เป็นการกลับมาอีกครั้งที่สร้างแรงกระเพื่อมให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยกับแฟชั่นโชว์แห่งปี ‘ELLE Fashion Week 2024’ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 ตุลาคม 2567 ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม โดยในปีนี้เป็นการผนึกกำลังร่วมกันระหว่าง บริษัท แมส ดิจิทัล จำกัด ผู้ถือครองลิขสิทธิ์ ELLE และ ELLE MEN Thailand ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกมาร่วมสร้างสรรค์ผลักดันให้เกิดงานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น ‘ICONSIAM’ (ไอคอนสยาม) เดสติเนชั่นระดับโลก ริมแม่น้ำสายสำคัญของประเทศไทย, Don Julio (ดอน ฮูลิโอ้) เตกีล่าระดับพรีเมียมเจ้าแรกของโลก, Laura Mercier (ลอร่า เมอร์ซิเอ้) แบรนด์เครื่องสำอางระดับโลก, TRESemmé (เทรซาเม่) ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมืออาชีพ, ZEEKR (ซีเคอร์) บริษัท ซีเคอร์ ประเทศไทย แบรนด์รถไฟฟ้าพรีเมียม-ลักชูรี และ KIRINATU (คิรินาทู) แบรนด์น้ำหอม และสกินแคร์จากฝรั่งเศส ภายใต้คอนเซปต์ ‘YOUTH ENERGY’ ชวนไทยดีไซเนอร์นิวเจนอวดผลงานแฟชั่นสุดปัง ทั้งแบรนด์ชั้นนำที่ติดลมบนไปแล้วและแบรนด์ใหม่ๆ ที่น่าจับตามอง อาทิ HOOK’S PRESENTED BY ZEEKR, SRETSIS, LA BOUTIQUE, VVON SUGUNNASIL, ANURUQ, SIRAPOP, BEENET CORSET, WACAY, PETCHPLOY และ NICHp รวมถึงแบรนด์ไทยเลือดใหม่ที่เกิดและเติบโตจากแพลตฟอร์มออนไลน์ อย่าง LAROBE8, O.D.C X BBMP และ YUNCHANNY
นายอาลี ซีอานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมส ดิจิทัล จำกัด ผู้ถือครองลิขสิทธิ์นิตยสาร ELLE และ ELLE MEN Thailand กล่าวว่า การกลับมาครั้งนี้ของ ELLE Fashion Week 2024 ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นเวทีให้ดีไซเนอร์หน้าใหม่ได้แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงดีไซเนอร์ชื่อดังได้มาร่วมจัดโชว์ด้วย อีกหนึ่งความพิเศษของการกลับมาครั้งนี้ คือ โลเคชันใหม่กับ ‘ICONSIAM’ ในฐานะ ‘Global Destination’ แลนด์มาร์กสำคัญของไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก จะช่วยให้อุตสาหกรรมแฟชั่นไทยก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ซึ่งปีนี้ยังเป็นครั้งแรกของ ‘ELLE Fashion Week’ ที่ได้ ‘TONY WARD Couture’ แบรนด์กูตูร์ระดับโลกมาร่วมเปิดโชว์กับคอลเลกชันพิเศษครั้งแรกในเมืองไทยด้วย เป็นตอกย้ำความแข็งแกร่งของ ELLE และ ELLE MEN Thailand นิตยสารชั้นนำระดับโลกจากประเทศฝรั่งเศส ที่ร่วมผลักดันศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นประเทศไทยก้าวสู่ระดับสากล
ELLE Fashion Week 2024 ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 26 ของการจัดงานแล้ว ที่ผ่านมา ELLE Fashion Week เป็นเวทีแจ้งเกิดของไทยดีไซเนอร์ดังๆ มาแล้วหลากหลายแบรนด์ นี่จึงเป็นอีกก้าวสำคัญของดีไซเนอร์สัญชาติไทย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่แบรนด์ไทยจากออนไลน์แพลตฟอร์มได้เข้ามาร่วมแสดงฝีมือด้วย รวมถึงจัด Pop – Up Exhibition ให้ชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศได้ชมและอุดหนุนผลงานของไทยดีไซเนอร์ที่ชั้น M บริเวณ เจริญนคร ฮอลล์ เพื่อยกระดับประสบการณ์แฟชั่นครบทุกมิติ
