เทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินธุรกิจในทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นการทำงานอัตโนมัติในสายการผลิต ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดแบบเรียลไทม์ เทคโนโลยีช่วยให้สามารถตัดสินใจในธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด เพิ่มประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด
เทคโนโลยีไม่ได้เป็นเพียงการทำงานแบบอัตโนมัติอีกต่อไป แต่กำลังก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆช่วยเพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์และส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด ตั้งแต่กระบวนการผลิต การตลาด การประสานงานร่วมกันของทุกฝ่ายในองค์กร เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า
องค์กรทั่วโลกมีความจำเป็นต้องปรับตัวอย่างมากเพื่อรองรับการเคลื่อนไหวของ Digital Transformation ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และพัฒนาระบบการดำเนินงานขององค์กรให้สามารถแข่งขันได้
ยกตัวอย่างเช่น ในกระบวนการผลิต การที่เทคโนโลยีโรบอติกสามารถทำงานแทนมนุษย์ในสายการผลิตบางส่วน ทำให้ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ
ในด้านการตลาด การวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาดที่ทำได้ด้วยเทคโนโลยี ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดได้อย่างทันท่วงที เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า
การลงทุนในระบบไอที เทรนด์ใหม่แห่งการเติบโต
ปัจจัยดังกล่าวทำให้ทุกภาคธุรกิจหันมาเอาจริงเอาจังกับการพัฒนาเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือระบบไอที ที่มีส่วนช่วยในการจัดการและประมวลผลข้อมูล การจัดเก็บและการประมวลผล รวมไปถึงการสื่อสารทั้งในและนอกองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รายงานของ Gartner บริษัทวิจัยและให้คำแนะนำด้านไอทีระดับโลก คาดการณ์ว่าการลงทุนด้านไอทีทั่วโลกในปี 2567 จะเติบโต 8% จากปี 2566 โดยแตะระดับ 5.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระดับ 4.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2566
ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตของการลงทุนด้านไอทีในปีนี้ คือการลงทุนในระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง ซึ่งคาดว่าจะเติบโต 24% จากปีก่อน ส่งผลให้การลงทุนในธุรกิจซอฟต์แวร์และบริการระบบไอทีเติบโตขึ้นสองหลักเช่นกัน
นอกจากนี้ ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการเติบโตของการลงทุนด้านไอทีในปีนี้ ได้แก่
- ความต้องการใช้งานระบบไอทีที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจและองค์กรต่างๆ เพื่อรองรับการทำงานและการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล (Digital Transformation)
- การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things) ที่ส่งผลให้ความต้องการใช้งานระบบไอทีเพิ่มขึ้น
- นโยบายของภาครัฐที่สนับสนุนการปรับเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy)ทั้งภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ (Digital Government)
การลงทุนด้านไอทีที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีต่อการดำเนินธุรกิจและเศรษฐกิจโลกโดยเทคโนโลยีจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจและองค์กรต่างๆ ในทุกภาคส่วน
เทรนด์เทคโนโลยีปี 2024 ขับเคลื่อนด้วย AI และความยั่งยืน
ปัจจุบันเทคโนโลยี Big Data, Cloud Computing และ Cybersecurity ยังคงมีความสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและสังคม โดย Big Data ช่วยในการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่อย่างมีประสิทธิภาพ Cloud Computing ช่วยในการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ได้อย่างยืดหยุ่น และ Cybersecurity ช่วยป้องกันการโจมตีทางด้านไซเบอร์ในรูปแบบต่างๆ
เทรนด์เทคโนโลยีปี 2024 ล่าสุด Gartner ชี้ให้เห็นว่า อนาคตของการทำงานและสังคมจะถูกขับเคลื่อนด้วยแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มที่ชาญฉลาด โดยอาศัยพลังของ AI ที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ควบคู่กับเทคโนโลยีที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ การลงทุนในระบบที่มีความเชี่ยวชาญและดีเยี่ยมเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง เนื่องจากมีผลต่อความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหาและนำเสนอโซลูชันที่มีคุณภาพสูง การวางระบบที่ดีและมีความเชี่ยวชาญจะช่วยให้หน่วยงานที่ทำการลงทุนนี้สามารถนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในกิจการอย่างเต็มประสิทธิภาพและประสิทธิผล
NAT ผู้นำด้าน Infratech ครบวงจร ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
เมื่อพูดถึงผู้เชี่ยวชาญด้าน Infratech ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ “NAT”บมจ. แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ คือหนึ่งในผู้ให้บริการชั้นนำเป็นผู้เชี่ยวชาญในการวางโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้บริการด้านเทคโนโลยีครบวงจรแก่องค์กรชั้นนำของประเทศ โดยมุ่งเน้นการนำเสนอโซลูชั่นทางเทคโนโลยีที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ด้วยประสบการณ์ดำเนินงานกว่า 20 ปี และ มีพันธมิตรที่มีผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับระดับโลก
NAT แบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่
- ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์และรับเหมาวางระบบด้าน IT ซึ่งมีสัดส่วน 98% ของรายได้ โดยครอบคลุมงานระบบโครงสร้างพื้นฐานไอที (IT Infrastructure Solution), ระบบเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐาน (Network Infrastructure Solution), ระบบคลาวด์ (Cloud Solution), ระบบการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security Solution), ระบบศูนย์ข้อมูล (Data Center Solution) และระบบการติดต่อสื่อสารแบบครบวงจร (Digital Collaboration Solution)
- ธุรกิจบริการอื่นๆ จำนวน 2% ของรายได้ ได้แก่ บริการเจ้าหน้าที่ไอที (IT Outsourcing), บริการเดินสายระบบเน็ตเวิร์ค (Cabling System), บริการงานด้านระบบภายในอาคาร (Mechanical and Electric: M&E), และบริการให้เช่าอุปกรณ์ในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับใช้ภายในสำนักงานตามที่ลูกค้าต้องการ
ในส่วนของกลุ่มลูกค้าแบ่งเป็น ลูกค้าภาครัฐ ประมาณ 85%ได้แก่ กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม และหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ และ ลูกค้าภาคเอกชน ประมาณ 15% อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์, กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน และ กลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
การทำงานของ NAT จะเข้าไปพูดคุยกับลูกค้าและทำความเข้าใจการทำงานของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศปัจจุบัน เพื่อนำมาพิจารณาถึงสิ่งที่ต้องการปรับปรุง รวมไปถึงความต้องการพัฒนาระบบในด้านต่างๆ ตามความต้องการของลูกค้า เพื่อนำเสนอโซลูชันทางเทคโนโลยีและการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด พร้อมเสริมศักยภาพการทำงานของระบบให้ครบทุกความต้องการขององค์กร ซึ่งจะส่งผลให้ประสิทธิภาพของระบบมีเสถียรภาพ สามารถติดตามผลและตรวจสอบได้ และคำนึงถึงความปลอดภัยของระบบ
นอกจากการนำเสนอโซลูชันทางเทคโนโลยี จุดเด่นที่สำคัญของ NAT คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานในระดับโลก อาทิ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีความแข็งแกร่งและเป็นอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Dell Technologies เจ้าของผลิตภัณฑ์ด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกาโดยNAT ได้รับความไว้วางใจในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระดับTitanium Partner ซึ่งเป็นระดับสูงสุด, Genesys ผู้นำด้าน Customer Experience แบบ Omnichannel ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับด้าน Cloud Contact Center โดยมีจุดเด่นการวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบ AI learning เพื่อให้ข้อมูลองค์กรที่ครบรอบด้านแก่ลูกค้าที่ใช้บริการ พร้อมทั้งรายงานผลแบบเรียลไทม์ และ Radwareผู้นำด้านเทคโนโลยี DDoS Protection และการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์นอกจากนี้ยังมีอีกหลายผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเลือกใช้ ซึ่งจะเป็นจุดเด่นในด้านการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่สามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับระบบที่ลูกค้าต้องการพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
INET Cloud คลาวด์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านไอซีที
Cloud Computing เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเราอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การศึกษา การสื่อสาร หรือความบันเทิง เทคโนโลยีนี้จึงมีแนวโน้มที่จะพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ธุรกิจเกิดใหม่และองค์กรขนาดใหญ่มีความต้องการใช้บริการ Cloud Service มากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้บริษัทที่ให้บริการ Cloud Service เติบโตอย่างรวดเร็วตามไปด้วย
ไอเน็ต ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน
โดยมีบริการครอบคลุมทุกความต้องการด้านไอซีที ตั้งแต่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ไปจนถึงการให้บริการศูนย์ข้อมูลแบบคลาวด์ ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและทันสมัยได้อย่างง่ายดาย
บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของไอเน็ต ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยให้ธุรกิจสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย อีกทั้งบริการศูนย์ข้อมูลแบบคลาวด์ ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้งานระบบไอทีได้โดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีเอง ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้บริการ
SECUEiNFO ใช้ AI ตรวจจับภัยคุกคามไซเบอร์
บริษัท ซีเคียวอินโฟ (SECUEiNFO) อีกหนึ่งผู้บริการด้านระบบรักษาความปลอดภัยอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร โดยมีบริการหลัก 4 รูปแบบ ได้แก่ Managed Security Service ให้บริการเฝ้าระวัง ตรวจจับ และแจ้งเตือนภัยคุกคามทางไซเบอร์แบบครบวงจร, Cyber Security Risk Assessment ให้บริการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์, Cyber Security Consultant ให้บริการให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัยไซเบอร์, Cyber Security Education and Awareness ให้บริการฝึกอบรมเพื่อสร้างความรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์
เทรนด์เทคโนโลยีปี 2024 ชี้ให้เห็นว่า AI และเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและสังคมในอนาคต โดยธุรกิจควรให้ความสำคัญในการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน
ผู้นำองค์กรควรประเมินศักยภาพของเทรนด์เทคโนโลยีเหล่านี้เทียบกับบริบทเฉพาะขององค์กร เช่น ธุรกิจของคุณอยู่ในอุตสาหกรรมใด มีจุดแข็งและจุดอ่อนอย่างไร มีเป้าหมายทางธุรกิจอะไรบ้าง จากนั้นจึงนำเทรนด์เหล่านี้ผสานเข้ากับแผนกลยุทธ์ระยะยาว 2-3 ปี ปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจและการดำเนินงานให้เหมาะสม
นอกจากนี้ อย่ามองเทรนด์เทคโนโลยีเหล่านี้แยกส่วน แต่เป็นเทคโนโลยีที่เสริมพลังกันและกันตัวอย่างเช่น ธุรกิจของคุณสามารถใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงเป้าหมาย ใช้ Cloud Computing เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดเก็บข้อมูล ปกป้องด้วย Cybersecurity ที่ล้ำสมัย ซึ่งบริษัทนำระบบ AI จาก IBM Security ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีศูนย์เฝ้าระวังภัยคุกคามไซเบอร์ เพื่อช่วยตรวจจับและวิเคราะห์การโจมตีได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำสูงสุด