ซัมซุงเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ก้าวสู่ยุค AI Phoneยิ่งใหญ่สมการรอคอย Galaxy S24 Ultra, Galaxy S24+ และ Galaxy S24 มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การใช้โทรศัพท์มือถือในรูปแบบ Galaxy AI[1] พาวาร์ปสู่ยุคใหม่ซึ่งจะเปลี่ยนประสบการณ์การใช้โทรศัพท์มือถือที่เคยเป็นโดยสิ้นเชิง Galaxy AI มาพร้อมพลังที่จะมอบให้ผู้ใช้ในทุกการสัมผัส ทั้งการสื่อสารแบบไร้ขอบเขตด้วยการแปลข้อความและทุกการสนทนา การเสริมความคิดสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัดด้วย Galaxy’s ProVisual Engine และสร้างมาตรฐานใหม่ในการค้นหาข้อมูลต่างๆ ให้กับผู้ใช้กาแล็คซี่ทั่วโลก
“Galaxy S24 Series ได้เปลี่ยนการเชื่อมต่อของผู้ใช้งานกับโลกใบนี้ อีกทั้งยังนำไปสู่ทศวรรษใหม่ของนวัตกรรมโทรศัพท์มือถือ” ทีเอ็ม โรห์ ประธานธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าว “Galaxy AI พัฒนาขึ้นจากนวัตกรรมต่างๆ ที่ผ่านมาของซัมซุง รวมถึงความเข้าใจอย่างถ่องแท้ของการใช้โทรศัพท์มือถือในแต่ละบุคคล ซัมซุงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่จะได้เห็นผู้ใช้ทั่วโลกได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการใช้โทรศัพท์มือถือด้วย Galaxy AI ที่จะมาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตในแต่ละวัน
ยกระดับประสบการณ์การใช้งานโทรศัพท์มือถือในชีวิตประจำวันให้ถึงขีดสุด
Galaxy AI พร้อมที่จะช่วยยกระดับผู้ใช้ทุกจังหวะชีวิต โดยเฉพาะฟีเจอร์พื้นฐาน คือฟีเจอร์ด้านการสื่อสาร โทรศัพท์มือถือรุ่นนี้จะช่วยให้ก้าวข้ามกำแพงภาษาได้ง่ายกว่าที่เคย ไม่ว่าจะแชทกับเพื่อนนักเรียนหรือเพื่อนร่วมงานจากต่างประเทศ การจองที่พักระหว่างพักร้อนในต่างประเทศ ฟีเจอร์ Live Translate[2] ซึ่งเป็นการแปลข้อความ และเสียงสนทนาพูดปุ๊ป แปลปั๊ป เข้าใจแบบเรียลไทม์ โดยปราศจากความช่วยเหลือจากแอปภายนอก ไม่มีอินเทอร์เน็ตก็ใช้งานได้ และที่สำคัญ AI ในกาแล็คซี่จะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวให้ทุกการสนทนา
ฟีเจอร์ Interpreter ล่ามแปลบทสนทนาแบบต่อหน้า โดยจะแสดงผลเป็นหน้าต่างแยกได้ทันที ช่วยให้คู่สนทนาที่ยืนฝั่งตรงข้ามสามารถอ่านและเข้าใจบทสนทนาได้แบบเรียลไทม์ สามารถทำงานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต สำหรับแอปรับส่งข้อความต่างๆ ฟีเจอร์ Chat Assist สามารถแปลภาษาและช่วยปรับน้ำเสียงให้การสนทนาเข้ากับบริบท เช่น การส่งข้อความที่สุภาพให้กับเพื่อนร่วมงาน หรือข้อความกระชับโดนใจสำหรับโพสต์ลงโซเชียล[3] AIในซัมซุงคีย์บอร์ดสามารถแปลข้อความได้ 13 ภาษา[4] แบบเรียลไทม์ ทั้งในรถยนต์ยังมีระบบ Android Auto[5] สามารถช่วยสรุปข้อความและแนะนำคำตอบ เช่น การแจ้งเวลาที่คาดว่าจะเดินทางถึง ช่วยให้สื่อสารกับคนอื่นๆ พร้อมมีสมาธิในการขับขี่ได้
องค์กรต่างๆ จะได้ประโยชน์อย่างมากกับฟีเจอร์ Note Assist[6] ในแอปซัมซุงโน้ต ซึ่งมีระบบสรุปใจความสำคัญด้วยAI ในคลิกเดียว กดปุ๊ป สรุปปั๊ป และสามารถสร้างเทมเพลตการจดโน้ตด้วยรูปแบบที่สร้างไว้ล่วงหน้าได้ พร้อมสร้างปกพรีวิวสั้นๆ ช่วยให้ค้นหาโน้ตได้ง่ายยิ่งขึ้น สำหรับบันทึกในรูปแบบเสียง หรือการประชุมที่มีผู้พูดหลายคน ฟีเจอร์ Transcript Assist[7] จะใช้AIและเทคโนโลยี Speech-to-Text ช่วยถอดความ สรุปเนื้อหา และแม้แต่แปลเสียงบันทึกได้ด้วย
