กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2567 มีกำไรสุทธิจำนวน 7,543 ล้านบาท ลดลง 13.1% จากไตรมาสแรกของปี 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการตั้
ธนาคารยังคงสนับสนุนการเติ
สรุปผลประกอบการและฐานะการเงิ
-
กำไรสุทธิ จำนวน 7,543 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี 2567 ลดลง 13.1% หรือจำนวน 1,133 ล้านบาท จากไตรมาสแรกของปี 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้
นของการตั้งสำรอง ภายใต้ นโยบายการบริหารความเสี่ ยงรอบคอบระมัดระวัง เพื่อรองรับความผันผวนที่ อาจกระทบคุณภาพสินเชื่อในอนาคต ทั้งในประเทศและต่างประเทศ -
เงินให้สินเชื่อรวม ลดลง 0.9% หรือจำนวน 17,252 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2566 โดยมีปัจจัยหลั
กมาจากการปรับตัวลดลงตามฤดู กาลของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และสินเชื่อเพื่อรายย่อย ในขณะเดียวกันสินเชื่อเพื่อ ธุ รกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสินเชื่ออาเซียนยังคงเติ บโตที่ 2.7% และ 4.0% ตามลำดับ - เงินรับฝาก เพิ่มขึ้นอย่างมีนั
ยสำคัญ 8.9% หรือจำนวน 164,500 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้ นของเงินรับฝากประจำ - ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 4.16% เพิ่มขึ้นจาก 3.35% ในไตรมาสแรกของปี 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเติ
บโตของยอดคงค้างของสินเชื่อที่ ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งเป็นผลมาจากการควบรวมกิ จการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในต่ างประเทศในไตรมาสที่ สองและไตรมาสที่สี่ของปี 2566 และจากการเพิ่มขึ้นของอั ตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ - รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้
น 26.9% หรือ 2,383 ล้านบาท จากไตรมาสแรกของปี 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากรายได้ค่ าธรรมเนียมและบริการสุทธิ จากกิจการสินเชื่อเพื่อผู้บริ โภคที่ควบรวมมาในไตรมาสที่ สองและไตรมาสที่สี่ของปี 2566 - อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้
ปรับตัวดีขึ้นสู่ 43.0% จาก 44.4% ในไตรมาสแรกของปี 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการควบคุ มค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานที่ มีประสิทธิภาพ - อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้
เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ที่ 2.69% เมื่อเทียบกับ 2.53% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566 ขณะที่การตั้งสำรองอย่ างรอบคอบระมัดระวั งโดยเฉพาะสำหรับบริษัทลูกในต่ างประเทศ ส่งผลให้สัดส่วนการตั้งสำรองต่ อสินเชื่อรวมปรับสูงขึ้นสู่ระดั บที่ 248 เบสิสพอยท์ ในไตรมาสแรกของปี 2567 หากไม่รวมพอร์ตโฟลิโอของสินเชื่ ออาเซียน อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้ เกิดรายได้อยู่ที่ 2.30% - อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่
อด้อยคุณภาพ อยู่ในระดับแข็ งแกร่งที่ 141.5% - อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรั
พย์เสี่ยง (ของธนาคาร) อยู่ที่ 18.08% เทียบกับ 18.24% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566
นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่
“ภายใต้บริบทความท้าทายดังกล่าว กรุงศรียังคงมีบทบาทที่สำคั
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 กรุงศรี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่