ด้าน นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ระบุว่า “การจัดงาน Elle Fashion Week ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยามครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการขับเคลื่อนธุรกิจแฟชั่น ผลักดันแบรนด์ไทยให้เติบโตในระดับสากลแล้ว ยังเป็นการยกระดับประสบการณ์แฟชั่นที่เหนือกว่าผ่านการจัดงานแฟชั่นโชว์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาครั้งแรกของไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ธุรกิจริมแม่น้ำและกรุงเทพมหานคร การร่วมจัดงาน Elle Fashion Week ในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำของไอคอนสยามในการเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการผลักดันวงการแฟชั่นไทยดังไกลระดับโลก เสริมศักยภาพแฟชั่นไทยสู่เวทีโลก ผลักดันผลิตภัณฑ์งานคราฟต์ไทยผ่าน ‘ICONCRAFT’ (ไอคอนคราฟต์) ที่มีพื้นที่กว่า 2,500 ตารางเมตรในการรวบรวมสุดยอดงานคราฟต์จากช่างฝีมือทุกประเภท จากทั้งหมด 77 จังหวัด เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ผลงานของดีไซเนอร์ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล
ทั้งนี้ นายสุพจน์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ภาพรวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยี่ยมชมไอคอนสยาม สูงสุด 5 ประเทศ ได้แก่ จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ อินเดีย และอินโดนีเซีย โดยปัจจุบัน ‘จีน’ ยังคงเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการสูงสุด รองลงมา คือกลุ่มประเทศแถบเอเชียอย่างมาเลเซีย ฮ่องกง และญี่ปุ่น ที่จะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาใช้บริการ ฟากฝั่งตะวันตกโดยเฉพาะยุโรปก็เริ่มกลับมาให้เห็นกันบ้างแล้ว ทว่าในบรรดานักท่องเที่ยวทั้งฝั่งเอเชียและตะวันตกต่างให้ความสนใจการเลือกซื้อสินค้าไทยอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘สินค้าผ้าไทย’ ที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องของเนื้อผ้า ลวดลาย และดีไซน์ที่ทันสมัย นอกจากนั้นก็ยังมีสินค้างานคราฟต์ และอาหารไทยที่กลุ่มนักท่องเที่ยวเลือกซื้อฝากกลับไปเป็นของที่ระลึก อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาที่ไอคอนสยาม พร้อมเข้าร่วมงาน ELLE Fashion Week ครั้งนี้ ประมาณ 130,000 – 150,000 คนต่อวัน
อีกหนึ่งความน่าสนใจของ ELLE Fashion Week 2024 คือ โชว์ชุดพิเศษ “Timeless Crafting with Batik” จาก ICONCRAFT ผู้สนับสนุนดีไซเนอร์ไทยสู่เวทีระดับโลก นำเสนอความงดงามเหนือกาลเวลาของผ้าบาติกไทยครั้งแรกบนรันเวย์แห่งนี้ ผ่านผลงาน ผลงานการออกแบบของ 3 ไทยดีไซเนอร์ระดับแนวหน้า HOME Studio SHOP, WISHARAWISH และ KANAPOT สะท้อนถึงพลังสร้างสรรค์ของไทยดีไซเนอร์ ผ่านผืนผ้าบาติกที่เปี่ยมเสน่ห์เหนือกาลเวลา
ติดตาม ELLE Fashion Week 2024 ได้ที่ ELLE และ ELLE Men ตามร้านหนังสือชั้นนำใกล้บ้านหรือช่องทาง ออนไลน์ได้ที่ https://ellethailand.com/, https://ellementhailand.com/, IG @ellethailandofficial และ @ellementhailand และ Facebook : ELLE Thailand และ ELLE MEN Thailand