ไม่ยอม! ‘ค่ายรถอีวีจีน’ ขอให้รัฐบาล ‘ขึ้นภาษีรถยุโรป’ ตอบโต้ ‘อียู’ ที่ขึ้นภาษีรถอีวีจีน

ภาพจาก Unsplash
ย้อนไปช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สหภาพยุโรป (อียู) ระบุว่า เตรียมขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าของจีนสูงสุด 38% จากเดิม 10% เนื่องจากพบว่าแบรนด์รถอีวีจากจีนได้รับประโยชน์จากการอุดหนุนที่ไม่ยุติธรรมจากรัฐบาล และอาจก่อให้เกิดภัยคุกคามด้านเศรษฐกิจต่อ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป

ตามรอยสหรัฐฯ ‘อียู’ ขึ้นภาษี ‘รถอีวีจีน’ สูงสุด 38.1% เพื่อปกป้องผู้ผลิตรถไฟฟ้าในยุโรป

ระหว่างการประชุมของกระทรวงพาณิชย์ ณ กรุงปักกิ่ง เมื่อวันอังคาร ที่ผ่านมา โดยล่าสุด ค่ายรถอีวีของจีน ก็ได้เรียกร้องให้รัฐบาลจีนตอบโต้ด้วยการ ขึ้นภาษีรถยุโรป ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำมันเบนซินเป็น 25% เพื่อตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีรถอีวีนำเข้าของจีนจากอียู

ปัจจุบัน ตลาดจีนถือเป็นตลาดที่สำคัญของ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน อาทิ BMW และ Mercedes โดย ฮิลเดการ์ด มุลเลอร์ หัวหน้าสมาคมด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศเยอรมนี (VDA) เคยออกมาให้ความเห็นว่า “การประกาศภาษีของสหภาพยุโรป อาจทำให้เกิดความเสี่ยงของความขัดแย้งทางการค้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นอีก”

แม้จะยังไม่ได้ข้อสรุปว่ารัฐบาลจีนจะตอบสนองกับข้อเสนอนี้หรือไม่ แต่ดูเหมือนรัฐบาลจีนจะได้ตอบโต้อียูโดยมุ่งเป้าไปที่ เกษตรกรในยุโรป โดยเริ่มจากการ สอบสวนการนําเข้าเนื้อหมู ของสหภาพยุโรป เนื่องจากกรณีการทุ่มตลาด (anti-dumping) หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์จีน ได้รับการร้องเรียนอย่างเป็นทางการจาก สมาคมสัตวบาลของจีน

คาดการณ์ว่า การสอบสวนดังกล่าวอาจต้องใช้เวลา 1 ปี และอาจขยายเวลาเพิ่มเติมได้อีก 6 เดือน แต่ระหว่างนี้ผู้ส่งออกของอียูยังสามารถส่งออกเนื้อหมูมายังจีนแบบปลอดภาษีได้ตามเดิมอยู่ ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา จีนมีการนำเข้าเนื้อหมู และเครื่องในรวมทั้งหมดถึง 6 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.2 แสนล้านบาท) ในจำนวนนี้มากกว่าครึ่งเป็นการนำเข้าจากกลุ่มประเทศในอียู อันดับ 1 คือ สเปน 1.5 พันล้านดอลลาร์ ตามด้วย เนเธอร์แลนด์ 620 ล้านดอลลาร์ และ เดนมาร์ก 550 ล้านดอลลาร์  

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Transport & Environment ระบุว่า รถยนต์ไฟฟ้าเกือบ 1 ใน 5 หรือราว 20% ที่จำหน่ายในสหภาพยุโรปเมื่อปีที่ผ่านมานั้นผลิตในจีน และคาดว่าสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นเป็น 25% ในปีนี้

Source