กรุงศรีกรุ๊ป (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)และบริษัทในเครือ) จับมือ กลุ่มเซ็นทรัลประกาศความร่วมมือ ทางธุรกิจครั้งสำคัญ แต่งตั้งบริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด ภายใต้กลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์เป็นพันธมิตรบริหารผลิตภัณฑ์ทางการเงินภายใต้แบรนด์เซ็นทรัล เดอะวัน พร้อมขยายความร่วมมือ เพื่อพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ๆ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ลูกค้าของทั้งสองกลุ่มบริษัท เพื่อเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจ
นายเคนอิจิ ยามาโตะกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรี กรุ๊ป รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มเซ็นทรัล แต่งตั้งให้บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด ภายใต้กลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์เป็นผู้บริหารผลิตภัณฑ์ทางการเงินภายใต้แบรนด์เซ็นทรัล เดอะวันต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นแห่งความร่วมมือ ในพ.ศ. 2541 ตลอดเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งสองกลุ่มบริษัทได้ร่วมกันพัฒนาบริการทางการเงินทั้งบัตรเครดิตร่วม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ทางการเงินที่หลากหลายของลูกค้ากลุ่มเซ็นทรัลได้อย่างตรงใจ และได้ร่วมกันขยายธุรกิจให้เติบโต โดยปัจจุบันบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน นับเป็นผู้นำตลาดบัตรเครดิตร่วมรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยโดยเป็นธุรกิจที่เติบโตสูงแบบก้าวกระโดด ด้วยส่วนแบ่งตลาดในปัจจุบันที่เติบโตถึงเกือบ 3 เท่า นับตั้งแต่การต่อสัญญาครั้งล่าสุดใน พ.ศ. 2560ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้มีการต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดียิ่งขึ้นเพื่อลูกค้า สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ กรุงศรี กรุ๊ป จึงมุ่งมั่นจะร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัล เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และวิธีการชำระเงินรูปแบบใหม่ ที่ตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ทางการเงินของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปให้ดียิ่งขึ้น และร่วมกันสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน”
นายปริญญ์ จิราธิวัฒน์ รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล เปิดเผยว่า“จากการทำงานร่วมกันที่ผ่านมาระหว่างกลุ่มเซ็นทรัล และบริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด ภายใต้กลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ที่บริหารบัตรเซ็นทรัล เดอะวัน เราได้ร่วมกันสร้างผลงานที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเริ่มต้นจากการปลุกปั้นบัตรเซ็นทรัล คาร์ด จากที่มีจำนวนผู้ถือบัตรเพียง 15,000 ใบในปี พ.ศ. 2541 จนปัจจุบันได้พัฒนาเป็นบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ที่ขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ด้วยจำนวนผู้ถือบัตรถึงเกือบ 900,000 ใบ (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน2567) ทั้งยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตร่วมสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มเซ็นทรัลได้เป็นอย่างดีตลอดจนมอบสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าในหลากหลายธุรกิจค้าปลีกและบริการของกลุ่มเซ็นทรัล ทั้งกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า, ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, ธุรกิจบริหารและการตลาดสินค้าแฟชั่น, ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ต, ธุรกิจร้านอาหาร รวมไปถึงธุรกิจดิจิทัลไลฟ์สไตล์ด้วยผลงานที่โดดเด่นนี้ ทางกลุ่มเซ็นทรัล จึงมีความยินดีที่จะแต่งตั้งบริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด ภายใต้กลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวันต่อเนื่องไปอีก 8 ปี ตั้งแต่ปี 2568 – 2575เพื่อร่วมกันต่อยอดและพัฒนาบริการทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าของกลุ่มเซ็นทรัลอย่างต่อเนื่อง พร้อมมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าการเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกันของทั้งสองบริษัทนี้จะสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจ และยกระดับวงการค้าปลีกและบริการ รวมถึงอุตสาหกรรมทางการเงินของประเทศไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น”
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 ได้มีการขยายสิทธิประโยชน์ให้สมาชิกบัตร และปรับภาพลักษณ์แบรนด์บัตรใหม่เป็นบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ที่มอบคะแนน The 1สูงสุด 4 เท่า และส่วนลดสูงสุด 10% ทั้งกลุ่มธุรกิจในเครือเซ็นทรัลทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีการขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีด้วยส่วนแบ่งตลาดในปัจจุบันที่เติบโตถึงเกือบ 3 เท่าและยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่เติบโตกว่า 2 เท่า เทียบกับพ.ศ. 2560 และยังได้รับรางวัลระดับนานาชาติถึง 13 รางวัลตั้งแต่พ.ศ. 2561 จนถึงปัจจุบัน อาทิ รางวัล Credit Card of the Year จากงาน Global Retail Banking Innovation Awards 4 ปี และรางวัล Best Credit Card Product จาก The Asian Banker Thailand Awards3 ปีโดยในปัจจุบัน บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน มีจำนวนฐานบัตรถึงเกือบ 900,000 ใบ และยอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ กว่า 110,000 ล้านบาทต่อปีและจากความร่วมมือครั้งล่าสุดนี้ กรุงศรี กรุ๊ป และกลุ่มเซ็นทรัล ยังมีแผนจะเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอย่างยั่งยืน