ห้างกรุงทองพลาซา ศูนย์ค้าส่งเสื้อผ้า “พลัสไซซ์” ใหญ่ที่สุดในประเทศ ฉลองครบรอบ 23 ปีแห่งความสำเร็จที่ครองใจลูกค้าชาวไทยมาอย่างยาวนาน มอบโมเมนต์แสนพิเศษสร้างเซอร์ไพรส์ใหญ่ให้ลูกค้าคนสำคัญ จัดแคมเปญ “กรุงทองพลาซา 23 Anniversary แจกรถฟรีมีแต่ให้” เอาใจตัวแม่ขาช้อปแจกหนักไม่ยั้ง กับของรางวัลสุดยิ่งใหญ่ ช้อปครบ 100 บาท ลุ้นรับรถยนต์ ซูซูกิ เซเลริโอ ฟรี!! พร้อมเดินหน้ากางแผนกลยุทธ์ธุรกิจรับปีมังกรทอง เพื่อยกระดับการเป็นห้างค้าส่งเสื้อผ้าพลัสไซซ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางทางด้านธุรกิจแฟชั่นเสื้อผ้าพลัสไซซ์ของภูมิภาคเอเชีย ตั้งเป้าปี 67 ทราฟฟิคผู้ใช้บริการเติบโต 30% คาดเม็ดเงินสะพัดกว่า 500 ล้านบาท ผ่านการทำแคมเปญการตลาด 360 องศา ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
นางสาวอัญชลี ตันติวงษากิจ กรรมการผู้จัดการ ห้างกรุงทองพลาซา กล่าวว่า “จากวันแรกจนถึงปัจจุบันตลอดการเดินทางกว่า 23 ปีในประเทศไทย ห้างกรุงทองพลาซาไม่เคยหยุดพัฒนาและค้นหาสิ่งใหม่ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากสินค้าแฟชั่นที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าสาวพลัสไซซ์มาอย่างยาวนาน ปัจจุบันห้างกรุงทองพลาซาได้ก้าวขึ้นสู่ห้างค้าส่งเสื้อผ้าพลัสไซซ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ด้วยความเชื่อมั่นของพันธมิตรธุรกิจร้านค้าภายในห้างฯ และลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจกับห้างกรุงทองพลาซามาตลอด 23 ปี การดำเนินธุรกิจของห้างกรุงทองพลาซาก้าวต่อไปจากนี้ ทางห้างฯ ยังคงมุ่งมั่นและผลักดันจุดยืนของหนุ่มสาวพลัสไซซ์ ให้สามารถสนุกกับแฟชั่น มั่นใจในการแต่งตัว รวมไปถึงเป็นกระบอกเสียงให้เกิดการยอมรับ ผลักดันเรื่องความเท่าเทียม ให้ทุกคนสามารถแสดงความเป็นตัวของตัวเองได้ อย่างไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดไซซ์ เป้าหมายของเราต่อจากนี้คือการยกระดับห้างกรุงทองพลาซาให้เป็นศูนย์กลางทางด้านธุรกิจแฟชั่นเสื้อผ้าพลัสไซซ์ของภูมิภาคเอเชีย”
สำหรับภาพรวมธุรกิจของห้างกรุงทองพลาซา มีอัตราการเช่าพื้นที่ของห้างฯ ในปี 2566 ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีด้วยการเช่าพื้นที่เต็ม 100% ไม่มีพื้นที่ว่าง ในส่วนของปี 2567 มีการจองและทำสัญญาเต็ม 100% แล้วเช่นกัน นับเป็นสัญญาณการเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้น โดยปัจจุบันมีลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติแวะเวียนกันเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้าเฉลี่ย 10,000 คน ต่อวัน ในวันธรรมดา และช่วงวันหยุดอาจจะสูงถึง 20,000 คน ต่อวัน โดยเมื่อเปรียบเทียบมีอัตราที่เพิ่มมากขึ้นกว่าปี 2565 ถึง 50%
สัดส่วนร้านค้าในห้างกรุงทองพลาซาในปัจจุบัน มีสินค้าพลัสไซซ์มากกว่า 70% ที่เหลือจะเป็นเสื้อผ้าไซซ์เล็ก รวมไปถึงเครื่องประดับ อุปกรณ์การแต่งตัวต่างๆ เช่น เข็มขัด รองเท้า วิกผม และกระเป๋า เป็นต้น กลุ่มสินค้าที่เรียกได้ว่าได้รับความนิยมส่วนใหญ่ก็ยังเป็นกลุ่มสินค้าแฟชั่นของสาวพลัสไซซ์ อันดับแรกจะเป็นพวกเสื้อผ้าแฟชั่นในแนวมินิมอล ที่สามารถใส่ใช้งานได้ทุกวัน อันดับรองลงมาจะเป็นแฟชั่นชุดทำงาน และออกงานต่างๆ ตามลำดับ