การสื่อสารไม่ได้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ Galaxy S24 Series ทำเพื่อยกระดับคุณสมบัติพื้นฐานของโทรศัพท์มือถือไปอีกขั้น การค้นหาข้อมูลออนไลน์ยังช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตไปแทบทุกแง่มุม Galaxy S24 Series จะสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ของการค้นหา เป็นโทรศัพท์มือถือซีรีส์แรกที่นำเสนอฟีเจอร์การ
ค้นหาโดยใช้ Circle to Search[8] ซึ่งซัมซุงจับมือกับกูเกิล เพื่อสร้างวิธีการค้นหาข้อมูลแบบใหม่โดยใช้วิธีง่ายๆ หลังจากกดปุ่มโฮมค้าง แล้ววาดวงกลม ไฮไลท์ ขีดเขียน และแตะสิ่งใดก็ตามที่แสดงผลอยู่บนหน้าจอเพื่ออ่านผลการค้นหาที่ได้คุณภาพ ผู้ใช้สามารถได้รับข้อมูลสถานที่ที่สวยงามซึ่งเป็นฉากหลังในโพสต์ของเพื่อนของผู้ใช้ในโซเชียลมีเดีย หรือข้อมูลที่น่าสนใจในคลิปวิดีโอสั้นของยูทูบได้สะดวกขึ้น โดยไม่ต้องออกจากแอปที่ใช้อยู่ และการค้นหาบางประเภท AI สามารถช่วยแสดงภาพและรวมข้อมูลที่จำเป็นจากอินเทอร์เน็ตได้ ช่วยให้ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมที่ซับซ้อนขึ้นได้ง่าย และสะดวกมาก
ปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์เพื่อค้นพบโลกในรูปแบบใหม่
ProVisual Engine [9] ของ Galaxy S24 Series เป็นชุดระบบ AI ที่จะช่วยยกระดับการบันทึกภาพและเสริมความคิดสร้างสรรค์ถึงขีดสุดในทุกขั้นตอน ทั้งการค้นหาช็อตที่ถูกใจไปจนถึงการแบ่งปันผลงานในโซเชียลมีเดีย ภาพที่สั่นไหว แตกเป็นเม็ดพิกเซลจะกลายเป็นอดีต ด้วยระบบ Quad Tele System ของ Galaxy S24 Ultra พร้อมเลนส์ออพติคอลซูม 5 เท่าที่สามารถทำงานร่วมกับเซนเซอร์ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ช่วยมอบภาพถ่ายคุณภาพสูง ขณะซูม 2 เท่า 3 เท่า 5 เท่า ไปจนถึง 10 เท่า[10] โดยอาศัยเทคโนโลยี Adaptive Pixel Sensor นอกจากนี้ยังช่วยปรับคุณภาพของภาพเมื่อใช้โหมดซูมให้ภาพที่คมชัดแม้จะซูมถึง 100 เท่า
Nightography การอัปเกรดโหมดการถ่ายภาพในที่แสงน้อยช่วยให้ภาพนิ่งและภาพเลื่อนไหวที่บันทึกด้วยฟีเจอร์ Space Zoom ของ Galaxy S24 Series ดูสวยงามในทุกสภาพแสง แม้จะเป็นภาพซูม Galaxy S24 Ultra มีขนาดพิกเซลที่ใหญ่ขึ้นจากเดิมร้อยละ 60[11] เป็นขนาด 1.4 ไมครอน ช่วยให้รับแสงขณะบันทึกภาพในที่แสงน้อยได้มากขึ้น Galaxy S24 Ultra ยังลดการเบลอของภาพโดยมุมของ OIS ที่กว้างขึ้นและระบบช่วยลดการสั่น เมื่อบันทึกภาพเคลื่อนไหว โดยทั้งกล้องหน้าและหลังจะมี ISP Block ที่สามารถลดนอยซ์และเสริมความคมชัดของวิดีโอเมื่อบันทึกในที่แสงน้อย แม้จะถ่ายในระยะไกล พร้อมทั้งยังสามารถวิเคราะห์การเคลื่อนไหว เพื่อแยกแยะว่าเป็นการเคลื่อนไหวของผู้ถ่ายหรือการเคลื่อนไหวของสิ่งที่กำลังถ่าย
