Ted Sarandos ซึ่งเป็น CEO ร่วมของ Netflix ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ New York Times โดยกล่าวถึงธุรกิจของบริษัทและมองว่าบริษัทยังไม่ใช่ผู้ชนะสงครามวิดีโอสตรีมมิ่ง และมองว่าเป็นเรื่องระยะยาว ขณะเดียวกันการเข้ามาของ AI ไม่ได้ทำให้คนวงการบันเทิงตกงาน แต่มองว่าคนที่ใช้เทคโนโลยี AI ได้ดีอาจแย่งงานของคุณได้
Ted Sarandos ซึ่งเป็น CEO ร่วมของ Netflix ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ New York Times โดยเขาได้ให้มุมมองในเรื่องสงครามของบริการวิดีโอสตรีมมิ่งนั้นยังไม่ได้จบ และไม่ได้มองว่าบริษัทเป็นผู้ชนะในเกมนี้ ขณะเดียวกันการเข้ามาของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เองก็ไม่ได้ทำให้คนวงการบันเทิงตกงานแต่อย่างใด
สำหรับ CEO ร่วมของ Netflix รายนี้เข้ารับตำแหน่งในปี 2020 โดยเป็น CEO ร่วมกับ Reed Hastings ก่อนที่ Reed จะลงจากตำแหน่งในปี 2023 และบริษัทได้ตั้ง CEO ร่วมคนใหม่มาคู่กับตำแหน่งของ Ted นั่นก็คือ Greg Peters
สื่อรายดังกล่าวได้ถามถึง Ted ในประเด็นที่ว่าในปัจจุบัน Netflix เป็นผู้ชนะในสงครามวิดีโอสตรีมมิ่ง ซึ่งเขาชี้ว่าเขาเองไม่อยากจะจริงจังในเรื่องนี้มากนัก และเขาได้เล่าว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้ถูกตราหน้าว่าจะเป็นผู้แพ้ในสงครามครั้งนี้ด้วยซ้ำ
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์หรือคนทั่วไปมองว่า บริษัทด้านความบันเทิงหลายแห่งที่เป็นผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งนั้นหลายคนมองว่าไม่น่าจะเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้เช่นเดียวกับ Netflix และพวกบริษัทเหล่านี้ไม่มีวันที่จะเข้าใจธุรกิจ เขายังกล่าวเสริมว่าทุกวันนี้นั้นทุกอย่างแตกต่างกันไปมาก บริษัทเหล่านี้เข้าใจเรื่องเทคโนโลยี
ขณะเดียวกันเขาเองได้เล่าถึงวันที่ Netflix ยังเป็นบริษัทให้เช่าวิดีโอ ก่อนที่บริษัทจะเปลี่ยนธุรกิจมาเป็นวิดีโอสตรีมมิ่งนั้นเพราะบริษัทมีเป้าหมายอย่างชัดเจน ซึ่งในช่วงเวลาหนึ่ง CEO ร่วมของ Netflix นั้นเล่าถึงการประชุมของบริษัทจะไม่มีการเชิญพนักงานที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ DVD มาพูดคุยเลย เนื่องจากบริษัทรู้ถึงจุดหมายปลายทางขององค์กร
CEO ร่วมของ Netflix ยังเล่าถึงการที่บริษัทด้านความบันเทิงหลายแห่งในตอนนี้กำลังประสบกับความท้าทายเนื่องจากบริษัทต้องการที่จะปกป้องธุรกิจเดิมของตนเอง และเขากล่าวว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากและไม่ควรที่จะลงทุนในธุรกิจแบบเดิมๆ
ในส่วนการเข้ามาของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) นั้นจะสร้างผลกระทบต่อคนในวงการบันเทิงหรือไม่ CEO ร่วมของ Netflix คิดว่าการเข้ามาของ AI ถือเป็นความก้าวหน้าตามธรรมชาติของสิ่งต่างๆ และมองว่าคนเขียนบท ผู้กำกับสามารถใช้เทคโนโลยีดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นได้
เขายังกล่าวเสริมในเรื่องดังกล่าวว่า ให้ลองนึกภาพในกรณีที่เอาสิ่งที่เป็นไปไม่ได้มาทำให้เป็นไปได้ เช่น การวาดภาพแอนิเมชั่นที่ในอดีตทำได้ยาก แต่ปัจจุบันสามารถทำได้ เขายังมองว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านความบันเทิงทุกอย่างจึงมีการต่อสู้กัน และท้ายที่สุดกลับกลายเป็นว่าสิ่งดังกล่าวนั้นทำให้อุตสาหกรรมนั้นเติบโต
นอกจากนี้เขายังทิ้งท้ายว่าเขายังมีศรัทธาในตัวมนุษย์ AI ไม่สามารถที่จะสู้กับนักเขียนบทที่เก่งกาจและยอดเยี่ยมได้ แต่เขามองว่าคนที่ใช้เทคโนโลยี AI ได้ดีอาจแย่งงานของคุณได้