แนวโน้มของการขายในปัจจุบัน มุ่งเน้นไปทางออนไลน์ควบคู่กันไปกับแบบออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการไลฟ์สดขายเองตามแพลทฟอร์มต่างๆ หรือว่าจะเป็นการให้ต่างชาติ หรือลูกค้าที่ซื้อสินค้ามาทำการไลฟ์ขายสินค้าหน้าร้าน ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยในส่วนของออฟไลน์ก็ยังคงซัพพอร์ตลูกค้าที่สะดวกในการเลือกสี เลือกสินค้าด้วยตัวเอง ได้จับสินค้าจริง รวมไปถึงการขายส่ง ที่ต้องมีพื้นที่ในการจัดทำสต็อก เพื่ออำนวยความสะดวกในการมารับสินค้าได้ง่ายและสร้างความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
“ปีนี้เรามุ่งเน้นการพัฒนากลยุทธ์การตลาดแบบ 360 องศา เพื่อทำให้ห้างกรุงทองพลาซาแข็งแกร่งกว่าเดิม และมีเป้าหมายการเป็น Top of Mind ของสาวพลัสไซซ์ทั่วเอเชีย ซึ่งมีผลต่อยอดขายและอัตราการเช่าพื้นที่ เราจึงเดินหน้าวางกลยุทธ์สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านแคมเปญการตลาด รวมถึงการสร้างคอนเทนต์ออฟไลน์-ออนไลน์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทำให้เกิดการซื้อซ้ำและบอกต่อ ทำให้เราขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว” นางสาวอัญชลี กล่าวเสริม
กางแผนโรดแมปห้างกรุงทองพลาซา ชูกลยุทธ์สำคัญรุกตลาดปีที่ 24 เน้น “การมีประสบการณ์ร่วม” สร้าง Top of Mind ครองใจสาวพลัสไซซ์ทั่วเอเชีย
ห้างกรุงทองพลาซาได้มีการจัดแคมเปญการตลาดตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น แจกโชคทองทุกสัปดาห์ ควงซุปตาร์ตะลุยช้อปฟรี เป็นการกระตุ้นยอดขายและคืนกำไรให้กับลูกค้า และในปี 2567 ทางห้างฯ เตรียมจัดโปรโมชั่นตอบแทนลูกค้าอย่างจุใจเช่นเคย จากการประเมินกิจกรรมที่ผ่านมา ลูกค้าที่ร่วมสนุกกับกิจกรรมส่งเสริมการขายของทางห้างฯ จะกลับมาซื้อซ้ำและมาพร้อมกับยอดซื้อที่เยอะขึ้นกว่าเดิม นอกจากกิจกรรมส่งเสริมการขายดังกล่าวข้างต้น ทางห้างฯ เตรียมจัดกิจกรรมการประกวดออกแบบเสื้อผ้า “Krungthong Plussize Fashion Revolution” เปิดเวทีแสดงศักยภาพของนักออกแบบไทย ทั้งนี้เพื่อที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันและสนับสนุนให้คนไทยได้ก้าวสู่เวทีระดับโลก และเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเสื้อผ้าแฟชั่นไทยให้ก้าวขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ของตลาดโลกด้วย
อีกหนึ่งกลยุทธ์ในปัจจุบันคือการทำ Content Marketing สร้างคอนเทนต์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ทางห้างฯ ได้มุ่งเน้นพัฒนาคอนเทนต์คุณภาพและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์จากโลกออนไลน์-ออฟไลน์ของห้างฯ เอง จากผู้ใช้บริการจริง หรือจากการรีวิวของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์และเครื่องมือจัดการ Data จากหลายแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, TikTok และ YouTube เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการทำคอนเทนต์ให้เป็นที่พูดถึงในกลุ่มเป้าหมายและจะส่งผลต่อการดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม Generation Y และ Z ที่เติบโตมาพร้อมกับยุคดิจิทัล
สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดที่โดดเด่นที่สุดของห้างกรุงทองพลาซาคือการสร้างความแตกต่าง เพื่อนำเสนอสินค้าสู่ผู้บริโภค ปัจจุบันทางห้างฯ มีเสื้อผ้าตั้งแต่ XS -6XL ซึ่งส่วนใหญ่ในท้องตลาดจะผลิตเพียง S-2XL ซึ่งไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เพียงพอ เป็นการสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นในตัวสินค้า สร้างความโดดเด่นในสินค้าให้มีความเป็นเอกลักษณ์ หรือการสร้างตัวตนที่แตกต่าง ตรงความต้องการและชัดเจน ในอนาคตก็จะมีการพัฒนาปรับเพิ่มไซซ์ให้ถึง 8XL รวมถึงโปรโมชั่นส่งเสริมการขายที่มีความแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น เนื่องจากมีการแข่งขันในตลาดที่สูงมาก โดยมีวัตถุประสงค์ในการทำให้ลูกค้าพึงพอใจสูงสุด จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์ต่างๆ ของทางห้างฯ มุ่งเน้นให้เกิดการซื้อซ้ำและบอกต่อ ทำให้เราขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยยังคงมีส่วนร่วมกับลูกค้ารายเดิม ทำให้ฐานลูกค้าของเรามีความจงรักภักดีในแบรนด์สูงมาก
เจาะ Customer Insight กลุ่มลูกค้าพลัสไซซ์ของห้างกรุงทองพลาซาส่วนใหญ่จ่ายเฉลี่ย 2,000+ เผยเหตุครองใจด้วยความหลากหลายของสินค้าตอบโจทย์ Beauty Standard แฟชั่นแนวมินิมอลมาแรงเบอร์หนึ่ง สาวไทยยังครองสัดส่วนลูกค้าอันดับหนึ่งกว่า 70% ส่วนลูกค้า LGBTQ พลัสไซซ์เป็นเทรนด์น่าจับตามอง
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของทางห้างฯ สัดส่วนของคนไทยยังถือได้ว่าเป็นส่วนใหญ่กว่า 70% และเป็นอัตราส่วนลูกค้าต่างชาติประมาณ 30% โดยส่วนมากจะเป็นประเทศในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ โดยภาพรวมนั้นสัดส่วนของลูกค้าเพศหญิงยังถือว่ามากที่สุด รองลงมาจะเป็น LGBTQ และผู้ชาย สำหรับการจับจ่ายแต่ละครั้งของลูกค้าปลีกอยู่ที่ประมาณ 2,000 – 3,000 บาทต่อครั้ง และลูกค้าส่งจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อครั้ง จะเห็นได้ว่าทางห้างฯ มีการให้ความสำคัญกับทุกเพศและทุกวัย เพราะเรื่องแฟชั่นไม่ได้จำกัดแค่ชายหรือหญิง แต่ในยุคปัจจุบันมีการเปิดกว้างและเป็นอิสระ ทางห้างฯ จึงพยายามผลักดันตลาดเฉพาะกลุ่มเพิ่มมากขึ้น
โดยในปี 2567 จะมีการปรับสัดส่วนของต่างชาติให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น โดยมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มมุสลิมและโซนยุโรปให้มากขึ้น เพราะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเติบโตและมีกำลังซื้อมาก ซึ่งจะช่วยให้ทราฟฟิคทางห้างฯ เพิ่มขึ้นได้อีก 30% และคาดว่าในปี 2567 จะมีรายได้ประมาณ 500 ล้านบาท
ห้างกรุงทองพลาซาพร้อมฉีกทุกกฎการแต่งตัวของสาว Plus Size เผยเทรนด์แฟชั่นสาวพลัสไซซ์ยุคใหม่ เน้นแฟชั่น มีสีสัน และสนุกมากขึ้น!!