หลังจากบันทึกภาพแล้ว ฟีเจอร์การแต่งภาพด้วย Galaxy AI สามารถช่วยแต่งภาพได้ง่ายๆ เช่น การลบสิ่งต่างๆ จัดองค์ประกอบใหม่ หรือการรีมาสเตอร์ และเพื่อการแต่งภาพที่สะดวกกว่า ฟีเจอร์ Edit Suggestion[12] จะใช้ AI เพื่อแนะนำการปรับแต่งที่ดีที่สุดให้กับแต่ละภาพ เพื่ออิสระในการปรับแต่งอีกขั้น ผู้ใช้ยังสามารถใช้ Generative Edit[13] เพื่อใช้ Generative AI เติมเต็มฉากหลังของภาพ เมื่อขอบภาพเอียง AI จะช่วยเติมเต็มขอบ หากมีสิ่งใดที่ควรจะขยับไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า AI จะให้ผู้ใช้ปรับตำแหน่งวัตถุได้และผสานฉากหลังบริเวณจุดเดิมที่มีวัตถุได้อย่างลงตัว เมื่อใดก็ตามที่ Galaxy S24 Series ใช้ Generative AI เพื่อแต่งภาพ ระบบจะสร้างลายน้ำทั้งในภาพและในข้อมูลอภิพันธุ์ (metadata) หากผู้ใช้ต้องการทำให้วิดีโอที่ถ่ายไว้ช้าลง สามารถใช้ Instant Slow-mo เพื่อเติมเฟรมที่อ้างอิงจากการเคลื่อนไหวในคลิปวิดีโอ เพื่อให้คลิปวิดีโอช้าลง และเติมเต็มรายละเอียดได้มากขึ้น
เพื่อให้ทุกภาพสวยงามในทุกขั้นตอน ด้วย Super HDR สามารถแสดงภาพพรีวิวที่สวยงามก่อนกดชัตเตอร์ นับจากนี้แอปของผู้พัฒนาภายนอกจะสามารถเข้าถึงฟีเจอร์กล้องที่ควบคุมโดย AI ในโทรศัพท์มือถือซีรีส์นี้ได้ ฟีเจอร์การถ่ายภาพระดับพรีเมี่ยมของ Galaxy S24 Series ผสานกับแอปต่างๆ ที่รองรับ HDR เพื่อยกระดับการแชร์ภาพในโซเชียลมีเดีย[14] เมื่อผู้ใช้ค้นหาภาพในคลังภาพ รวมถึงฟีดและรีลของอินสตาแกรม ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวเหล่านี้จะแสดงผลแบบ Super HDR เพื่อความสว่างที่ดีขึ้น สีสันสมจริงขึ้น ความต่างสีเสมือนจริงขึ้น จากการวิเคราะห์ไฮไลท์ต่างๆ ของภาพ
สัมผัสประสบการณ์อัจฉริยะกว่าที่เคย ด้วยประสิทธิภาพระดับพรีเมี่ยม
ประสิทธิภาพการประมวลผลต้องดีเยี่ยมเพื่อรับกับความต้องการ ในขณะที่ AI มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันมากขึ้น ไม่ว่าจะเล่นเกม บันทึกและตัดต่อวิดีโอแบบมืออาชีพ หรือการสลับการทำงานระหว่าง 5 แอปเพื่อวางแผนการท่องเที่ยว Galaxy S24 Series สามารถมอบประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดจากการปรับแต่งชิปเซ็ต[15] หน้าจอ และอื่นๆ Galaxy S24 Ultra ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon® 8 Gen 3 Mobile Platform for Galaxy[16] ที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับ Galaxy S24 Series ชิปเซ็ตนี้ยกระดับการประมวลผล NPU เพื่อการประมวลผล AI ที่ดียิ่งขึ้น โทรศัพท์มือถือทั้ง 3 รุ่นนี้รองรับอัตรารีเฟรชหน้าจอแปรผัน 1-120 เฮิร์ตซเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
Galaxy S24 Series นี้ยังเล่นเกมได้อย่างทรงพลังมากขึ้นจากการพัฒนาทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ Galaxy S24 Ultra ยกระดับระบบจัดการความร้อนด้วย Vapor chamber ที่ใหญ่กว่าเดิม 1.9 เท่า[17] ลดอุณหภูมิที่ผิวนอกของโทรศัพท์มือถือพร้อมทั้งรักษาประสิทธิภาพการประมวลผล Ray tracing ช่วยแสดงแสงเงาและแสงสะท้อนอย่างเสมือนจริง ด้วยความร่วมมือของซัมซุงกับผู้พัฒนาเกมระดับแนวหน้า Galaxy S24 Series ช่วยให้ผู้ใช้สนุก สนานกับการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น
หน้าจอ Galaxy S24 Series พัฒนาให้สว่างมากที่สุดในซีรีส์[18] ช่วยให้การแสดงผลภาพดูสดใสสวยงามยิ่งขึ้น โดยมีระดับความสว่างถึง 2,600 นิต และรองรับ Vision Booster ทำให้ใช้งานกลางแดดได้ดียิ่งขึ้น
Galaxy S24 Ultra ใช้กระจกหน้าจอ Corning® Gorilla® Armor [19] ที่พัฒนาให้เสริมการมองเห็นและทนทานมากขึ้นต่อความเสียหายจากรอยขีดข่วนในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังลดการสะท้อนแสงลงร้อยละ 75 ไม่ว่าจะใช้งานในสภาพแสงใดให้ประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น
Galaxy S24 Series ออกแบบให้ขอบจอบางลงและเท่ากันทุกด้าน ให้มุมมองการใช้งานที่กว้างขึ้นและให้ขนาดจอใหญ่ขึ้น โดยรุ่น Galaxy S24 มีหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว และรุ่น Galaxy S24+ มีขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้วในขนาดตัวเครื่องที่แทบจะเท่ากัน[20] Galaxy S24 Ultra มีขนาดหน้าจอ 6.8 นิ้ว และเป็นจอแบนที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพทั้งด้านการรับชมและด้านการถ่ายภาพและวิดีโอ นอกจากนี้ Galaxy S24+ ยังรองรับการแสดงผลความละเอียด QHD+ เทียบเท่า Galaxy S24 Ultra
ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ล้ำหน้า มอบทางเลือกและการตัดสินใจให้ผู้ใช้
Galaxy S24 Series รองรับความปลอดภัยจาก Samsung Knox ระบบฮาร์ดแวร์ความปลอดภัยระดับสูง ช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญและปกป้องผู้ใช้จากภัยไซเบอร์ต่างๆ ด้วยการป้องกันจากฮาร์ดแวร์จนถึงซอฟต์แวร์ การตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ และความร่วมมือด้านความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ
ความตั้งใจของซัมซุงที่จะมอบทางเลือกและการควบคุมให้ผู้ใช้เป็นผู้ตัดสินใจยังคงไม่เปลี่ยนแปลงแม้ในยุค AI ผู้ใช้ Galaxy S24 Series มีอำนาจเต็มที่จะควบคุม AI ในการเข้าถึงข้อมูลเพื่อเสริมประสบการณ์เท่าที่ต้องการ โดยสามารถตั้งค่าได้ที่ Advanced Intelligence settings ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกปิดการประมวลผลข้อมูลออนไลน์โดยใช้AI[21]
Knox Matrix [22] แนวคิดเพื่อความปลอดภัยและการเชื่อมต่อ โดยไม่จำเป็นต้องใช้รหัสผ่าน ซึ่งจะเป็นความล้ำ อีกขั้นในการรองรับ Passkeys ที่จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงเว็บไซต์ต่างๆ หรือแอปที่ลงทะเบียนไว้ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย หากใช้อุปกรณ์ที่ผู้ใช้ไว้วางใจโดยใช้ใบรับรองดิจิทัล Passkeys จะสามารถช่วยป้องกันผู้ใช้จากการโจมตีแบบฟิชชิ่งได้ ระบบการป้องกันข้อมูลขั้นสูงนี้ยังช่วยเข้ารหัสการสำรองข้อมูล การซิงก์ หรือการเรียกคืนข้อมูลของผู้ใช้จากซัมซุงคลาวด์ได้ทั้งจากต้นทางจนถึงปลายทาง ช่วยให้ผู้ใช้ Galaxy S24 Series เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ โดยสามารถซิงก์ข้อมูลได้และมีความปลอดภัย ระบบนี้ช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าข้อมูลต่างๆ จะมีการเข้ารหัสและถอดรหัสได้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้เท่านั้น
