CEO ของ ‘โซนี่’ ได้ประกาศถึงทิศทางของบริษัทหลังจากนี้โดยจะเน้นไปยังธุรกิจด้านความบันเทิงเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น เพลง ภาพยนตร์ อนิเมะ รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันธุรกิจข้างต้นสร้างรายได้ให้บริษัทมากกว่า 60% ของรายได้รวมบริษัทในปีล่าสุด
ในอดีตเราอาจเคยได้ยินชื่อสินค้าของ Sony หลากหลายชนิด อย่างไรก็ดีในช่วงเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับเปลี่ยนธุรกิจมาเน้นความบันเทิงมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกันผู้บริหารสูงสุดของบริษัทญี่ปุ่นรายนี้ก็ได้ยืนยันทิศทางของบริษัทว่าจะยังเดินหน้าในเรื่องของความบันเทิงต่อ
Kenichiro Yoshida ซึ่งเป็น CEO ของ Sony ได้ประกาศถึงทิศทางบริษัทในอนาคตว่าจะเน้นไปยังอุตสาหกรรมที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมบันเทิง ไม่ว่าจะเป็น เกม ภาพยนตร์ เพลง อนิเมะ หรือแม้แต่ทรัพย์สินทางปัญญหาที่เกี่ยวข้อง มากกว่าที่จะเน้นไปยังการผลิตอุปกรณ์แบบเดิมๆ
CEO ของ Sony กล่าวว่า บริษัทกำลังกำลังช่วยเหลือพนักงานในการสร้างสรรค์ เพื่อที่จะนำเสนอสิ่งที่เขาเรียกว่า “Kando” ซึ่งมาจากคำศัพท์ญี่ปุ่นที่แปลว่าประสบการณ์ที่น่าประทับใจ มากกว่าการผลิตสินค้าหรืออุปกรณ์แบบเดิมๆ เช่น เครื่องเล่นเพลง Walkman หรือแม้แต่โทรทัศน์
เขายังมองว่าการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์กับความบันเทิงไม่ได้เกิดขึ้นต่อไปแล้ว แต่มองว่าเกิดจากทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น เกม ภาพยนตร์ เพลง หรือแม้แต่ อนิเมะ และบริษัทจะสนับสนุนในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ของพนักงาน
นอกจากนี้เขาเองยังกล่าวว่าบริษัทมีแผนที่จะส่งออกอนิเมะญี่ปุ่นไปยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น และเขากล่าวว่าบริษัทต้องการที่จะมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมนี้ด้วยเช่นกัน
ในส่วนสินค้าที่บริษัทจะโฟกัสไปยังการผลิตนั้นมีเพียงเซ็นเซอร์รับภาพ ซึ่งชิ้นส่วนดังกล่าวนั้น Sony เป็นผู้นำในตลาด และผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือหลายรายได้ใช้ชิ้นส่วนของบริษัทอยู่ และมองว่าการโฟกัสไปยังชิ้นส่วนดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัท เนื่องจากเซ็นเซอร์รับภาพเป็นอุปกรณ์สำคัญเกี่ยวกับความบันเทิง
ปัจจุบัน Sony มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจเกมมากถึง 30% ธุรกิจเพลงราวๆ 12% ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิงเช่น ภาพยนตร์ 21% ซึ่งจะเห็นว่าสัดส่วนใน 3 ธุรกิจนั้นเกี่ยวข้องกับความบันเทิงสร้างรายได้ให้กับยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นรายนี้มากกว่า 60% ด้วยซ้ำ
Sony ได้พบกับอุปสรรคทางธุรกิจหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีราคาถูกลง ขณะเดียวกันในอดีตบริษัทเคยถูกมองว่าลงทุนในสิ่งที่อาจไม่สร้างผลกำไร ไม่ว่าจะเป็น การลงทุนในค่ายหนัง ค่ายเพลง หรือแม้แต่ธุรกิจเกม ซึ่งปัจจุบันรายได้ในส่วนดังกล่าวนั้นทำให้บริษัทอยู่รอดจนถึงทุกวันนี้
CEO ของ Sony ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “เพื่อให้บริษัทเติบโตและสร้างมูลค่าในระยะยาว เรายังต้องพัฒนาความหลากหลายของธุรกิจและบุคลากรของเราต่อไป”
ที่มา – Sony, ABC, Kyodo News