หลักทรัพย์บัวหลวง เผยเครื่องมือสร้างกระแสเงินสดระยะสั้น “หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง” ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ลงทุน สะท้อนผ่านมูลค่าออกและเสนอขายรวมปี 2566 ที่ทำจุดสูงสุดในรอบ 9 ปี ชี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่ช่วยบริหารความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนในช่วงตลาด Sideway ระบุปัจจุบันบริษัทมีหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงให้เลือกลงทุนครบวงจรทั้งประเภท FCN, ELN Plus, ELN และ RELN โดยออกแบบเงื่อนไขให้ตอบโจทย์การลงทุนและความเสี่ยงที่รับได้ผ่านการให้แนะนำอย่างใกล้ชิดจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมืออาชีพ
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการอาวุโส กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวแย่กว่าตลาดหุ้นทั่วโลกในปี 2566 จากปัจจัยกดดันหลากหลายประการทำให้ผู้ลง ทุนมีทางเลือกการลงทุนค่อนข้างจำกัดเมื่อพิจารณาถึงโอกาสและความเสี่ยง ซึ่งในปีที่ผ่านมาเราได้พัฒนาอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุน ภายใต้แนวคิด “Investor-Centric” โดยการนำความต้องการของผู้ลงทุนมาเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่ที่สามารถตอบโจทย์สถานการณ์การลงทุนได้ดีขึ้น ด้วยการออกและเสนอขายนวัตกรรมทางการเงินใหม่อย่าง หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงประเภท Fixed Coupon Note (FCN) และประเภท
Equity Linked Note Plus (ELN Plus) เพื่อเสริมให้หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงของบริษัทมีตัวเลือกที่ครบวงจรมากขึ้น
จากที่มี Equity Linked Note (ELN) และ Reverse Equity Linked Note (RELN) อยู่แล้ว
โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงของหลักทรัพย์บัวหลวง ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ลงทุน สะท้อนผ่านมูลค่าออกและเสนอขายรวมทำจุดสูงสุดในรอบ 9 ปี สวนทางกับแนวโน้มการลงทุนในปีที่ผ่านมาที่ชะลอตัวลงแทบในทุกตลาด ซึ่งการที่มูลค่าลงทุนผ่านหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงของบริษัทสามารถปรับตัวสูงขึ้นบ่งบอกได้ถึงความต้องการของผู้ลงทุนที่มีการปรับกลยุทธ์ด้วยการสร้างผลตอบแทนเพื่อรับมือกับภาวะตลาดหุ้นไทย ผ่านการสร้างกระแสเงินสดด้วยหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงได้เป็นอย่างดี
สำหรับจุดเด่นของ Fixed Coupon Note (FCN) คือ เป็นตราสารอายุ 3-6 เดือน ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อสร้างกระแสเงินสดระยะสั้นโดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดหุ้นเคลื่อนตัวออกข้าง (Sideway) โดยผู้ลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยเป็นงวด ๆ ต่อเนื่องตลอดการถือครอง ในอัตราประมาณ 8-12% ต่อปี โดยไม่ต้องมาจับจังหวะซื้อขายหุ้นเอง ขณะเดียว กันยังมีฟีเจอร์ Knock Out ในทุกงวดที่มีการจ่ายดอกเบี้ย เพื่อเพิ่มโอกาสได้รับเงินต้นคืนก่อนกำหนดหากราคาหุ้นอ้างอิงปรับตัวสูงขึ้นจากราคา ณ วันเปิดสัญญา เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการวางแผนการลงทุน
ทั้งนี้หากระหว่างสัญญาราคาหุ้นอ้างอิงปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคา Knock In ที่โดยปกติจะต่ำกว่าราคาหุ้น ณ วันเปิดสัญญาอยู่เฉลี่ย 15-20% จะทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับคืนเป็นหุ้นอ้างอิงโดยมีต้นทุนเท่ากับราคา ณ วันเปิดสัญญา
ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนที่ยังไม่รับรู้ (Unrealized Loss) ลักษณะคล้าย ๆ กับซื้อหุ้นอ้างอิงที่ราคาวันแรก
แต่หุ้นปรับตัวลง เพียงแต่หากเป็น FCN กรณีนี้ผู้ลงทุนยังได้รับดอกเบี้ย “ทุกงวด” ตลอดการถือครอง FCN
ทั้งนี้ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ยังได้เพิ่มความแตกต่างให้ FCN ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์รอบความถี่ในการจ่ายดอกเบี้ย โดยปกติแล้วสัญญา FCN จะมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน แต่ FCN ของเราจะมีทางเลือกจ่ายดอกเบี้ยทุก 2 สัปดาห์
ทำให้ผู้ลงทุนสามารถรับกระแสเงินสดได้เร็วขึ้น ถี่ขึ้น และทำให้รอบการเกิด Knock Out เกิดถี่ขึ้นอีกด้วย โดยจะนำมาซึ่งการเพิ่มขึ้นของโอกาสที่ผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นคืนได้เร็วขึ้น เนื่องจากโอกาสในเกิดการ Knock out ที่สูงขึ้นตามกลไกข้างต้น
“ค่าเฉลี่ยของอัตราดอกเบี้ย FCN ที่ออกและเสนอขายโดยหลักทรัพย์บัวหลวงตลอดปี 2566 เท่ากับ 12.66%
ต่อปี โดยผลการลงทุน FCN ของลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวงในปี 2566 มีสัดส่วนการได้รับคืนเป็นเงินสดสูงถึง 70%
แม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลงกว่า 15% สะท้อนว่าการลงทุนใน FCN โดยผ่านการแนะนำและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดของผู้แนะนำการลงทุนมืออาชีพที่มีประสบการณ์และเข้าใจความต้องการของผู้ลงทุนแต่ละท่านที่แตกต่างกัน
ตลอดจนการออกแบบผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนและสอดรับกับสภาวะตลาดหุ้นที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงสามารถออกแบบเงื่อนไขให้เหมาะกับโจทย์การลงทุนที่คาดหวังและความเสี่ยงที่รับได้ของผู้ลงทุนแต่ละคน ทำให้ FCN เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่เข้ามาช่วยบริหารความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนให้กับผู้ลงทุน”
นายบรรณรงค์ กล่าว
สำหรับ Equity Linked Note Plus (ELN Plus) เป็นเครื่องมือการลงทุนรูปแบบใหม่ระยะสั้น 1 สัปดาห์ ที่ถูกออกแบบมาตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้นอยู่แล้วที่ราคาตลาด แต่ไม่ได้มีกลยุทธ์ซื้อขายสั้นเก็งกำไรในวัน
หรือ 1-2 วัน และมีมุมมองว่าในระยะเวลา 1 สัปดาห์ราคาหุ้นน่าจะไม่รีบปรับตัวขึ้นไป ดังนั้นแม้ว่าราคาหุ้นจะอยู่ในจุดที่ต้องการซื้อ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องรีบซื้อ ซึ่ง ELN Plus จึงถูกสร้างมาให้ตอบโจทย์สถานการณ์ดังกล่าว โดยสามารถเลือกรอซื้อหุ้นที่ชอบในราคาที่ใช่ ระหว่างรอ 1 สัปดาห์ รับผลตอบแทนค่อนข้างสูงในรูปของดอกเบี้ยเงินสด ณ วันครบสัญญา โดยหากราคาปิดหุ้นอ้างอิง ณ วันครบสัญญาสูงกว่าหรือเท่ากับราคา ณ วันเปิดสัญญา ผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ยเงินสด แต่หากราคาปิดหุ้นอ้างอิง ณ วันครบสัญญาต่ำกว่าราคา ณ วันเปิดสัญญา ผู้ลงทุนจะได้รับหุ้นอ้างอิงจำนวนเท่ากับซื้อที่ต้นทุน ณ ราคาวันเปิดสัญญา พร้อมดอกเบี้ยเงินสดเช่นกัน โดยจะเห็นว่าเมื่อครบ 1 สัปดาห์ ผู้ลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยเงินสดเสมอ ไม่ว่าจะได้ไถ่ถอนรับเงินต้นคืนเป็นเงินสดหรือหุ้นอ้างอิงก็ตาม โดยค่าเฉลี่ยของอัตราดอกเบี้ย ELN Plus ที่ออกและเสนอขายโดยหลักทรัพย์บัวหลวงตลอดปี 2566 เท่ากับ 34.70% ต่อปี
นายบรรณรงค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า จากสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันที่ยังคงมีปัจจัยกดดันและยังไม่มีแรงส่งเชิงบวกมาผลักดันตลาดอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยอาจยังอยู่ในลักษณะ Sideway บวกสลับลบ
ปริมาณการซื้อขายเบาบาง ดังนั้น FCN และ ELN Plus จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่สามารถออกแบบให้เหมาะสมกับ
ผู้ลงทุนแต่ละท่านในการแสวงหาผลตอบแทนช่วงตลาดหุ้นไร้ทิศทางปัจจัยหนุนได้อย่างหมาะสมกับความคาดหวังและความเสี่ยงที่รับได้ อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ FCN และ ELN Plus เป็นตราสารที่ไม่มีการคุ้มครองเงินต้น
ผู้ลงทุนจึงควรทำความเข้าใจเงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้แนะนำการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้แนะนำการลงทุนของท่าน หรือ BLS Customer Service โทร. 0 2618 1111