โครงการ “คมส่งฝัน” โดย คมสันต์ ลี จัดทำหนังสือเสียงระบบเดซี่ และหนังสือเบรลล์ ที่ถ่ายทอดจากพ๊อคเก็ตบุ๊ค “คมเขี้ยว Startup” มอบแก่มูลนิธิคนตาบอดไทย เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ และสร้างแรงบัลดาลใจในการใช้ชีวิต แก่ผู้บกพร่องทางสายตา

เมื่อเร็วๆนี้นักศึกษาทุนโครงการ “คมส่งฝัน” โครงการทุนการศึกษาให้เปล่าสำหรับเยาวชนไทยที่ขาดโอกาสทางการศึกษา โดยนายคมสันต์ ลี เจ้าของธุรกิจ แฟลช เอ็กซ์เพรส ที่ก่อตั้งขึ้น เมื่อปี 2565 พร้อมด้วยคณะทำงานโครงการ นำโดย นางสาวปรินทร์ทิพย์ อิสริยเมธา ผู้ช่วยรองกรรมการผู้อำนวยการสื่อสารองค์กร และรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ได้นำหนังสือเสียงระบบเดซี่ และหนังสือเบรลล์ ที่จัดทำขึ้นจากการนำเอาเนื้อหาของพ๊อค เก็ตบุ๊ค “คมเขี้ยว Startup” เรื่องราวชีวิต และเส้นทางการดำเนินธุรกิจของคุณคมสันต์ ลี มาถ่ายทอดในรูปแบบหนังสือสำหรับผู้บกพร่องทางสายตา นางสาวปรินทร์ทิพย์ เปิดเผยว่า ผู้ก่อตั้งโครงการฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญด้านการศึกษามาโดยตลอด เพราะมีความเชื่อว่าโอกาสทางการศึกษาจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคน นายคมสันต์ ลี จึงได้มีโอกาสช่วยเหลือสังคมในด้านการศึกษามาตลอดระยะเวลา 6 ปี ที่ทำธุรกิจจนกระทั่งปี 2565 จึงได้ก่อตั้งโครงการคมส่งฝันขึ้น และเปิดโอกาสให้เยาวชนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์จำนวน 11 คน ได้เข้ามาเป็นนักศึกษาทุนของโครงการฯ

“คุณคมสันต์ มีความตั้งใจมาโดยตลอดว่าอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และมีการศึกษาที่เท่าเทียม ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมาจากไหน หรือมีต้นทุนทางชีวิตมากน้อยแค่ไหน แต่หากมีความใฝ่ดีในการเรียนก็ไม่ยากที่จะสร้างชีวิตให้ประสบความสำเร็จได้ ซึ่งนอกจากการศึกษาจะเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับแรก การที่เยาวชนกลุ่มนี้ได้รับโอกาสจากโครงการฯ ก็ควรมีส่วนร่วมส่งต่อโอกาสเหล่านี้ให้แก่ผู้ด้อยโอกาสกลุ่มอื่นของสังคมเช่นกัน หลังจากวันนั้นน้องๆ ในโครงการจึงได้มีการร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมมาโดยตลอด รวมถึงโครงการล่าสุด โครงการจัดทำหนังสือ2 รูปแบบ คือ หนังสือเสียงระบบเดซี่ผ่านแอปพลิเคชัน Read for the Blind สำหรับผู้บกพร่องทางสายตาที่ไม่สามารถอ่านอักษรเบรลล์ได้ และหนังสือเบรลล์ สำหรับผู้บกพร่องทางสายตาที่สามารถอ่านอักษรเบรลล์ได้ทซึ่งทีมงานได้ร่วมบันทึกเสียง และจัดทำเพื่อส่งมอบแก่ มูลนิธิคนตาบอด เพื่อกระจายไปยังโรงเรียนสอนคนตาบอด 15 แห่ง ทั่วประเทศ โดยความตั้งใจส่วนหนึ่งของการจัดทำ คืออยากสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แม้จะต้องเจออุปสรรคหรือปัญหามากแค่ไหน ซึ่งอีกมุมของหนังสือคมเขี้ยวสตาร์ทอัพที่ถูกจัดทำ จะสะท้อนให้ผู้อ่านมองเห็นคุณค่าของชีวิตมากขึ้นด้วย” นางสาวปรินทร์ทิพย์ กล่าว

ด้าน นายกิติพงศ์ สุทธิ ผู้อำนวยการห้องสมุดคนตาบอดและผู้พิการทางสื่อสิ่งพิมพ์แห่งชาติ กล่าวว่า ทางมูลนิธิขอขอบคุณ โครงการคมส่งฝัน และคุณคมสันต์ ลี ที่เล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มผู้พิการทางสายตา และให้นักศึกษาทุนฯ มาร่วมทำโปรเจกต์นี้กับมูลนิธิคนตาบอด ปัจจุบันมีจำนวนผู้พิการทางสายตาที่อยู่ในสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยประมาณ 15,000 คนทั่วประเทศ แต่มีกลุ่มผู้พิการทางสายตาที่ลงทะเบียนกับรัฐมากถึง 200,000 คน ในขณะที่จำนวนหนังสือเสียง และหนังสือเบรลล์ที่มีอยู่ในระบบสำหรับคนกลุ่มนี้มีสัดส่วนไม่ถึง 5% และกว่า 95% ของหนังสือเสียงผลิตขึ้นได้ด้วยอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยสนับสนุน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิมีจำนวนไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนงานในส่วนนี้อีกทั้งข้อจำกัดในส่วนห้องอ่านหนังสือเสียงทั้งส่วนของพื้นที่ และอุปกรณ์ทางมูลนิธิจึงต้องอาศัยอาสาสมัครเข้ามาช่วยอ่านหนังสือเสียงผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน ซึ่งทางมูลนิธิคนตาบอดจะส่งมอบหนังสือที่ทางโครงการคมส่งฝันได้จัดทำ กระจายต่อไปยังโรงเรียนสอนคนตาบอดทั่วประเทศทั้ง 15 แห่งต่อไป