Future Trends สื่อผู้นำด้านความคิดและผู้ให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านเทคโนโลยีการตลาด และนวัตกรรมชั้นนำของประเทศไทย จัดงาน FUTURE TRENDS AHEAD PRESS & PURPOSE สุดยอดงานสัมมนาแห่งปีกับการอัปเดตเทรนด์แห่งอนาคตเพื่อเพิ่มศักยภาพทางความคิดพร้อมเปิดตัว Future Trends Ahead 2024 คัมภีร์เจาะลึกทุกกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจจากกูรูผู้ทรงคุณวุฒิในหลากหลายแวดวงเพื่อช่วยติดปีกทางความคิดที่บุคคลในทุกวงการห้ามพลาดทั้งด้านเศรษฐกิจ, การเมือง, เทคโนโลยีและ AI, การเงินและการลงทุน, ความยั่งยืน, ผู้บริโภค, การตลาด, ทักษะอนาคต, ผู้นำ, สุขภาพและเมืองกับไลฟ์สไตล์
ธนโชติ วิสุทธิสมาน ผู้ก่อตั้ง Future Trends เผย “FUTURE TRENDS ในฐานะที่เราคือสื่อผู้นำเทรนด์ด้านความคิดและทำงานบนหลักการของ Trends for Better Life หรือเทรนด์เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นซึ่งในปัจจุบันมีผู้ติดตามกว่า 400,000 Followers เราตั้งใจที่จะเป็นผู้นำความคิดในหลากหลายด้านรวมถึงอัปเดตเทรนด์ต่างๆ ที่ผู้อ่านควรรู้และนำไปใช้ประโยชน์เพื่อให้ชีวิตดีขึ้นจึงได้จัดงาน FUTURE TRENDS AHEAD PRESS & PURPOSE ซึ่งนับเป็นงานสัมมนาแห่งปีในครั้งนี้ขึ้นมาเพื่อรวบรวมและถ่ายทอดเทรนด์แห่งอนาคตให้ผู้เข้าร่วมงานได้นำไปปรับใช้เพื่อก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้ชนะของวันพรุ่งนี้ในทุกธุรกิจ โดยภายในงานมีการเปิดตัวหนังสือ Future Trends Ahead 2024 คัมภีร์เจาะลึกทุกกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ และอัปเดตเทรนด์ใหม่แห่งอนาคตที่คุณไม่ควรพลาดทั้งด้านเศรษฐกิจ, การเมือง, เทคโนโลยีและAI, การเงินและการลงทุน, ความยั่งยืน, ผู้บริโภค, การตลาด, ทักษะอนาคต, ผู้นำ, สุขภาพและเมืองกับไลฟ์สไตล์โดยได้ณัฐกรเวียงอินทร์หัวหน้าแผนกเนื้อหาและแบรนดิ้งบริษัทไลค์มีจำกัดเป็นผู้รวบรวมเนื้อหาจากหลากหลายกูรูชั้นนำในหัวข้อที่เป็นเทรนด์โลก อาทิ Become an Aged Society: ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เข้าสู่สังคมสูงวัยเร็วที่สุดในโลก, Russo-Ukrainian War: วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครน, Generative AI: สิ่งที่จะเปลี่ยนโฉมหน้างาน Digital Production ทั้งหมด, The Future Job in the Age of AI: เราต้องปรับตัวอย่างไรในยุคที่มนุษย์และเอไอต้องร่วมมือกัน, The Road to EV Car: การก้าวไปสู่อนาคตของยานยนต์ EV ฯลฯ”
ณัฐกร เวียงอินทร์ หัวหน้าแผนกเนื้อหาและแบรนดิ้ง บริษัท ไลค์มี จำกัด กล่าวเสริม “ในยุคปัจจุบัน ที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นยุคที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอหนังสือ Future Trends Ahead 2024 จะเป็นเหมือนคัมภีร์ที่ทุกคนในองค์กรควรมีไว้เพื่อรับมือกับโลกในปี 2024 ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการจัดทำหนังสือที่อัปเดตเทรนด์โลกที่น่าสนใจถึง 11 เทรนด์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตทั้งในระดับปัจเจก และสังคม โดยได้ร่วมมือกับองค์กรชั้นนำที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการจัดทำหนังสือร่วมกันไม่ว่าจะเป็น
- กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร
- คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- บริษัทกสิกรบิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป
- บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด
- ศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG MOVE)
- THINK NEXT ASIA [TrendWatching]
- Mandala AI
- การตลาดวันละตอน
- FutureSkill
- Kincentric
- เครือโรงพยาบาลพญาไทและเปาโล
- ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ โดยบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
- เพจ aomMONEY
- เพจ Future Trends
ซึ่งจะมีเนื้อหาครอบคลุมทุกด้าน โดยเนื้อหาในหนังสือจะเผยให้เห็นภาพรวมของโลกในปี 2024 ที่อยากให้บุคคลและองค์กรได้อ่าน เพื่อรับมือกับโลกในอนาคตที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สำหรับผู้ที่สนใจหนังสือ Future Trends Ahead 2024 สามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง www.facebook.com/futuretrends.th”
นอกจากนี้ไฮไลท์ภายในงานยังพบกับเวทีเสวนา Future Trends Forum งานเสวนาเทรนด์แห่งอนาคตจากหลากหลายตัวจริงในวงการ ที่ได้มาอัปเดตเทรนด์อนาคตอย่างเข้มข้น โดยตัวอย่างเนื้อหาในประเด็นต่างๆ ที่พูดคุยกันถึงเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในปี 2024 โดยผู้เชี่ยวชาญที่เต็มไปด้วยองค์ความรู้ ได้แก่ ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย, หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ บริษัท หลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) , ศ.ดร.กิตติ ประเสริฐสุข, ศาสตราจารย์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ดร.โกเมษ จันทวิมล Principle Data Scientist บ.กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป, สุทธิชัย คุ้มวรชัย, ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย InnovestX Securities Company Limited ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนสายงานวิจัย InnovestX Securities Company Limited ซึ่งเหล่ากูรูได้แชร์ความเห็นประเด็น ‘อนาคตของเศรษฐกิจโลกและไทย’ ตรงกันโดยสรุปว่า ในโลกเราตอนนี้เต็มไปด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจเศรษฐกิจระดับโลกเช่นสหรัฐอเมริกามีการเติบโตอย่างมาก แต่ในปีหน้าอาจจะมีการเติบโตที่ลดน้อยลงแต่ยังคงไว้ด้วยความแข็งแกร่ง อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกจะค่อนข้างสูง เราอาจจะได้เห็นเงินเฟ้อลดลงและธนาคารอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลงได้
หลายประเทศมีการเลือกตั้งในปีหน้า การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจมีแน่นอนและมาพร้อมกับความตึงเครียดที่สะสมมาตั้งแต่ปีนี้ ในเมืองไทยการฟื้นตัวของเราค่อนข้างช้า เราหวังว่าการท่องเที่ยวจะสามารถส่งการฟื้นตัวของไทยได้ดีขึ้นรวมทั้งการส่งออกที่ติดลบมาตลอด หวังว่าในปีหน้าจะดีขึ้น ที่สำคัญคือนโยบายการคลังอัตราดอกเบี้ยและนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยแน่นอน
การรับมือทางเศรษฐกิจสำคัญที่สุดคือการเตรียมรับมือกับความเสี่ยง บริหารความเสี่ยงให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการหากลดต้นทุนได้โดยไม่ส่งผลต่อคุณภาพก็ควรที่จะทำ
ส่วนความเห็นในด้าน ‘อนาคตของปัญญาประดิษฐ์’
เอไอมาแรงมากในปี 2023 มีแนวโน้วอย่างมากที่จะบูมขึ้นไปอีกในปี 2024 “AI Everything Everywhere All At Once”
การเรียนรู้ของปัญญาประดิษฐ์ที่ดำเนินการมาตลอดทั้งปี 2023 จะทำให้ความฉลาดของมันพัฒนาความสามารถเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ได้มากยิ่งขึ้น พวกเราทุกคนควรจะทำความรู้จักปัญญาประดิษฐ์ให้มันอยู่ในฐานะของการเป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้ชีวิตเราดียิ่งขึ้น ซึ่งการรับมือคือต้องเรียนรู้ตัวตนของมันไม่ว่าจะเป็นบริบทขององค์กร หรือส่วนตัวต้องทำการเรียนรู้แนวคิดปรับตัวให้อยู่ร่วมกับการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ให้ได้
ด้าน ‘อนาคตของการลงทุน’
ปี 2023 เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาดีมากๆ โดยเฉพาะการลงทุนในปัญญาประดิษฐ์ แต่ในแง่ของการลงทุนปี 2024 อาจจะไม่ได้สดใสมากนัก เพราะดอกเบี้ยสูง กำลังซื้อลดน้อยลง การตลาดแรงงานค่อนข้างเบาลง ปีหน้าทั้งปีจะมีการผันผวนของตลาดมากๆ โดยเป็นผลมาจากการเมืองที่ร้อนระอุและการเงินของฝั่งประเทศต่างๆ ที่นโยบายไม่สอดคล้องกับเศรษฐกิจประเทศมหาอำนาจต่างๆเริ่มมีการชะลอตัวทางด้านการเงินและเศรษฐกิจในไตรมาสที่สองสืบเนื่องจากการลดดอกเบี้ยอาจจะส่งผลต่อประเทศไทยมากๆ ซึ่งต้องจับตาดูนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่มีผลต่อเศรษฐกิจไทยพอสมควรในไตรมาสที่สามเทรนด์ของการลงทุนจะเบาบางลงและในไตรมาสที่สี่จะผันผวนอย่างมากจากการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกา การรับมือคือต้องมีความระมัดระวังอย่างมากตัวหุ้นจะถูกยึดโยงกับภาพรวมเศรษฐกิจเราจะต้องมองภาพรวมและหาตลาดเศรษฐกิจที่เติบโตได้ดีที่สุด
สำหรับผู้เชี่ยวชาญที่ทรงคุณวุฒิในด้านเทรนด์การตลาดนั้น มีหัวข้อ “การตลาดผู้บริโภคความยั่งยืนและเสียงจากโลกออนไลน์จะช่วยให้โลกปี 2024 ดีขึ้นได้อย่างไร” จะบอกเล่าการเปลี่ยนแปลงของการตลาดและผู้บริโภคจากการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อสร้างความยั่งยืน โดยผู้เชี่ยวชาญแต่ละท่านได้ให้ข้อคิดไว้น่าสนใจ
ดร.ณัฐวิคม พันธุวงศ์ภักดี (รองผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDG Move) อธิบายว่า เสียงของแรงงานเป็นเสียงที่เราไม่ค่อยได้ยินเพราะฉะนั้นเราจำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือพวกเขาให้สามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงได้ อีกสิ่งคือหากเราไม่ตามเทรนด์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคืออาจทำให้นักลงทุนมองหาประเทศอื่นมากกว่าไทย
