MI GROUP นำทัพโดยนายภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางสาววรินทร์ ทินประภา ประธานเจ้าหน้าที่เพื่อการเติบโตองค์กร บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ กรุ๊ป จำกัด ตอกย้ำความสำคัญของ Data-Driven Insights และ Creativity ในการทำการตลาดยุค Marketing 6.0 ด้วย MI LEARNLAB ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยและศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับสื่อและพฤติกรรมเชิงลึกของผู้บริโภค ภายใต้ MI GROUP
นางสาววรินทร์ ทินประภา ประธานเจ้าหน้าที่เพื่อการเติบโตองค์กร จาก MI GROUP กล่าวว่า “โจทย์การวางแผนด้านกลยุทธ์การสื่อสาร การตลาด และการหาไอเดียต่างๆ ไม่เคยหยุดนิ่ง และนักการตลาดต้องพบเจอกับความ
ท้าทายในการต้องวางแผนแคมเปญล่วงหน้าอยู่เสมอ แต่สิ่งหนึ่งที่คงความสำคัญที่สุดไม่เคยเปลี่ยนคือ Consumer Insight ซึ่งทาง MI GROUP มีทีม MI LEARNLAB ในการทำวิเคราะห์ Data วิจัยเชิงลึกและทันสถานการณ์ ทำให้ล้วงลึก Consumer Insight คาดการณ์ Media Trend และมองภาพ Media Landscape ได้อย่างไม่พลาดเป้า ทำให้ทีม Communication Strategists สามารถนำ Data-Driven Insight มาปรับใช้กับ Creativity พัฒนากลยุทธแคมเปญและต่อยอดให้กับแบรนด์ต่างๆที่ให้ความไว้วางใจเราเป็น Trusted Advisor“
จึงส่งผลให้ MI GROUP ยกทีมตบเท้าเข้ารับรางวัลจากเวที MAAT Media Awards 2024 ประกาศความสำเร็จหลังคว้ารางวัลจากสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย จากการส่งเข้าประกวด 26 ผลงาน โดยมีผลงานที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย (Finalists) ถึง 12 ผลงาน และสามารถคว้ารางวัล MAAT Awards ในสาขาต่างๆ ได้ถึง 4 ผลงาน ได้แก่
– Twelve Plus Aura Brighten The Moments เข้าชิง Effectiveness Awards และคว้า Silver Award
– Oh My DOS! เข้าชิง Best Use of Social Awards และคว้า Silver Award
– Rabbit Chemical Fertilizer on Tiktok เข้าชิง Best Use of Social Awards และคว้า Bronze Award
– Sprinkle Redesign to Reduce เข้าชิง Best Media Strategy Awards และคว้า Bronze Award
นางสาววรินทร์ กล่าวถึงผลงานบางส่วนที่ชนะรางวัล ว่า
Twelve Plus เป็นผู้ท้าชิงตลาดโรลออนสำหรับผู้หญิงที่ตามหลัง 2 แบรนด์ยักษ์ใหญ่ ซึ่งครองส่วนแบ่งการใช้เงินในตลาดถึง 90% ในขณะที่ Twelve Plus ใช้งบประมาณเพียงแค่ 5% ของตลาด
ทาง MI GROUP จึงทำการสำรวจพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายและวิเคราะห์หาโอกาสเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด และค้นพบว่า ซีรีส์วาย หรือ Boys’ Love Series เป็นกระแสที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดและมีหลายสินค้า ได้นำไปปรับใช้ในแผนการตลาดจนประสบความสำเร็จ
ซึ่งทีมงานได้วิจัยและศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและความนิยมเชิงลึกเพิ่มเติม และได้ค้นพบว่า Girls’ Love Series หรือ ซีรีส์ Yuri กำลังเริ่มเป็นกระแส จากยอด Search หรือ Trend บน X ดังนั้นTwelve Plus จึงร่วมมือกับ Freen และ Becky จากซีรีส์ “ทฤษฎีสีชมพู” ซึ่งเป็นซีรีส์ Yuri เรื่องแรกในประเทศไทย ร่วมกันจัดทำกิจกรรมทางการตลาด เช่น จัดทำมิวสิควิดีโอ “Marry Me” และจัดงานพบปะแฟน ๆ
