ถือเป็นความสำเร็จระดับนานาชาติอีกขั้น จากการสนับสนุนโดย BICS ที่ใช้ 5G Service Hub ครั้งแรกในโลกเพื่อเชื่อมต่อเทคโนโลยี 5G SA roaming อันจะนำไปสู่ความยืดหยุ่นของผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่จะสามารถส่งมอบนวัตกรรมให้แก่ลูกค้าได้อย่างไม่มีข้อจำกัด AIS ประกาศความสำเร็จ การทดสอบเชื่อมต่อบริการโรมมิ่ง 5G Standalone (SA) ครั้งแรกในเอเชียกับ stc ผู้ให้บริการอันดับ 1 ของคูเวตในตะวันออกกลาง ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากความร่วมมือกับผู้ให้บริการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ BICS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่นำ 5G Service Hub มาใช้อย่างเต็มรูปแบบแก่ผู้ให้บริการ
โดยการทำงานร่วมกันครั้งนี้ ส่งผลให้ AIS พร้อมต่อการยกระดับบริการ 5G โรมมิ่งไปอีกขั้น ทั้ง ดาต้า, ข้อความ และการโทร ด้วยเครือข่ายหลักบน 5G เพียงอย่างเดียว (5G Stand Alone) จากปัจจุบันที่ให้บริการ 5G โรมมิ่ง เป็นแบบ NSA-None Stand Alone ที่จะต้องใช้ช่องทางรับ-ส่งข้อมูลผ่าน 4G/LTE เป็นอีกเครือข่ายหลักประกอบกัน อันจะทำให้ไม่มีความพร้อมหรือยืดหยุ่นอย่างเต็มที่เพียงพอในการพัฒนาบริการใหม่ๆ ที่เป็นนวัตกรรมของ 5G ที่จะสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ใช้บริการ อาทิ Network Slicing หรือ การสื่อสารแบบ Real Time ในสถานการณ์สำคัญ รวมไปถึงโอกาสในการขยายบริการรูปแบบใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า “ปัจจุบันผู้ประ กอบการทั่วภูมิภาคเอเชียต่างร่วมผลักดันบริการใหม่ๆ จาก 5G กันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น AIS ซึ่งมีเจตนารมณ์เดียวกันจึงเดินหน้าทำงานร่วมกับพันธมิตรในระดับสากลเพื่อยกระดับเทคโนโลยี 5G อย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการ 5G โรมมิ่งที่ล้ำสมัย อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งทั้งแก่ภาคธุรกิจและผู้บริโภค เพราะนอกจากจะสามารถพัฒนาบริการที่หลากหลาย ยืดหยุ่น เหมาะสมกับองค์กรแต่ละขนาดแล้ว การพัฒนาให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ดังนั้นการประสบความสำเร็จร่วมกันในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศจากเทคโนโลยี 5G ให้แก่ทุกกลุ่ม สร้างการเติบให้แก่ทุกอุตสาหกรรมในท้ายที่สุด”
ด้าน อิง ฟาฮัด อัล อาลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี stc คูเวต กล่าวเสริมว่า “เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสำคัญครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นทิศทางที่ถูกต้องในการสร้างการเชื่อมต่อบริการ 5G ไปทั่วโลกและมอบประโยชน์ให้แก่ลูกค้าของเรา ทั้งนี้ stc เชื่อมั่นว่า 5G SA จะนำมาซึ่งประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน และด้วยความร่วมมือกับ BICS กับ AIS ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้อยู่แถวหน้าของการพัฒนานวัตกรรมที่จะสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าของเรา”
การประสบความสำเร็จในการร่วมทดลอง ทดสอบ 5G SA โรมมิ่ง ครั้งนี้ ถือเป็นความก้าวหน้าไปอีกขั้น โดยมีชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติมขึ้น จากเทคโนโลยี SEPP -Secure Edge Protection Proxy ที่สามารถกำหนดได้ โดยผู้ให้บริการ เพราะการส่งข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งจาก SEPP ของผู้ให้บริการผ่าน 5G SA Service Hub ใหม่ของ BICS ดังนั้น ในขณะที่ผู้ให้บริการมีการป้องกันด้านความปลอดภัยจาก SEPP แล้ว BICS ยังเพิ่มเติม Data Analytics การวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะ, การมอนิเตอร์ตรวจสอบคุณภาพ และตรวจจับเพื่อป้องกันความเสี่ยงระหว่างการเชื่อมต่อ 5G ร่วมกับผู้ให้บริการทั่วโลก ซึ่งหมายความว่าจะทำให้สามารถขยายบริการ 5G โรมมิ่งได้รวดเร็วแบบก้าวกระโดด
“5G เป็นการยกระดับเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายครั้งยิ่งใหญ่ โดยสามารถสร้างประโยชน์มากมายให้แก่ผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจ ซึ่งการสามารถเชื่อมต่อ 5G Stand Alone โรมมิ่งได้สำเร็จ คือ การขยายศักยภาพของ 5G ไปทั่วโลกนั่นเอง” มิคาเอล ชาคเน่ รองประธานฝ่ายการตลาด Telco ของ BICS กล่าว “ที่ BICS เราเชื่อในพลังของการสื่อสาร จึงเป็นเหตุผลของความมุ่งมั่นในการสร้างรากฐานที่จะเร่งการขยายตัวของ โรมมิ่ง 5G SA ไปทั่วโลก เพราะยิ่งเราสามารถทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อประสานรากฐานเหล่านี้ และทำให้ 5G SA โรมมิ่งเป็นจริงได้มากเท่าใด ผู้ให้บริการอย่าง AIS และ stc คูเวต ตลอดจนองค์กรอื่นๆ และลูกค้าก็จะปลดล็อกศักยภาพได้เร็วยิ่งขึ้นเท่านั้น”
“ความสำเร็จครั้งล่าสุดนี้ทำให้บริการ 5G SA โรมมิ่งทั่วโลกเข้าใกล้ความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น เพราะจะไม่เป็นเพียงมีความพร้อมทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังมีบริการรับประกันคุณภาพที่ปลอดภัยและหลากหลาย เพื่อปกป้องผู้บริโภคและสร้างการเติบโตในอนาคตแก่ผู้ให้บริการในยุค 5G อีกด้วย”