ไมเนอร์ โฮเทลส์ (Minor Hotels) บริษัทผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมระดับโลก ทั้งในฐานะเจ้าของ ผู้บริหาร และผู้ลงทุน ซึ่งปัจจุบันมีโรงแรมมากกว่า 540 แห่งใน 56 ประเทศ เร่งเดินหน้ารุกตลาดการท่องเที่ยวและบริการในประเทศอินเดีย โดยตั้งเป้าเปิดโรงแรมใหม่ 50 แห่งภายใน 10 ปี
กลยุทธ์การบุกตลาดอินเดียของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ จะเน้นไปที่กลุ่มโรงแรมระดับบน (upper-upscale) และกลุ่ม ลักซ์ชูรี (luxury) โดยเชื่อว่าแบรนด์ชั้นนำที่เป็นที่รู้จักกันดีของกลุ่ม อันได้แก่ อนันตรา อวานี และเอ็นเอช คอลเลคชั่น จะได้รับความสนใจอย่างมากจากเจ้าของกิจการในอินเดีย
สำหรับแบรนด์ที่มีแก่นที่โดดเด่นและแตกต่างอย่าง อนันตรา โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท (Anantara Hotels & Resorts) เป็นแบรนด์ที่เหมาะกับโรงแรมในกลุ่มสถานบำบัดเพื่อสุขภาพแบบอายุรเวท ที่พักท่ามกลางธรรมชาติ และปราสาทราชวังอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ในขณะที่แบรนด์ อวานี โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท (Avani Hotels & Resorts) จะเข้าไปเติมเต็มช่องว่าง ทางการตลาดของกลุ่มโรงแรมไลฟ์สไตล์ในประเทศอินเดีย ส่วนแบรนด์ที่เชื่อว่าจะดึงดูดโอกาสทางธุรกิจจากกลุ่มโรงแรมตลาดระดับบน จะเป็นแบรนด์ เอ็นเอช คอลเลคชั่น โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท (NH Collection Hotels & Resorts)
นอกจากนี้ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังเล็งเห็นถึงโอกาสสำหรับแบรนด์โรงแรมกลุ่มตลาดอัพสเกล (upscale) อย่าง เอ็นเอช โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท (NH Hotels & Resorts) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองรองและเมืองที่มีสนามบินซึ่งมีการพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว
ไมเนอร์ โฮเทลส์ จะมองหาโอกาสธุรกิจแบบสัญญาบริหารจัดการโรงแรม และเน้นโครงการพัฒนาใหม่ (Greenfield developments) ในจุดหมายปลายทางหรือทำเลที่กำลังมาแรง เพื่อสานต่อกลยุทธ์ในการสร้างจุดหมายปลายทางที่เป็นรากฐานขององค์กรมาอย่างยาวนานตลอด 46 ปี
มร. อาเมียร์ โกลบาร์ก (Amir Golbarg) รองประธานอาวุโส ประจำตะวันออกกลาง แอฟริกา และอินเดีย ของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ กล่าวว่า “เรามีความมั่นใจในศักยภาพของตลาดอินเดีย และได้รับความสนใจจากเจ้าของธุรกิจอย่างล้นหลาม โดยเราเน้นแนวทางความร่วมมือในแบบ ‘หุ้นส่วนสูงกว่าอสังหาริมทรัพย์’ (partnership over properties) ซึ่งหมายความว่าเราพิถีพิถันในการคัดเลือกโรงแรมที่จะนำเข้ามาอยู่ในพอร์ตโฟลิโอของเรา โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรที่มีค่านิยมและวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับเรา จุดแข็งของไมเนอร์อยู่ที่ความสามารถในการคิดธุรกิจระดับโลก และนำความคิดนั้นมาดำเนินการในระดับท้องถิ่น โดยเราสามารถนำมาตรฐานและวิธีการดำเนินงานต่าง ๆ มาปรับให้เหมาะสมกับแต่ละตลาดที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เราเชื่อว่าช่วยให้เรามีความได้เปรียบเป็นอย่างมากในการทำธุรกิจในอินเดีย”
ไมเนอร์ โฮเทลส์ เริ่มเข้าสู่ตลาดอินเดียในปี 2560 ด้วยการเปิดตัวโรงแรม โอ๊คส์ พุทธคยา (Oaks Bodhgaya) ในรัฐพิหาร (Bihar) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และเตรียมสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในปลายปีนี้ ด้วยการเปิดตัวโรงแรม อนันตรา จัยปูร์ (Anantara Jaipur Hotel) ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวแบรนด์โรงแรมหรูในเครือ แห่งแรกในประเทศอินเดีย
เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังได้เปิดสำนักงานแห่งใหม่ในเมืองบังกาลอร์ (Bengaluru) ซึ่งตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการดำเนินธุรกิจในระยะยาวในอินเดีย โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางกลุ่มได้แต่งตั้ง มร. วิเจย์ กฤษณัน (Vijay Krishnan) เข้ามาดำรงตำแหน่ง รองประธานฝ่ายปฏิบัติการ ของอินเดีย ทำหน้าที่ดูแลภาพรวมการดำเนินงานต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ กลยุทธ์การเปิดสำนักงานถาวรในบังกาลอร์ ยังแสดงถึงการวางตำแหน่งของไมเนอร์ โฮเทลส์ ในระดับแถวหน้าของการเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ในอินเดียตอนใต้ ซึ่งคาดการณ์ว่ามีศักย ภาพในการเติบโตที่สูงมากในภูมิภาคนี้
มร. ดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (SET:MINT) กล่าว “เรามีความเชื่อมั่นในตลาดอินเดีย เชื่อในศักยภาพของอินเดียในการเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวขาเข้าระดับโลก เรายังเชื่อมั่นในโอกาสทางธุรกิจอีกมากมายในตลาดภายในประเทศที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว นี่คือสาเหตุที่เราทุ่มลงทุนในการดำเนินธุรกิจของเราที่นั่น และเราจะยังคงลงทุนต่อเพื่อบรรลุความมุ่งมั่นของเราในการเติบโตในตลาดอินเดีย ด้วยประสบการณ์ที่เต็มเปี่ยมของเราในการบริหารโรงแรมระดับโลกในจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ บวกกับการที่แบรนด์โรงแรมต่าง ๆ ของเราเป็นที่รู้จักอย่างดีในตลาดอินเดีย เราจึงมั่นใจว่าความสามารถของเราจะมีบทบาทสำคัญในความสำเร็จอันต่อเนื่องของธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศอินเดีย”
แบรนด์โรงแรมในเครือ ไมเนอร์ โฮเทลส์ นับเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตลาดต่างประเทศที่เติบโตเร็วที่สุดขององค์กรโดยเฉพาะสำหรับแบรนด์อนันตรา โดยมีอัตราการเข้าพักโรงแรมในเครือทั่วเอเชียและตะวันออกกลางสูงขึ้นถึง 72% ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2565 และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอีกในปี 2567 โดยในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 36% จากปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังเป็นสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรโรงแรมสากล หรือ GHA DISCOVERY (GHA) ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรแบรนด์โรงแรมอิสระที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งรายได้ที่เกิดจากโรงแรมในกลุ่ม GHA ประเทศอินเดีย ทำสถิติสูงสุดที่ 68 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 โดยล่าสุดจำนวนสมาชิกของ GHA ในอินเดียยังเพิ่มขึ้นถึง 500,000 ราย หรือสูงขึ้น 21% เมื่อเทียบเป็นรายปี นอกจากนี้ สมาชิกจากประเทศอินเดียยังใช้จ่ายในโรงแรมในเครือ GHA มากขึ้นในปีที่แล้ว ซึ่งสร้างรายได้ให้กับโรงแรมเป็นประวัติการณ์ที่ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบเป็นรายปี
จากการวิจัยของ GHA พบว่าในปี 2567 สมาชิกจากประเทศอินเดียกำลังวางแผนการเดินทางเพื่อการพักผ่อนโดยเฉลี่ยคนละ 4 ทริป พักผ่อนใกล้ ๆ บ้านหรือแบบ Staycation 3 ครั้ง และเดินทางเพื่อธุรกิจ 5 ครั้ง โดยจุดหมายปลายทาง 3 อันดับแรก ได้แก่ ยุโรป ไทย และมัลดีฟส์ ซึ่งไมเนอร์ โฮเทลส์ เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดในแต่ละตลาดเหล่านี้ โดยมีโรงแรมมากกว่า 300 แห่งในยุโรป 25 แห่งในไทย และ 7 แห่งในมัลดีฟส์
กลยุทธ์การเติบโตของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ในอินเดีย เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายธุรกิจไปทั่วโลกขององค์กร ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มโรงแรมมากกว่า 200 แห่งในสามปีข้างหน้า