ต้องยอมรับว่าในยุคที่สังคมเปิดกว้างและยอมรับความแตกต่างเรื่องของ Beauty Standard มากขึ้น จากในยุคก่อน สาวพลัสไซซ์มักจะเลือกใส่เสื้อผ้าเรียบๆ ตัวใหญ่ๆ เพื่อใช้ในการปกปิดรูปร่าง แต่ในปัจจุบันโลกของแฟชั่นสาวพลัสไซซ์ได้เติบโตขึ้นมาก มีสาวๆ พลัสไซซ์หลายคนที่กล้าที่จะแต่งตัวมากขึ้น ทางห้างฯ มีแฟชั่นที่หลากหลายรูปแบบและหลากหลายไซซ์ในราคาหลักร้อย สินค้าในห้างฯ ยังมีการเปลี่ยนใหม่ทุกสัปดาห์ ในราคาโรงงาน เพราะทางห้างฯ ได้คัดสรรร้านค้าที่มีคุณภาพและมีประสบการณ์ รวมไปถึงการเป็นผู้ผลิตเองโดยตรง ทำให้สามารถซื้อได้ในราคาย่อมเยาและมีคุณภาพดี เพื่อตอบสนองและส่งเสริมให้สาวพลัสไซซ์กล้าแสดงออก มีความมั่นใจในการแต่งตัว กล้าที่จะปฏิวัติตัวเอง ทางห้างฯ มองว่าตลาดสาวพลัสไซซ์ยังมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต มีการซื้อต่อเนื่องเป็นประจำ
ไม่เพียงแค่เรื่องของแฟชั่นเท่านั้น แต่ทางห้างฯ ยังต้องการที่จะเป็นตัวช่วยผลักดันสังคมของสาวพลัสไซซ์ให้ได้เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับของสังคมเพิ่มมากขึ้น โดยทางห้างฯ ได้จัดให้มีการประกวดสาวพลัสไซซ์แบบไม่จำกัดเพศเพื่อตอกย้ำจุดยืนดังกล่าวในปีที่ผ่านมา
ปรากฏการณ์เฉลิมฉลองครบรอบ 23 ปี สุดยิ่งใหญ่! แคมเปญ “กรุงทองพลาซา 23 Anniversary แจกรถฟรีมีแต่ให้” พร้อมรันเวย์สุดยิ่งใหญ่ “The Fashion Show 23th Anniversary Celebration” ดึงเหล่าศิลปินชื่อดังอวดลุคสุดปัง กับคอนเซ็ปต์เก๋ “Shading of You” ปลุกสีสันให้ชีวิตในแบบที่เป็น
โอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 23 ปี ทางห้างฯ ได้มีการจัดกิจกรรม “กรุงทองพลาซา 23 Anniversary แจกรถฟรี มีแต่ให้” เป็นการจับรางวัลแจกรถซูซูกิ เซเลริโอ มูลค่า 397,500 บาท เพียงลูกค้าซื้อสินค้าครบทุก 100 บาท มีสิทธิ์ร่วมลุ้นรถฟรี!! นอกจากนี้ทางห้างฯ ยังมีการจัดกิจกรรมครั้งใหญ่ นำเสนอเทรนด์แฟชั่นปี 2567 ผ่านดารา อินฟูลเอนเซอร์ นายแบบ นางแบบ ชั้นนำมากมาย อาทิ นางงามจักรวาลขวัญใจมหาชน “แอนโทเนีย โพซิ้ว” รองอันดับ 1 Miss Universe 2023 ที่ควงคู่มากับซุปตาร์ตัวแม่ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” คู่รักขวัญใจโซเชียล “แก้มบุ๋ม ปรียาดา สิทธาไชย” กับแฟนหนุ่ม “พีท กันตพร หาญพาณิชย์” ติ๊กต็อกเกอร์ตัวแม่ “ธรรมชาติ โยธาจุล” ตัวแม่ตัวมัมแห่งวงการออนไลน์ “นัท นิสามณี สะบัดแปรง” และพิธีกรสุดหล่ออย่างหนุ่ม “แมทธิว ดีน” กับคอนเซ็ปต์เก๋ “Shading of You” ปลุกสีสันให้ชีวิตในแบบที่เป็น ผ่านเรื่องราวการเดินแบบทั้ง 4 เซ็ท 4 เรื่องราว เริ่มต้นที่ “Daily Life” แต่งเติมสีสันและแฟชั่นในชีวิตประจำวันกับการแต่งตัว every day look ที่คุณสามารถใส่ไปทำงานได้ ใส่เที่ยวได้ และใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง “uniqueness” กับการสร้างความเป็นตัวตนและเป็นเอกลักษณ์ผ่านแฟชั่นการแต่งตัว สะท้อนความเป็นตัวคุณออกมาให้โลกได้เห็น “Party” เติมความสนุกสนานให้กับแฟชั่น เติมความปาร์ตี้ลงไปในชีวิต และสุดท้าย “Runway” แต่งตัวให้ดูโดดเด่นเตะตาแบบ Runway look ที่จะมาสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กล้าที่จะแต่งตัวเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นแล้วภายในงานยังมีของรางวัลพิเศษมอบให้กับผู้เข้าร่วมงานที่มาแสดงความยินดีและร่วมสนุกกับกิจกรรมของทางห้างฯ อีกด้วย
ห้างกรุงทองพลาซายังคงมุ่งมั่นพัฒนาในทุกด้านเพื่อขยายการรับรู้ของแบรนด์ออกไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มีประสบการณ์ร่วมมากยิ่งขึ้น รวมถึงการขยายแบรนด์สู่ตลาดลูกค้าต่างชาติและก้าวขึ้นเป็นฮับแฟชั่นเสื้อผ้าพลัสไซซ์ของภูมิภาคเอเชีย
ติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรมและโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก/ติ๊กต็อก krungthongplaza อินสตาแกรม krungthongplaza1 และ www.krungthongplaza.com