‘บมจ. บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค หรือ BLC’ ประเมินแนวโน้มอุ ตสาหกรรมยาในไทยเติบโตต่อเนื่อง จากเทรนด์ด้านสุขภาพ สังคมผู้สูงอายุ และความเสี่ยงจากมลภาวะ หนุนจำนวนร้ านขายยาและยอดขายขยายตัว เล็งออกผลิต ภัณฑ์ใหม่ และสื่อสารการตลาดเชิงรุก ผลักดันเป้ารายได้จากช่องทางร้ านขายยาโต 20-25% พร้อมโชว์ศักยภาพผู้ผลิตและจั ดจำหน่ายยาแผนปัจจุบัน สมุนไพรนวัตกรรม และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ในงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 สมาคมผู้ประกอบการร้ านยารวมใจไทย และงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 สมาคมร้านขายยา หรือมหกรรมแสดงสินค้าร้านยาแห่ งชาติ ครั้งที่ 2 เพื่อร่วมขับเคลื่อนสุ ขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีให้สั งคมไทยอย่างยั่งยืน
ภก.พงษ์รพี สุขเจริญเวช นายกสมาคมผู้ประกอบการร้ านยารวมใจไทย (ชมรมร้านขายยาแห่งประเทศไทย) เปิ ดเผยว่า ภาพรวมมูลค่าการใช้จ่ายด้านสุ ขภาพของคนไทยในปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยเชิงบวกของโครงสร้ างประชากรของไทยที่เข้าสู่สั งคมสูงอายุ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่ างรวดเร็วจากภาวะโลกแปรปรวน ปัญหามลภาวะทางอากาศ ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านสุ ขภาพเพิ่มขึ้น รวมทั้งการใส่ใจสุ ขภาพของประชาชนที่หันเข้ามาดู แลสุขภาพเชิงป้องกันมากขึ้น โดยปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ธุรกิ จร้านขายยา หนึ่งในช่องทางสำคัญที่จะได้รั บ อานิสงส์เชิงบวกจากการใช้จ่ ายของประชาชนที่ต้องการเข้าถึ งยา เวชภัณฑ์และสินค้าสุขภาพ เพื่อรักษาการเจ็บป่วยเบื้องต้ นและการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน
ในปีที่ผ่านมา สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่ งชาติ (สปสช.) ได้จัดให้มีการเข้าไปรับยาจากร้ านขายยาโดยไม่ต้องตรวจโรคสำหรั บอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ (16 common illnesses) เช่น ไข้หวัด ไอ เจ็บคอ ปวดท้อง ปวดเมื่อย เป็นต้น และคาดว่าในปี 2567 จะมีการขยายการเบิกยาที่ร้ านขายยาเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมตลาดร้ านขายยาในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่ าอยู่ที่ 80,000 ล้านบาท หรืออัตราการเติบโตประมาณ 7% (ที่มา : IQVIA) ที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของอุ ตสาหกรรมยาภายในประเทศ
“ในวาระครบรอบ 50 ปี สมาคมผู้ประกอบการร้ านยารวมใจไทย (ชมรมร้านขายยาแห่งประเทศไทย) สมาคมยังมีเป้าหมายในการดำเนิ นงานเพื่อเสริมสร้างความสามัคคี และความสัมพันธ์อันดีในหมู่ มวลของสมาชิกสมาคมในทุกภูมิ ภาคของประเทศไทย ยกระดับมาตรฐานร้านขายยา ร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุ ดและประชาชนและสังคม รวมทั้งช่วยเหลือและแก้ไขปั ญหาอุปสรรคต่างๆ ของสมาชิก รองรับการเปลี่ยนแปลง เสริมสร้างศักยภาพการเติบโต และสร้างความมั่นคงทางด้านสุ ขภาพให้แก่ประเทศไทยอย่างยั่งยื น” ภก.พงษ์รพี กล่าว
ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุ บัน ประเภทยาสามัญ และยาสามัญใหม่ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์ยาสำหรับสัตว์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริ มอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ กล่าวว่า BLC ดำเนินธุรกิจด้วยความตั้งใจให้ คนไทยเข้าถึงยาคุณภาพดี สร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ คนไทย โดยกลุ่มบริษัทฯ ได้ให้ความร่วมมือกับสมาคมร้ านยา เพื่อผลักดันให้ร้านขายยาเป็ นหน่วยงานส่งเสริมสุขภาพ ด้วยการวิจัย พัฒนา และผลิตยาแผนปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และสมุนไพรนวัตกรรม ด้วยคุณภาพการผลิตที่มี มาตรฐานระดับสากล เพื่อเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนอุ ตสาหกรรมยาของประเทศไทยให้เติ บโตอย่างยั่งยืน ดังนั้น กลุ่มบริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการเข้าร่ วมกิจกรรมของสมาคมร้านขายยาอย่ างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ งให้แก่อุตสาหกรรมยา ในฐานะหนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิ ตและจำหน่ายยาแผนปัจจุบัน และผลิตภัณฑ์สุขภาพครบวงจร โดยร่วมงานประชุมใหญ่สามั ญประจำปี 2567 สมาคมผู้ประกอบการร้ านยารวมใจไทย และงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 สมาคมร้านขายยา หรือมหกรรมแสดงสินค้าร้านยาแห่ งชาติ ครั้งที่ 2 เพื่อสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ที่ดีให้สั งคมไทย
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้จากช่องทางร้ านขายยาเติบโต 20-25% จากปีก่อนที่มีรายได้ จากช่องทางร้านขายยาที่ 754 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 54% จากรายได้รวม ผ่านแผนมุ่งเน้นการจำหน่ายผลิ ตภัณฑ์ใหม่ ทั้งยาแผนปัจจุบัน และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary Supplements) อาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากนวั ตกรรมสมุนไพรกระชายดำ KACHAA Group, ซินไบโอติกผสานสารสกัดธรรมชาติ เป็นต้น โดยจะผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภั ณฑ์ที่มีอัตราการทำกำไรที่ดี และมีดีมานด์เติบโตสูงในเทรนด์ ด้านสุขภาพ พร้อมสื่อสารการตลาดเชิงรุกเพื่ อสร้างความตระหนักรู้ในการดู แลสุขภาพให้แก่ประชาชน ผ่านช่องทางจำหน่ายร้านขายยา และโรงพยาบาลในเครือข่ายพันธมิ ตรของ BLC ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 8,000 ร้าน รวมทั้งจะขยายช่องทางการจั ดจำหน่ายร้ านขายยาและโรงพยา บาลมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตตามเป้ าหมายที่วางไว้