จึงไม่มีใครเห็นข้อมูลเหล่านี้ได้นอกจากผู้ใช้ แม้เซิร์ฟเวอร์จะถูกจู่โจมหรือมีการขโมยข้อมูลบัญชีผู้ใช้ และแม้อุปกรณ์ที่ผู้ใช้ไว้ใจจะสูญหาย ผู้ใช้ยังใช้รหัสกู้ข้อมูลเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายได้ โทรศัพท์มือถือซีรี่ส์ใหม่ล่าสุดนี้ยังได้รับการปกป้องด้วยนวัตกรรมล่าสุดด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวต่างๆ มากมาย ทั้ง Knox Vault, Auto Blocker แดชบอร์ดด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว Secure Wi-Fi, Private Share, Maintenance Mode และอื่นๆ
ก้าวต่อไปของเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของซัมซุง
การมอบประสบการณ์อุปกรณ์มือถือใหม่ๆ ยังหมายถึงการสร้างนิยามใหม่ของการออกแบบและบรรจุภัณฑ์โทรศัพท์มือถือกาแล็คซี่เพื่อลดการสร้างผลกระทบต่อโลกและผู้บริโภคให้น้อยลง Galaxy S24 Series ยังคงใช้วัสดุ
รีไซเคิลต่างๆ มากยิ่งขึ้น ทั้งการใช้พลาสติก กระจก และอลูมิเนียมรีไซเคิลในส่วนประกอบภายในและภายนอกต่างๆ[23] นอกจากนี้ซัมซุงยังก้าวไปอีกขั้น โดยครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่โทรศัพท์มือถือ Galaxy S24 Series ใช้ส่วนประกอบที่ผลิตจากโคบอลต์และแร่แรร์เอิร์ธที่นำมารีไซเคิล[24] Galaxy S24 Ultra ใช้โคบอลต์รีไซเคิลเป็นส่วนประกอบในแบตเตอรี่อย่างน้อยร้อยละ 50[25] และใช้แร่แรร์เอิร์ธรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบในลำโพงทั้งหมด[26]
Galaxy S24 Series ยังเป็นโทรศัพท์มือถือกลุ่มแรกใน Galaxy S Series ที่ใช้เหล็กกล้าและพลาสติกทีพียูรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบ โดยGalaxy S24 Ultra ใช้เหล้กกล้ารีไซเคิลเป็นส่วนประกอบอย่างน้อยร้อยละ 40 ของลำโพง[27]และใช้พลาสติกทีพียูที่เสื่อมสภาพแต่ยังไม่ผ่านการอุปโภคบริโภคเป็นส่วนประกอบด้านข้างและปุ่มเพิ่มลดเสียงอย่างน้อยร้อยละ 10 นอกเหนือจากนี้ Galaxy S24 Series ทุกเครื่องยังใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากกระดาษรีไซเคิลทั้งหมด
โทรศัพท์มือถือแฟลกชิปรุ่นล่าสุดของซัมซุงสานต่อความตั้งใจที่จะยืดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ โดยรองรับการอัปเกรดระบบปฏิบัติการ 7 รุ่น และการอัปเกรดความปลอดภัย 7 ปี เพื่อมอบประสบการณ์และประสิทธิภาพที่ผู้ใช้ไว้วางใจได้จากโทรศัพท์มือถือกาแล็คซี่ได้ยาวนานขึ้น[28] ท้ายที่สุดโทรศัพท์มือถือซีรี่ส์นี้ผ่านการรับรอง UL ECOLOGO®[29] และผ่านการวัดและรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์โดย The Carbon Trust[30]
Galaxy S24 Series สะท้อนถึงความก้าวหน้าของซัมซุงในการพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มโมบายล์เอ็กซ์พีเรียนซ์ ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น ซัมซุงยังมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายต่างๆ ด้านสิ่งแวดล้อมภายในปี 2025[31] ณ สิ้นปี 2022 ซัมซุงบรรลุ 1 ในเป้าหมายดังกล่าว ด้วยการผสานวัสดุ รีไซเคิลในอุปกรณ์พกพาทุกรุ่น ทั้งโทรศัพท์มือถือกาแล็คซี่ แท็บเล็ต พีซี และอุปกรณ์อัจฉริยะสวมใส่ได้ วันนี้ซัมซุงพร้อมประกาศเป้าหมายใหม่ด้านการใช้วัสดุรีไซเคิล ภายในปี 2030 ซัมซุงจะใช้วัสดุรีไซเคิลอย่างน้อย 1 ชนิดในทุกโมดูล[32] ของอุปกรณ์พกพาทุกรุ่น
