษาและจัดส่งประวัติการรักษาให้กับบริษัทประกันได้ด้วยตนเอง (ภายใต้พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA) สามารถวางแผนการเงินได้ มีกระบวนการกลับบ้านที่รวดเร็วโดยไม่ต้องรอพิจารณาการตอบกลับสินไหม (ในกรณีที่วงเงินไม่เกินจากความคุ้มครอง) ผ่านแอปพลิเคชัน My B+ ที่ตอบโจทย์ให้ผู้รับบริการสามารถจัดการข้อมูลได้เอง บริหารจัดการลำดับประกันที่ให้ความคุ้มครอง เพื่อการตัดสินใจและวางแผนการรักษาได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
การบริการ Pre Authorization ก่อนการผ่าตัด สามารถใช้ในการตรวจสอบสิทธิการรักษาโรคซึ่งพบได้บ่อยไม่ว่าจะเป็นผ่าตัดมดลูก ผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลัง ผ่าตัดส่องกล้องข้อเข่าเพื่อตัดหมอนรองเข่าหรือเพื่อเย็บซ่อมเอ็นในเข่า ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี ริดสีดวงทวาร ผ่าตัดไส้เลื่อน และส่องกล้องกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่
โรงพยาบาลกรุงเทพยังมุ่งมั่นสร้างบริการที่ตอบโจทย์ให้กับผู้รับบริการอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการขยายการเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับทุกบริษัทประกันและขยายสิทธิประโยชน์เพื่อให้ครอบคลุมบริการกับผู้รับบริการทุกกลุ่มมากขึ้นรวมถึงกระจายบริการไปทุกโรงพยาบาลในเครือกรุงเทพดุสิตเวชการทั่วประเทศด้วย เราพร้อมที่จะเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมการรักษา เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการทุกกลุ่มพร้อมคุณภาพการันตีด้วยมาตรฐานการรักษาระดับสากลอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป