บริษัท ซี.อี.เอส. จำกัด บริษัทชั้นนำในธุรกิจก่อสร้าง ภายใต้กลุ่มพูลผล ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2507 ให้บริการรับเหมาก่อสร้างงานอาคารทุกประเภท เช่น โรงแรม-รีสอร์ท สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า-โชว์รูม โรงงาน โกดัง คลังสินค้า และงานต่อเติม-ปรับปรุงและอื่นๆ ด้วยทีมงานมืออาชีพ ที่ยึดหลักการทำงานอย่างซื่อสัตย์ และรับผิดชอบ โดยได้รับความไว้วางใจให้ก่อสร้างโครงการที่สำคัญมาแล้วมากกว่า 300 โครงการ โดยปีนี้ ซี.อี.เอส. ก้าวเข้าสู่ปีที่ 60 พร้อมประกาศเป้าหมายก้าวสู่บริษัทชั้นนำในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ทุกประเภท พร้อมเดินหน้าลงทุนในมิติต่างๆ เพื่อขยายศักยภาพการดำเนินธุรกิจ รองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายอนุชิต หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.อี.เอส. จำกัด เปิดเผยว่า โอกาสครบรอบการดำเนินธุรกิจ 60 ปี ใน 2567 บริษัทตั้งเป้าสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุกมิติ โดยเดินหน้าลงทุนด้านเทคโนโลยี รวมถึงเครื่องทุ่นแรงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดระยะเวลาก่อสร้าง รวมถึงลงทุนในด้านบุคลากร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น พร้อมรองรับการเติบโตหลังโควิดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา จากจำนวนลูกค้าและโครงการใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันบริษัทมียอดขายเติบโตขึ้น 15% และตั้งเป้าเติบโตขึ้นอีกอย่างน้อย 25% ในปี 2568
ปัจจุบันโครงสร้างธุรกิจของบริษัท แบ่งเป็นหน่วยธุรกิจก่อสร้าง 80% และหน่วยธุรกิจออกแบบ Turnkey (โครงการที่ดำเนินการออกแบบ และก่อสร้างอาคารแล้วเสร็จ) อีก 20% โดยปี 2568 บริษัทจะมีการขยายธุรกิจใหม่ “งานตกแต่งภายใน” พร้อมตั้งเป้าเพิ่มรายได้ส่วนงานออกแบบ turnkey เพิ่มขึ้น
“จุดแข็งของ ซี.อี.เอส. ในธุรกิจก่อสร้าง ที่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ ในตลาด คือการเป็นหนึ่งในกลุ่มพูลผล ที่มีความแข็งแกร่ง มั่นคงยั่งยืนมากว่า 80 ปี สร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มลูกค้า ตอกย้ำด้วยทีมงานมืออาชีพ ที่พร้อมส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า” นายอนุชิต กล่าว
บริษัทมีลูกค้าหลากหลาย โดยมีกลุ่มลูกค้าหลัก คือกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โครงการไฮไลท์แบ่งตามประเภทลูกค้า ประกอบด้วย โรงแรม-รีสอร์ต ได้แก่ โรงแรม แบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์, Andaz Pattaya Jomtien Beach และ โรงแรม INNSiDE by Melia Bangkok Sukhumvit, ประเภทคอนโดมิเนียม ได้แก่ ตรรกะ ศรีวรา ประเภทอาคารสำนักงาน ได้แก่ อาคารเกษร ทาวเวอร์ และ อาคารสำนักงาน ซัมเมอร์ ลาซาล แคมปัส B และ C ของกลุ่มไบเทค, ห้างสรรพสินค้า ได้แก่ Zpell Future Park Rangsit และ THE STREET Ratchada , ประเภทโรงงาน-โกดัง ได้แก่ ศูนย์กระจายสินค้า ของ Thai Beverage ,โรงงานไอ.พี.วัน และตลาดไท, โครงการประเภท Turnkey ได้แก่ Bangkok Prep International School และ อาคารสำนักงาน สมาคมประกันวินาศภัยไทย และ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด และงานก่อสร้างอื่นๆ (โรงเรียน-ศาลเจ้า) ได้แก่ โรงเรียนและโรงเจวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) และศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นต้น และปี 2568 มุ่งขยายลูกค้าในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรม จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัว
นายอนุชิต กล่าวว่า บริษัทได้วางยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจ ในระยะ 5 ปี (2566-2570) ระยะแรก คือการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยแสวงหากลุ่มลูกค้าที่เป็น New Growth Potential และกลุ่มลูกค้าเดิม ระยะที่ 2 มุ่งเพิ่มกลุ่มธุรกิจใหม่ จากปัจจุบันคืออุตสาหกรรมก่อสร้าง และ Turnkey Solution โดยจะเพิ่มธุรกิจที่ปรึกษาด้านออกแบบโครงสร้าง-สถาปัตยกรรม และ BIM Service (3D Point Cloud) ระยะที่ 3 ตั้งเป้าให้ ซี.อี.เอส. เป็นตัวเลือกผู้รับเหมาสำหรับลูกค้าในทุกตลาดชั้นนำ พร้อมเป็นตัวเลือก “งานก่อสร้าง” จากกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่มีการลงทุนภายในประเทศ ตั้งแต่การลงทุนขนาดกลาง ไปจนถึงเมกะโปรเจ็กต์ ครอบคลุมธุรกิจที่หลากหลาย ส่วนเป้าหมายระยะยาว ตั้งเป้าเป็นบริษัทก่อสร้างที่ลูกค้าเลือกใช้เป็นอันดับแรก และสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีรายได้อย่างน้อย 4,000 ล้านบาท ในปี 2570
ซี.อี.เอส ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ “เราจะเป็นผู้นำด้านคุณภาพ ยึดหลักวิศวกรรมในงานก่อสร้างและความปลอดภัย มีความซื่อสัตย์ พร้อมใส่ใจสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า” โดยมีพันธกิจมุ่ง “ดำเนินธุรกิจรับเหมาและวิศวกรรมก่อสร้างครบวงจร” พร้อมดูแลทุกคนอย่างจริงใจ ทั้งต่อพนักงาน ลูกค้า ชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนซัพพลายเออร์และคู่ค้า