บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT เปิดผลประกอบการไตรมาส 3 ปีงบการเงิน 67 (เม.ย. – มิ.ย. 67) มีรายได้ 3,826 ล้านบาท กำไรสุทธิ 339 ล้านบาท ธุรกิจที่อยู่อาศัยได้รับสารพัดปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ โรงงานและคลังสินค้ามีดีมานด์สูงทั้งในไทยและตปท. ส่งมอบพื้นที่เพิ่มเติมในเวียดนามอีก 65,000 ตร.ม. ด้านสำนักงานเกรดเอและพื้นที่รีเทลมีรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น พร้อมอัตราการเช่าระดับสูงที่ 91%
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country Chief Executive Officer) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพ เพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2567 (ตุลาคม 2566 – มิถุนายน 2567) ว่ามีรายได้รวมลดลง 10.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการได้รับแรงกดดันทางเศรษฐกิจของไทยและของโลก โดยธุรกิจที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ยอดการปฏิเสธการขอสินเชื่อจากธนาคารเพิ่มขึ้น กระนั้น บริษัทฯ มีแรงหนุนจากกระแสค่าเช่าของธุรกิจโรงงานและคลังสินค้า อาคารสำนักงานและพื้นที่รีเทลที่สามารถรักษาระดับการเช่าได้ในระดับสูง ซึ่ง FPT ยังคงความแข็งแกร่งด้วยความเป็น One Platform จากการผนึกกำลังของ 3 กลุ่มธุรกิจ รวมถึงได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากผู้ถือหุ้นกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด (FPL)
สำหรับผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2567 (ตุลาคม 2566 – มิถุนายน 2567) FPT มีรายได้รวม 10,417 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 6,832 ล้านบาทรายได้ค่าเช่าและค่าบริการ 2,274 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ 1,311 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 827 ล้านบาท
ด้านผลประกอบการไตรมาส 3 ปีงบการเงิน 2567 (เมษายน – มิถุนายน 2567) บริษัทฯ ทำรายได้รวม 3,826 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 302 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 339 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 174 ล้านบาท โดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ทำรายได้ 2,731 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 360 ล้านบาท จากไตรมาสที่แล้วเป็นผลจากการปรับกลยุทธ์ของบริษัทในการจัดแคมเปญการตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าแบรนด์แกรนดิโอนอกจากนั้น จากกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพในระบบและกระบวนการจัดซื้อส่งผลให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว
ในไตรมาสนี้บริษัทเปิดตัว 4 โครงการใหม่รวมมูลค่า 5,100 ล้านบาท ได้แก่ แบรนด์บ้านระดับพรีเมียมทั้งแกรนดิโอ เกษตร-นวมินทร์, เดอะแกรนด์ ปิ่นเกล้า – วงแหวนกาญจนา, นีโอ โฮม ระยอง-ราชชุมพล และคอนโดมิเนียมแบรนด์โคลส รัชดา 7 (KLOS Ratchada 7) สำหรับไตรมาส 4 (กรกฎาคม – กันยายน 2567) จะเร่งเครื่องการขายผ่านการจัดแคมเปญการตลาดที่หลากหลาย สร้างการรับรู้แบรนด์เพิ่มขึ้นผ่านMV เพลงอบอุ่น ซึ่งเป็น Music Marketing ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อสะท้อนถึงการเป็นแบรนด์ที่อยู่อาศัยคุณภาพสร้างสรรค์ชีวิตที่ดีกว่าให้กับคนทุกวัย
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม สามารถสร้างรายได้จากค่าเช่ารวม 769 ล้านบาท โดยธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าได้รับแรงหนุนสำคัญจากการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ
ส่งผลให้ดีมานด์โรงงานขยายตัวอย่างมากเช่นเดียวกันกับธุรกิจในอินโดนีเซียและเวียดนามที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีและมีดีมานด์เพิ่มขึ้นเช่นกัน ผลักดันพอร์ตโฟลิโอมีอัตราการเช่ารวมสูงถึง 86% โดยไตรมาสนี้ได้ส่งมอบพื้นที่โรงงาน 65,000 ตร.ม. ที่บินห์เดือง อินดัสเทรียล พาร์ค ประเทศเวียดนาม ในส่วนของธุรกิจอาคารสำนักงานและพื้นที่รีเทลมีรายได้สูงขึ้นจากจำนวนผู้เช่าที่เพิ่มขึ้น และการปรับขึ้นของรายได้ตามสัญญา ซึ่งบริษัทสามารถรักษาอัตราการเช่าของพอร์ตโฟลิโออยู่ที่ 91%
ผลการดำเนินงานด้านการเงิน ไตรมาส 3 (เมษายน – มิถุนายน 2567)
ผลการดำเนินงานด้านการเงิน | ไตรมาส 3/2567 (เมษายน – มิถุนายน) (ล้านบาท) |
รายได้รวมสุทธิ | 3,826 |
– รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ | 2,731 |
– รายได้ค่าเช่าและค่าบริการ | 769 |
– รายได้อื่น ๆ | 327 |
กำไรสุทธิ | 339 |
ตารางเปรียบเทียบผลการดำเนินงานด้านการเงิน รอบระยะเวลา 9 เดือน (ตุลาคม 2566 – มิถุนายน 2567)
ผลการดำเนินงานด้านการเงิน
รอบระยะเวลา 9เดือน |
2567 (ล้านบาท) |
2566 (ล้านบาท) |
เปลี่ยนแปลง (ล้านบาท) |
เปลี่ยนแปลง (ร้อยละ) Y-o-Y |
รายได้รวมสุทธิ | 10,417 | 11,598 | -1,181 | -10.2 |
– รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ | 6,832 | 7,692 | -860 | -11.2 |
– รายได้ค่าเช่าและค่าบริการ | 2,274 | 2,061 | 213 | 10.3 |
– รายได้อื่น ๆ | 1,311 | 1,845 | -534 | -28.9 |
กำไรสุทธิ | 827 | 1,032 | -205 | -19.9 |