ในเรื่องของ ‘ความยั่งยืน’ รัชดา อภิรมย์เดช (ผู้ก่อตั้งบริษัทและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิมเปิ้ล เวิร์ค จำกัด) บอกว่าแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืนจะสามารถครองได้ใจทั้งลูกค้าและสามารถสร้างผลกำไรที่มากกว่าเดิม เพราะในปัจจุบันผู้คนหันมาสนใจแบรนด์ที่ใส่ใจความยั่งยืนมากขึ้น ดังนั้นองค์กรที่เห็นควาสำคัญในเรื่องนี้หากสามารถปรับตัวได้ก็จะทำให้ก้าวไปได้ไกลกว่าเดิม แต่ต้องระวังในเรื่องของ Green Washing ด้วยเช่นกันเพราะผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้
ดร.เอกลักษณ์ ยิ้มวิไล (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอเชี่ยน สกาย เน็ตเวิร์ค จำกัด) ได้แนะนำว่าการที่แบรนด์ฟังเสียงผู้บริโภคบนโลกออนไลน์จะช่วยให้โลกดีขึ้นได้ขึ้นอยู่กับข้อมูลข่าวสารที่เราได้รับว่าเป็นเรื่องที่อัปเดตหรือเป็นเรื่องจริงหรือไม่การที่โลกจะดีได้ขึ้นอยู่กับหนึ่งคือตัวของเราเองที่เลือกเสพสื่อสองคือเทคโนโลยี
คุณณัฐพล ม่วงทำ (เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน) ว่าแม้จะมี AI มาช่วยในการทำงานแต่ยังเชื่อว่าการศึกษา DATA ยังสำคัญเช่นกันเพราะ AI เปรียบเสมือนเด็กที่ยังต้องการข้อมูลเป็นอาหารเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเพราะฉะนั้นข้อมูลที่ใส่ลงไปใน AI จึงสำคัญเพราะ AI จะประมวลผลออกมาแบบใดก็ขึ้นอยู่กับข้อมูลป้อนเราจึงจำเป็นต้องเข้าใจ DATA รวมไปถึง AI ที่เราใช้อย่างถ่องแท้ก่อนที่จะเลือกเชื่อในข้อมูลนั้นๆ
และสำหรับเรื่อง “ทักษะใหม่ภาวะผู้นำสุขภาพและไลฟ์สไตล์จะพาชีวิตและการงานไปสู่สมดุลอย่างไรใน 2024” ได้ โอชวิน จิรโสตติกลุ CEO & Founder of FutureSkill, ชัชพล ยังวิริยะกุล Director of Kincentric และดร.การดี เลียวไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่อนาคตศาสตร์และสินทรัพย์ดิจิทัล FutureTales LAB by MQDC ให้ความเห็น โดย ดร.การดีได้แนะว่า “คำว่าการทำงานยุคใหม่ทำงานแบบไฮบริด อาจมองด้วยตัวเลขบางจุดเช่นเรื่องการเข้าทำงานกี่วัน ทำนองนี้ ไม่ได้จริงๆ เพราะที่สำคัญมันคือสิ่งที่อยู่ใต้ภูเขาน้ำแข็งคือเรื่องการสร้างวัฒนธรรมองค์กรซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เราจะสร้างองค์กรอย่างไรให้อยู่ร่วมกันได้ พอเราทำงานออนไลน์กันนานๆ ก็ควรต้องมีกิจกรรมที่มาทำร่วมกันเสริมเติมเข้ามา ไม่ว่าจะรูปแบบงานหรือกิจกรรมสันทนาการ เวลาทำงานในองค์กรไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ การที่เรามีปฏิสัมพันธ์กันนอกเหนือจากสโคปงานทำให้เราทำงานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เมื่อเป็นเพื่อนก็จะง่ายกว่า อยากฝากองค์กรไว้ว่าไฮบริดหรือไม่ไฮบริดก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าเราจะสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้มีความจัดการตัวเองได้อย่างไรค่ะ”
นอกจากนี้ทาง Future Trends ยังได้มีการจัดงานมอบรางวัลสุดยอดผู้นำเทรนด์แห่งปี ที่จะมอบให้กับตัวแทนแบรนด์ และบุคคลแห่งอนาคต ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่มีความโดดเด่นซึ่งก่อให้เกิดคุณค่าต่อสังคมเป็นวงกว้างจำนวน 12 หมู่รางวัล มากกว่า 100 รางวัล ทั้งหมดนี้รวมกันเป็นงาน ‘Future Trends Ahead & Awards 2024’ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ณ Bhiraj Hall Bitec Bangna โดยได้รับการสนับสนุนโดย Supalai และ heygoody โดยเงินติดล้อ”