ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดเลือกผู้แทนประเทศไทยของกระทรวงมหาดไทยเพื่อเข้ารับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 “ผู้นำระดับประเทศด้านการพัฒนาชนบทและขจัดความยากจนประจำปี 2566 ประเภทองค์กรธุรกิจเอกชน (Private Sector) จาก โครงการตังค์โต Know-how ซึ่งสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นต่อชุมชนและคุณภาพชีวิตของสมาชิกชุมชน ทั้งยังขับเคลื่อนโครงการฯ โดยคำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ชุมชนและสังคม และปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ดำเนินงานอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ซึ่งเป็นกลไกนำไปสู่ความยั่งยืน โดยนายวิญญู ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เข้ารับรางวัลจากนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยณ อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย
นายวิญญู ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธนาคารฯ มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม (Environment) ใส่ใจรับผิดชอบต่อสังคม (Social) และยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล (Governance) อย่างต่อเนื่องทั้งยังมุ่งปลูกจิตสำนึกให้ผู้บริหารและพนักงานทุกคนมีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างจริงจังเพื่อช่วยเหลือสังคมและผู้ด้อยโอกาสการได้รับคัดเลือกฯ เป็นอีกก้าวหนึ่งของความสำเร็จของธนาคารฯ และสร้างความภาคภูมิใจให้แก่พนักงานทุกคน อีกทั้งยังเป็นกำลังใจและแรงผลักดันให้เรามุ่งมั่นในการทำงาน และสร้างสรรค์โครงการเพื่อสังคมต่อไปในอนาคต”
โครงการตังค์โต Know-howมี 4 หลักสูตร แต่ละหลักสูตรออกแบบพิเศษเพื่อให้เหมาะกับผู้เรียน ได้แก่ 1) หลักสูตรบริหารการเงินเพื่อธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย 2) หลักสูตรบริหารการเงินส่วนบุคคลสำหรับพนักงานบริษัท 3) หลักสูตรตังค์โตเดอะติวเตอร์สำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และ 4) หลักสูตรบริหารการเงินเพื่อความมั่นคงในอนาคตสำหรับเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา โครงการตังค์โต Know-how ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก มีผู้เข้าร่วมฝึกอบรมกว่า 170,000 คน
นอกจากนี้ ธนาคารฯ ยังจัดให้มีโครงการฝึกอบรมพิเศษเน้นให้ความรู้ด้านการเงินและด้านวิชาชีพ สำหรับเกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย และสมาชิกชุมชนในจังหวัดต่างๆ ผ่านโครงการเพื่อสังคมของมูลนิธิไทยเครดิตเพื่อเสริมสร้างวินัยทางการเงิน เสริมอาชีพ สร้างรายได้ และช่วยลดปัญหาความยากจน เพราะสำหรับธนาคารไทยเครดิต “Everyone Mattersทุกคนคือคนสำคัญ””
“เราขอสัญญาว่าจะเดินหน้าโครงการและกิจกรรมเพื่อสังคมต่อไปและขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสร้างผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและการเติบโตอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการใส่ใจในสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล และยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัดเพื่อนำพาไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” นายวิญญู กล่าว