ผลลัพธ์จากแคมเปญนี้ช่วยทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของ Twelve Plus สามารถแซงหน้าขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในตลาดโรลออนสำหรับผู้หญิง และมิวสิควิดีโอ “Marry Me” ก็ได้รับความนิยมสูง มีการเข้าชมมากกว่า 2 ล้านครั้งและยอด like สูงถึง 120,000 ครั้งในวันแรกของการเปิดตัว
สำหรับ DOS แบรนด์ผลิตภัณฑ์ถังเก็บน้ำที่เป็นผู้นำนวัตกรรมและผู้นำตลาด แบรนด์ต้องการให้ถังน้ำ DOS ถูกจดจำและเป็นแบรนด์แรกที่นึกถึงโดย End User หรือเจ้าของบ้าน และมุ่งให้เป็นหนึ่งในปัจจัยของการเลือกซื้อบ้านจัดสรร เพื่อสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายว่าการที่น้ำสะอาดจะส่งถึงชีวิตที่ดี ภายใต้ Life in Harmony
ด้วยความร่วมมือกับ DOS ทาง MI GROUP วางกลยุทธเล็งกลุ่ม Modern Family ที่ใส่ใจในความสะอาดของน้ำ ที่ครอบคลุมตั้งแต่กลุ่มครอบครัวไปจนถึง New Gen ซึ่งมีพฤติกรรมที่แตกต่างทั้งการซื้อสินค้าและการเสพสื่อ ทีมได้ทำวิจัยทางด้านมีเดียเพื่อหาจุดร่วมของกลุ่มเป้าหมาย และมีการใช้ครอบครัวของบีม กวี ซึ่งมีฐานแฟนคลับใน Social Media ที่หลากหลาย และใช้มิวสิควิดีโอเพื่อนำไปสู่ Brand Love จากนั้นจึงใช้ Tiktok เพื่อจัด Dance Challenge ในรูปแบบที่คน New Gen เปิดรับ รวมไปถึงการ Collaborate กับ Influencers หลากหลายเพื่อที่จะสร้าง Brand Love ในทุก Platforms
Brand ได้การตอบรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น MV ที่ได้รับ View ถึง 1M Views ใน 7 วันแรก รวมไปถึง Positive Comments ที่สื่อถึง Brand และ MV ในทุก Social Media นอกจากนั้นยังได้เลื่อนอันดับ Thailand Social Awards จากที่ 24 มาเป็นอันดับที่ 5 ในกลุ่ม Category ที่เป็นกลุ่มอุปกรณ์สร้างบ้าน จากที่มีการ Consistent Posting Content ในทุก platform ส่งผลให้เกิด Positive Brand Image และคนกลุ่มกว้างได้รู้จักแบรนด์ DOS มากยิ่งขึ้น
นายภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MI GROUP กล่าวว่า “ตนและทีมงานรู้สึกดีใจที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากเวทีนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ซึ่งเป็นกำลังใจและเป็นสิ่งตอกย้ำถึงหัวใจหลักในการทำงานที่ทีม MI GROUP ยึดถือเป็น DNA ซึ่งก็คือการมุ่งหวังประสิทธิผลสูงสุดของการวางแผนสื่อและช่องทางการสื่อสารและยังสามารถคิดนอกกรอบได้ตามสถานการณ์อย่างทันท่วงที นั่นคือ หลักการ 3 A อันได้แก่ Aware การรู้ลึก รู้จริงถึงแก่นของสิ่งที่ทำ เช่นการมีทีม MI LEARNLAB ที่คอยศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล Adapt คือ การทำงานของทีมงานทุกแผนกจะมีความเป็น Partnership มีการปรับตัวรวดเร็วตลอดเวลา และ Agility ความปราดเปรียวในการทำงาน จับกระแสเทรนด์ที่เปลียนแปลงอย่างรวดเร็วแล้วนำมาพัฒนาต่อยอด สร้างกลยุทธ์ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว