- “จี–ยู ครีเอทีฟ” ออแกไนเซอร์เบื้องหลังอีเวนต์ดัง “JAPAN EXPO THAILAND” เตรียมจัดใหญ่ทุ่ม 100 ล้านบาทในอีเวนต์ประจำปี 2568 ฉลองครบรอบการจัดงานต่อเนื่อง 1 ทศวรรษ
- บริษัทยังต่อยอดธุรกิจจากการคลุกคลีกับบริษัทญี่ปุ่น เข้าเทกโอเวอร์ “ตลาดญี่ปุ่นทองหล่อ” เห็นโอกาสในตลาดวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่น
“JAPAN EXPO THAILAND” เป็นงานอีเวนต์ประจำปีที่จัดต่อเนื่องมากำลังจะครบ 10 ปี ผ่านฝีมือบริษัทออแกไนเซอร์เบื้องหลังอย่าง “จี–ยู ครีเอทีฟ”
“ยุพเรศ เอกธุระประคัลภ์” ประธานกรรมการ บริษัท จี-ยู ครีเอทีฟ จำกัด กล่าวถึงงาน JAPAN EXPO THAILAND ว่า งานนี้เป็นงานรวบรวมผู้ประกอบการญี่ปุ่นหลายธุรกิจเข้ามาออกบูธ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการเข้ามาทดลองตลาดในประเทศไทย ภายในงานมีไฮไลต์เด่นคือการจัด Business Matching จับคู่ทางธุรกิจระหว่างบริษัทญี่ปุ่นกับบริษัทไทยซึ่งช่วยดึงเม็ดเงินการลงทุนจากญี่ปุ่นเข้าสู่ประเทศ
รวมถึงภาคธุรกิจบันเทิงก็มีภายในงานเช่นกัน ทุกปีจะมีการดึงทั้งศิลปินญี่ปุ่นและศิลปินไทยเข้าร่วมงาน มีการจัดกิจกรรม “Fan Club Tour” เพื่อให้แฟนคลับติดตามศิลปินเข้ามายังประเทศไทย และช่วยให้งานได้รับการโปรโมต สร้างการรับรู้ผ่านสื่อเป็นวงกว้างมากขึ้น
ยุพเรศระบุว่า การจัดงานแต่ละปีจะมีผู้ประกอบการญี่ปุ่นเข้าร่วมหลักร้อยบริษัท เฉพาะการจัดงานครั้งล่าสุดในปี 2567 พบว่ามีผู้เข้าร่วมงานหมุนเวียนกว่า 700,000 คนตลอดการจัดงาน และช่วยสร้างมูลค่าเม็ดเงินหมุนเวียนให้กับประเทศไทยมากกว่า 1,000 ล้านบาท
ทุ่ม 100 ล้านฉลอง 10 ปี “JAPAN EXPO THAILAND 2025”
ยุพเรศกล่าวต่อว่า สำหรับปี 2568 ซึ่งจะเป็นปีครบรอบ 1 ทศวรรษที่ จี–ยู ครีเอทีฟ ได้จัดงาน JAPAN EXPO THAILAND บริษัทจึงเตรียมทุ่มทุนกว่า 100 ล้านบาทเพื่อจัดงาน “JAPAN EXPO THAILAND 2025” ซึ่งถือเป็นการลงทุนมากกว่าทุกปีที่มักจะใช้งบจัดงานประมาณ 60-70 ล้านบาท
“JAPAN EXPO THAILAND 2025” ซึ่งจะจัดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2568 จะสร้างความพิเศษยิ่งกว่าที่ผ่านมา โดยจะแบ่งงานออกเป็น 19 โซนให้ครบทุกมิติธุรกิจ เช่น ความร่วมมือทางธุรกิจ, การลงทุน, อสังหาริมทรัพย์, การท่องเที่ยว, วัฒนธรรม, แฟชั่น, อาหาร
โดยเฉพาะในด้านอสังหาริมทรัพย์ งานปีหน้าจะเป็นปีที่ 2 ที่มีผู้ประกอบการอสังหาฯ จากญี่ปุ่นนำโครงการที่อยู่อาศัยมาเปิดขายในงาน ต่อยอดความสำเร็จหลังจากการจัดงานครั้งที่ผ่านมา SANGA (ซังกะ) แพลตฟอร์มการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อขายผ่านบล็อกเชนได้เข้าร่วมออกบูธเป็นครั้งแรกและสามารถสร้างยอดขายจากชาวไทยได้
ส่วนโซนอาหารนั้นบริษัทมีความร่วมมือกับภาครัฐในการตั้งจุดบริการ “One Stop Service” ให้บริการด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI), การขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตลอดจนการบริการด้านขนส่งโลจิสติกส์
ขณะที่โซนแฟชั่นและความบันเทิง บริษัทเตรียมยกทัพศิลปินไอดอลจากญี่ปุ่นกว่า 200 ชีวิต และศิลปินไทยหลายร้อยชีวิตมาเปิดการแสดงภายในงาน พร้อมสร้างบรรยากาศเสมือนยกญี่ปุ่นมาไว้ในเมืองไทยตลอด 3 วัน
ยุพเรศกล่าวว่า จากการจัดงานครั้งที่ผ่านมาจะมีผู้ประกอบการจากต่างประเทศกว่า 20 ประเทศเข้ามาร่วมงาน JAPAN EXPO THAILAND ด้วย โดย 70% จะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน, ไต้หวัน, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์ ส่วนอีก 30% เป็นกลุ่มประเทศแถบยุโรป
ล่าสุดงาน JAPAN EXPO THAILAND 2025 มีผู้ประกอบการญี่ปุ่นตอบรับร่วมเปิดบูธแล้ว 80% จากทั้งหมด 200 บูธ ยุพเรศคาดว่างานครั้งนี้จะช่วยสร้างมูลค่าการจับจ่ายในประเทศไทยได้กว่า 500 ล้านบาท
ต่อยอดธุรกิจเข้าเทกฯ “ตลาดญี่ปุ่นทองหล่อ”
ยุพเรศกล่าวต่อถึงการต่อยอดธุรกิจของ จี–ยู ครีเอทีฟ หลังจากมีประสบการณ์จัดงานอีเวนต์ร่วมกับอุตสาหกรรมญี่ปุ่นมาเกือบทศวรรษ ทำให้บริษัทตัดสินใจเข้าซื้อกิจการ “ตลาดญี่ปุ่นทองหล่อ” จากเจ้าของเดิมคือ เจแปน แอร์ไลน์ โดยการลงทุนครั้งนี้บริษัทมีความร่วมมือกับ บริษัท เจ แวลลู จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอาหารสดและเนื้อสัตว์จากญี่ปุ่น ทั้งนี้ ขอสงวนข้อมูลด้านเม็ดเงินในการลงทุนเทกโอเวอร์และปรับปรุงสถานที่
ตลาดญี่ปุ่นทองหล่อนั้นตั้งอยู่ใน ซ.ทองหล่อ 13 ในย่านที่มีคนญี่ปุ่นอาศัยและร้านอาหารญี่ปุ่นในละแวกเป็นจำนวนมาก ยุพเรศจึงมองว่า ตลาดแห่งนี้จะตอบโจทย์ทั้งลูกค้ากลุ่ม B2B คือกลุ่มเชฟและเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นในบริเวณสามารถเข้ามาซื้อวัตถุดิบสดไปประกอบอาหาร รวมถึงกลุ่มลูกค้า B2C คือลูกค้าทั่วไปที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น สามารถเข้ามาเลือกซื้อวัตถุดิบกลับไปทำอาหารทานเอง หรือเลือกให้เชฟของตลาดญี่ปุ่นทองหล่อปรุงสดให้รับประทานที่ตลาดเลยก็ได้ เบื้องต้นคาดว่ากลุ่มลูกค้า B2B กับ B2C น่าจะแบ่งสัดส่วน 50:50
สินค้าเด่นที่มีการจำหน่ายในตลาดญี่ปุ่นทองหล่อจะเน้นวัตถุดิบเกรดพรีเมียมสดใหม่ส่งตรงมาจากตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish Market) ประเทศญี่ปุ่น เช่น ปูทาระบะแบบเป็นๆ , ปลาคินเมะได , ปลาอามะได, ปลาซันมะ , ปลาคามาสึ , ปลาโอ , ปลาอุสุบาฮางิ , หอยนางรมจากฮิโรชิม่า, เนื้อวัวเกรดพรีเมียม, ผัก–ผลไม้สด, ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เป็นของดีของแต่ละจังหวัดในญี่ปุ่น
ภายในตลาดญี่ปุ่นทองหล่อยังมีบริการต่างๆ ให้กับลูกค้าด้วย เช่น บริการ “Omnichannel Market” ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อทางออนไลน์บริการจัดส่งถึงหน้าบ้าน หรือ บริเวณโซนการเรียนรู้ (Learning Experience)
ขณะนี้ตลาดญี่ปุ่นทองหล่ออยู่ระหว่างรีโนเวตเพิ่มเติม คาดว่าจะให้บริการเต็มรูปแบบได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะมีการขยายเวลาปิดบริการจากเดิม 19:00 น. เพิ่มเป็นปิด 24:00 น. เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มที่