ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ราคาที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกาได้ไต่สู่ระดับที่คนอเมริกันบางส่วนไม่สามารถจ่ายได้ ส่งผลให้จำนวนผู้ที่ประสบปัญหาไร้ที่อยู่อาศัยจึงพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้
ตามรายงานประจำปีของ กระทรวงการเคหะและการพัฒนาเมือง พบว่า จำนวนผู้ไร้บ้านในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 12% หรือประมาณ 70,650 คน เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมแล้วประมาณ 650,000 คน ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่มากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มทำรายงานในปี 2550
รายงานพบว่า คนไร้บ้านเพิ่มขึ้นทั่วประเทศในทุกประเภทครัวเรือน แต่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ คนผิวสี แม้ว่าคนผิวดำคิดเป็นประมาณ 13% ของประชากรสหรัฐอเมริกา แต่คิดเป็นสัดส่วนถึง 37% ของคนไร้บ้าน ขณะที่ประชากรชาวอเมริกัน เชื้อสายเอเชียหรือเอเชีย ที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเริ่มมีเพิ่มมากขึ้น คาดว่าตัวเลขสูงถึง 3,313 คน เพิ่มขึ้น 40% ในช่วงปี 2565-2566
อย่างไรก็ตาม เชื้อชาติของผู้ที่ประสบปัญหาการไร้บ้านมากที่สุดคือ ชาวละติน โดยประชากรกลุ่มนี้คิดเป็น 55% ของจำนวนคนไร้บ้านในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด โดยในปีนี้มีชาวลาตินไม่มีที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 28% หรือประมาณ 39,106 คน
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้จำนวนคนไร้บ้านในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็คือ ค่าเช่าที่อยู่อาศัย โดยค่าเฉลี่ยราคาค่าเช่าในเดือนพฤศจิกายนปีนี้แม้เริ่มลดลง แต่ก็ยังสูงกว่าในเดือนพฤศจิกายน 2562 ถึง 22% และค่าเฉลี่ยของค่าเช่าอพาร์ทเมนท์อยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดในเดือนสิงหาคม 2565 ที่เคยทำไว้ที่ 2,054 ดอลลาร์ เพียง 4%
Related