กรุงศรี คอนซูมเมอร์เผยผลประกอบการครึ่งปีแรกเติบโตแข็งแกร่งมียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 287,000 บัญชี เติบโต 7%, ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 189,000 ล้านบาท เติบโต 9%, ยอดสินเชื่อใหม่ 47,000 ล้านบาท เติบโต 6% และยอดสินเชื่อคงค้าง 140,000 ล้านบาท เติบโต 2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนประกาศกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง พร้อมต่อยอดความเป็นผู้นำในธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล มุ่งพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์หลักสร้างเสริมนวัตกรรมทางการชำระเงินตอบโจทย์ลูกค้า พร้อมผสานความร่วมมือในเครือกรุงศรี และขยายระบบนิเวศพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน สร้างความเติบโตสู่อนาคตคาดมียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 617,000 บัญชี (+10%), ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 393,000 ล้านบาท (+8%), ยอดสินเชื่อใหม่ 100,000 ล้านบาท (+9%) และยอดสินเชื่อคงค้าง 151,000 ล้านบาท (+2%) ภายในปี 2567
นายอธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลอันประกอบไปด้วย บัตรเครดิตกรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัสเปิดเผยว่า “ผลประกอบการครึ่งปีแรกของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2567 เติบโตเป็นที่น่าพอใจจากความสำเร็จในการเดินกลยุทธ์ของบริษัทโดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 189,000 ล้านบาท เติบโต 9%, ยอดสินเชื่อใหม่ 47,000 ล้านบาท เติบโต 6%, ยอดสินเชื่อคงค้าง 140,000 ล้านบาท เติบโต 2% และจำนวนบัญชีลูกค้าใหม่ 287,000 บัญชี เติบโต 7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนทั้งนี้ หมวดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุดเรียงตามยอดใช้จ่าย ได้แก่ 1.ประกันภัย, 2.ปั๊มน้ำมัน, 3.ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน, 4.ไฮเปอร์มาร์ทและซุปเปอร์มาร์เก็ต และ 5.ช้อปออนไลน์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนหมวดใช้จ่ายที่มีอัตราเติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ตัวแทนท่องเที่ยว, 2.โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชัน, 3.ช้อปออนไลน์, 4.อาหารและเครื่องดื่ม และ 5.ไฮเปอร์มาร์ทและซูเปอร์มาร์เก็ตขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน อยู่ที่ระดับ 1.4% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.6% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ นับว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจอันเป็นผลจากการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม”
“สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะมุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ เพื่อคงความเป็นผู้นำในธุรกิจ โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลางผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.มุ่งพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์หลักให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 2.ขยายระบบนิเวศพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจ 3.สร้างเสริมนวัตกรรมทางการชำระเงิน 4. ผสานความร่วมมือในเครือกรุงศรีเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ 5.พัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน”
กลยุทธ์หลัก 5 ประการของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้แก่
1. มุ่งพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์หลักให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นโดยมุ่งเน้นการสร้างความเติบโตในธุรกิจหลัก คือ สินเชื่อที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์หลัก คือ บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อผ่อนชำระ ให้มีจุดเด่นและสิทธิประโยชน์ที่ตรงความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งวางช่องทางการตลาดและการจำหน่ายที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
2. ขยายระบบนิเวศพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจโดยขยายความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ทั้งพันธมิตรหลักที่ร่วมออกผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตซึ่งอาจต่อยอดความร่วมมือในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ๆ อีกทั้งพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ ในธุรกิจต่างๆ ที่จะร่วมนำเสนอโปรโมชันที่ตอบไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยเน้นหมวดร้านอาหาร และแผนผ่อนชำระ (Extended Payment Plan)
3. สร้างเสริมนวัตกรรมทางการชำระเงินพัฒนานวัตกรรมทางการชำระเงิน (Payment Solutions) ใหม่ๆ เพื่อเป็นทางเลือกในการชำระเงินที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า เช่น การใช้ Biometrics หรือการผูกบัญชีบัตรในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์กับอุปกรณ์ต่างๆ หรือ Digital Wallet ฯลฯ
4. ผสานความร่วมมือในเครือกรุงศรีเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจโดยผสานความร่วมมือให้สอดคล้องและส่งเสริมเป้าหมายทางธุรกิจที่เครือกรุงศรีมุ่งเน้น เช่น ความร่วมมือกับหน่วยงานธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคลของธนาคารผ่านกลยุทธ์ Krungsri One Retail เพื่อเชื่อมโยงให้ลูกค้าบัตรในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ สามารถเข้าถึงผลิต ภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายในเครือกรุงศรีเพื่อตอบความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
5. พัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยวางโครงสร้างและการบริหารทรัพยากรของหน่วยงานสนับสนุนให้สอด คล้องกับทิศทางธุรกิจในอนาคตของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานให้สามารถรองรับความเติบโตในอนาคตได้
“กลยุทธ์ทั้งห้าประการนี้เป็นไปเพื่อเสริมศักยภาพของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้สอดรับกับสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป เพื่อสร้างความเติบโตอย่างมีคุณภาพและรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจการเงินไว้ได้อย่างยั่งยืนทั้งนี้ ในปี 2567บริษัทคาดมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร ยอดบัญชีลูกค้าใหม่ 617,000 บัญชี (+10%), ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 393,000 ล้านบาท (+8%), ยอดสินเชื่อใหม่ 100,000 ล้านบาท (+9%) และยอดสินเชื่อคงค้าง 151,000 ล้านบาท (+2%)” นายอธิศ กล่าวสรุป