ลอรีอัล กรุ๊ป ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัท โจซา (Gjosa) ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีเพื่ออนุรักษ์น้ำสัญชาติ สวิตเซอร์แลนด์ ลอรีอัลได้เริ่มเป็นพันธมิตรกับโจซาเมื่อปี 2564 ด้วยการเปิดตัว L’Oréal Professionnel Water Saver หรือนวัตกรรมหัวฝักบัวลดปริมาณการใช้น้ำ ซึ่งติดอันดับ “100 สุดยอดสิ่งประดิษฐ์แห่งปี” จากนิตยสารไทม์ (TIME Magazine) โดยเทคโนโลยีการแยกส่วนน้ำที่จดสิทธิบัตรแล้วของโจซาซึ่งใช้ใน L’Oréal Professionnel Water Saver นั้น จะช่วยให้ร้านทำผมสามารถลดปริมาณการใช้น้ำที่จุดอ่างสระผมลงได้มากถึง 69% พร้อมประสบการณ์การสระผมที่สร้างความพึงพอใจ รู้สึกสะอาดหมดจดให้กับลูกค้า นับตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา นวัตกรรมหัวฝักบัวที่ผสานความยั่งยืนนี้ได้ถูกนำไปใช้ในซาลอนต่าง ๆ กว่า 10,000 แห่งทั่วยุโรปและตะวันออกกลาง ซึ่งช่วยประหยัดน้ำได้มากกว่า 182 ล้านลิตร หรือเทียบเท่ากับสระว่ายน้ำสำหรับการแข่งขันโอลิมปิก 72 สระ ลอรีอัลมีแผนที่จะแนะนำนวัตกรรมนี้เข้าสู่ซาลอน กว่า 200,000 แห่งทั่วโลกในอนาคต
ลอรีอัล กรุ๊ป ได้ลงทุนในโจซาครั้งแรกเมื่อปี 2564 ผ่านทาง BOLD (Business Opportunities for L’Oréal Development) หรือกองทุนร่วมลงทุนของบริษัท การซื้อกิจการครั้งนี้ช่วยตอกย้ำพันธกิจด้านความยั่งยืน L’Oréal for the Future เพื่อสร้างความมั่นใจว่ากิจกรรมต่าง ๆ ของลอรีอัล กรุ๊ปนั้น จะให้ความเคารพต่อขีดจำกัดของโลกใบนี้ตามข้อกำหนดของวงการวิทยาศาสตร์ และมีเป้าหมายที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมและสำรวจแนวทางใหม่ ๆ เพื่อนำเทคโนโลยีความงามของโจซาไปใช้เพื่อความงาม ไปพร้อมๆ กันกับการปกป้องทรัพยากรน้ำอันล้ำค่า
“การซื้อกิจการของโจซานั้นจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านความยั่งยืนให้กับเรา ทั้งในแง่ของผลิตภัณฑ์และการบริการ เปิดโอกาสให้เรานำเทคโนโลยีประหยัดน้ำมาผสานรวมไว้ในกระบวนการคิดค้นสูตรและนวัตกรรมเทคโนโลยีความงามใหม่ ๆ ได้อย่างราบรื่น” นิโคลา ฮิโรนิมุส (Nicolas Hieronimus) ซีอีโอของลอรีอัล กรุ๊ป กล่าว “เราสามารถทำงานร่วมกันเพื่อยกระดับโซลูชันความงามที่ยั่งยืนได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานมากขึ้นแต่ใช้ทรัพยากรน้อยลง อีกทั้งยังสามารถแนะนำโซลูชันเหล่านี้สู่แวดวงความงามได้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น”
“ภายในปี 2573 มีแนวโน้มว่าประชากรโลกเกือบ 60% จะต้องเผชิญกับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำ ดังนั้น การผสานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน จึงช่วยให้เราสามารถปกป้องทรัพยากรอันมีค่านี้ได้ ทั้งลอรีอัลและโจซาต่างมีความมุ่งมั่นในเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างแรงกล้า รวมทั้งการส่งมอบประสบการณ์ความงามที่ดีที่สุดให้กับผู้คนทั่วโลก และในขณะเดียวกันก็อนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอันมีค่าไปด้วย” บาร์บารา ลาแวร์โนส (Barbara Lavernos) รองซีอีโอฝ่ายวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยีของลอรีอัล กรุ๊ป กล่าว “เมื่อโจซาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของลอรีอัลอย่างเป็นทางการแล้ว เราก็จะเร่งการวิจัยและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ พร้อมรุกตลาดด้วยโซลูชันเทคโนโลยีความงามที่มีความทันสมัยและยั่งยืนสำหรับตลาดมืออาชีพและผู้บริโภคทั่วไป”