ทุกรายละเอียด สง่างามและแม่นยำ
Galaxy S24 Ultra เป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกของซัมซุงที่ใช้เฟรมไทเทเนียม[33] เสริมความทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น Galaxy S24 Ultra ยังมีรูปลักษณ์ที่เพรียวบางลงยิ่งกว่าที่เคยเพื่อให้จับถือได้ง่ายและสบายขึ้น Galaxy S24+ และ Galaxy S24 ออกแบบให้ทุกองค์ประกอบผสานเป็นชิ้นเดียวเพื่อให้สวยงาม และช่วยให้ฝาหลังกับขอบข้างเป็นชิ้นเดียวกันมากขึ้น Galaxy S24 Series ใช้สีที่ได้แรงบันดาลใจจากแร่ธาตุของโลก โดยรุ่น Galaxy S24 Ultra มีสี[34] Titanium Gray, Titanium Black, Titanium Violet and Titanium Yellow ส่วนรุ่น Galaxy S24+ และ Galaxy S24 มีสี Onyx Black, Marble Gray, Cobalt Violet และ Amber Yellow ทุกรุ่นยังจะมีสีพิเศษที่จะวางจำหน่ายออนไลน์เท่านั้นด้วย
พรีออเดอร์ได้แล้ววันนี้พร้อมโปรจัดเต็ม
Galaxy S24 Ultra มี 4 สี ได้แก่ Titanium Gray, Titanium Black, Titanium Violet and Titanium Yellow และ 3 สีพิเศษ (เฉพาะsamsung.com) ได้แก่ Titanium Blue, Titanium Green, และ Titanium Orange
12GB + 256GB ราคา 46,900 บาท
12GB + 512GB ราคา 52,900 บาท
12GB + 1TB ราคา 62,900 บาท
Galaxy S24+ มี 4 สี ได้แก่ Onyx Black, Marble Gray, Cobalt Violet และ Amber Yellow และ 3 สีพิเศษ (เฉพาะ samsung.com) ได้แก่ Sapphire Blue, Jade Green, และ Sandstone Orange
12GB + 256GB ราคา 38,900 บาท
12GB + 512GB ราคา 43,900 บาท
Galaxy S24 มี 4 สี ได้แก่ Onyx Black, Marble Gray, Cobalt Violet และ Amber Yellow และ 3 สีพิเศษ (เฉพาะ samsung.com) ได้แก่ Sapphire Blue, Jade Green, และ Sandstone Orange
8GB + 256GB ราคา 33,900 บาท
8GB + 512GB ราคา 37,900 บาท
Galaxy S24 Series สามารถพรีออเดอร์ได้แล้ววันนี้ ถึง 30 ม.ค. 2567 ผ่าน samsung.com, Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รับโปรแรงถึง 3 ต่อ ได้แก่
ต่อที่ 1 ฟรีเพิ่มความจุเป็น 2 เท่า มูลค่าสูงสุด 10,000 บาท
ต่อที่ 2 ลดเพิ่มสูงสุด 6,000 บาท เมื่อนำเครื่องเก่ามาแลก (ลดเพิ่มจากราคาประเมิน 6,000.- เมื่อซื้อ Galaxy S24 Ultra และ 5,000.- เมื่อซื้อ Galaxy S24+ l S24 )
ต่อที่ 3 ลด 30% สำหรับซื้อ Galaxy Watch6 และ Galaxy Buds
พิเศษ! เฉพาะที่ samsung.com เท่านั้น
- เมื่อสั่งซื้อสีพิเศษ รับเครดิตเงินคืน 10% เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
- สามารถใช้ คะแนน Samsung Rewards แลกเป็นส่วนลดได้บน samsung.com สูงสุด 30% ของราคาสินค้า
- สั่งซื้อครั้งแรก บน Samsung Shop App กรอกโค้ด NEWMEM รับส่วนลด 1,000.-
คลิกสั่งจองได้ที่ https://smsng.store/Galaxy–S24–Ultra
สำหรับทุกการสั่งซื้อหรือการจองจากทุกช่องทาง เพิ่มเติมไปอีก!!!
รับสิทธิ์ซื้อประกันจอแตก Samsung Care+ ในราคาพิเศษ ลด 50% หรือฟรี 1 ปี สำหรับผู้ลงทะเบียนแสดงความสนใจล่วงหน้า เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าชมได้ที่ www.samsung.com/th/smartphones/galaxy-s24-ultra/